ผู้ว่าฯ บุรีรัมย์ใช้มาตรการปิดเมือง คัดกรองชาวต่างชาติ และทุกคนที่เดินทางเข้า-ออกจังหวัด ปิดแหล่งบริการสถานบันเทิง งดกิจกรรมทุกประเภทที่มีคนเกิน 50 เป็นเวลา 30 วัน หากฝ่าฝืนเอาผิดตาม กม. เพื่อป้องกันการระบาดเชื้อโควิดอย่างเข้มข้น พร้อมจัดเตรียมห้องแยกโรคทุก รพ.รับมือหากสถานการณ์ระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3
(16 มี.ค.63) นายธัชกร หัตถาธยากูล ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อระดับจังหวัด ที่ศูนย์ปฏิบัติการตอบโต้ภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุข บริเวณชั้น 1 สำนักงานสาธารณสุขจังหวัดบุรีรัมย์ พร้อมแถลงการเตรียมความพร้อมตอบโต้ภาวะฉุกเฉินรับมือสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา หรือโควิด 19 หลังจากประเทศไทยยังพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง โดยล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อสะสมจำนวน 144 ราย เสียชีวิต 1 ราย ดังนั้นทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันเฝ้าระวังป้องกันอย่างเข้มข้น โดยเฉพาะจังหวัดบุรีรัมย์ซึ่งถือเป็นเมืองท่องเที่ยวที่มีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ เดินทางเข้ามาเที่ยวเป็นจำนวนมาก ทางคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จึงมีมติเห็นชอบใช้มาตรการ “ปิดเมืองด้วยมาตรการสาธารณสุข” โดยการคัดกรองทั้งนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ และผู้ที่เดินทางเข้ามาในพื้นที่จังหวัดทุกคน ทั้งที่สนามบิน สถานีรถไฟ สถานีขนส่งผู้โดยสาร โรงแรมที่พัก พร้อมทั้งใช้ระบบติดตามเฝ้าระวังไข้ตลอด 14 วัน เริ่มตั้งแต่เข้ามาในจังหวัด
พร้อมทั้งให้หยุดพฤติกรรมเสี่ยงต่อการแพร่กระจายของโรค ด้วยการยกเลิกกิจกรรมการชุมนุม ประชุมสัมมนา กิจกรรมสันทนาการ งานประเพณี ปิดให้บริการสถานบันเทิง หรือตลาดนัดทุกแห่ง ที่จะมีประชาชนอยู่รวมกันมากกว่า 50 คนขึ้นไป เป็นระยะ 30 วันหรือจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยนแปลง ซึ่งหากผู้ประกอบการที่บุคคลใดฝ่าฝืนมาตรการดังกล่าว ก็จะต้องดำเนินการเอาผิดตามกฎหมาย
นอกจากนี้ยังมีการเตรียมความพร้อมด้านการแพทย์ กรณีที่พบผู้ป่วย โดยการจัดหอผู้ป่วยยืนยันการวินิจฉัย ห้องแยกโรค ห้องความดับลบ ในทุกโรงพยาบาล หากสถานการณ์การระบาดเข้าสู่ระยะที่ 3 ซึ่งจากข้อมูลรายงานพบว่าทั้งหวัดมีผู้เข้าเกณฑ์การสอบสวนโรคสะสม 567 ราย ติดตามเฝ้าระวังครบ 14 วันแล้ว 194 ราย ติดตามเฝ้าระวังยังไม่ครบ 14 วันจำนวน 373 ราย แต่ยังไม่พบการผู้ป่วย
ผู้ว่าราชการจังหวัดบุรีรัมย์ กล่าวว่า มาตรการปิดเมืองด้านสาธารณสุขในครั้งนี้ ก็เพื่อเป็นการควบคุมป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด 19 ซึ่งทุกภาคส่วนจะต้องร่วมมือกันอย่างจริงจัง ควบคู่กับการรณรงค์ให้ประชาชนกินร้อน ใช้ช้อนกลางส่วนบุคคล และล้างมือบ่อยๆ เพื่อลดความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ ผู้ว่ายังกล่าวทิ้งท้ายด้วย “เรายอมเจ็บเพื่อให้จบ ดีกว่ามันจบแล้วเจ็บ” หรือสุภาษิตจีนที่ว่า “ยอมเสียอวัยวะ เพื่อรักษาชีวิต”
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: