จับตำรวจบุรีรัมย์ กว่า 200 นาย ไม่เว้นแม้ผู้การฯ ตรวจปัสสาวะหาสารเสพติดโดยไม่แจ้งล่วงหน้า ผลการตรวจไม่พบสารเสพติด ขณะ ผบก.บุรีรัมย์ ลั่นตำรวจห้ามเสพและมีเอี่ยวกับยาเสพติดเด็ดขาด เผยที่ผ่านมามีตำรวจ 3 นาย เกี่ยวข้องคดียาเสพติดถูกจับติดคุก ออกราชการ และอยู่ระหว่างดำเนินคดี
(30 ม.ค.61) พลตำรวจตรีชัยยุทธ เจียรศิริกุล ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เป็นประธานเปิดโครงการตำรวจสีขาว เพื่อให้ข้าราชการตำรวจซึ่งมีหน้าที่ในการป้องกันปราบปรามยาเสพติดและบังคับใช้กฎหมาย ต้องไม่เป็นผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติด ซึ่งจะส่งผลให้ข้าราชการตำรวจมีภาพลักษณ์ที่ดี และเป็นการควบคุมเสริมสร้างความประพฤติไม่ให้ข้าราชการตำรวจเข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติด ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นศรัทธา ยอมรับและให้ความร่วมมือในการป้องกันและแก้ปัญหายาเสพติด โดยได้ให้ข้าราชการตำรวจทุกหน่วยในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ รวม 230 นาย ทำการตรวจหาสารเสพติดในปัสสาวะโดยไม่มีการแจ้งล่วงหน้า รวมถึงผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัด รองบังคับการตำรวจภูธรจังหวัด ก็เข้ารับการตรวจปัสสาวะในครั้งนี้ด้วยเช่นกัน โดยมีทีมเจ้าหน้าที่จากสำนักงานสาธารณสุขจังหวัดมาดำเนินการ ซึ่งผลการตรวจไม่พบสารเสพติดแต่อย่างใด
อย่างไรก็ตามพบว่าที่ผ่านมา ตั้งแต่ปี 2557-2560 พบว่า มีตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ เข้าไปเกี่ยวข้องกับยาเสพติดจำนวน 3 นาย เป็นตำรวจ ยศ ร.ต.ท. 1 นาย คดีเสพยาเสพติด ถูกออกจากราชการแล้ว ตำรวจ ยศ นายดาบตำรวจ 1 นาย คดีจำหน่ายยาเสพติด ถูกลงโทษจำคุก และเป็นตำรวจ ยศ ส.ต.ท. 1 นาย คดีจำหน่ายยาเสพติด อยู่ระหว่างดำเนินคดี
พล.ต.ต.ชัยยุทธ เจียรศิริกุล ผบก.ภ.จ.บุรีรัมย์ เผยว่า โครงการ “ตำรวจสีขาว” จัดขึ้นภายใต้แนวคิดของทางสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เนื่องจากเล็งเห็นว่า ปัญหายาเสพติดเป็นปัญหาใหญ่ที่สำคัญ ควรได้รับการแก้ไขเป็นอันดับต้นๆ โดยโครงการนี้จะมีการสุ่มตรวจปัสสาวะข้าราชการตำรวจ ในสังกัดทุกนาย ซึ่งตำรวจในสังกัดตำรวจภูธรจังหวัดบุรีรัมย์ มีทั้งหมดกว่า 2,700 นาย ซึ่งการตรวจปัสสาวะตำรวจในครั้งนี้ เพื่อไม่ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติด และเป็นการปลูกฝังให้มีการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดอย่างจริงจัง เพื่อให้ประชาชนเกิดความเชื่อมั่นศรัทธา ต่อการปฏิบัติหน้าที่ของข้าราชการตำรวจ
ซึ่งนอกจากมาตรการปราบปรามยาเสพติดแล้ว ตำรวจทุกนายต้องไม่เป็นผู้เสพหรือผู้เกี่ยวข้องกับยาเสพติดอย่างเด็ดขาด ซึ่งการระบาดในพื้นที่ จ.บุรีรัมย์ ยังพบอย่างต่อเนื่องและมีการจับกุมได้บ่อยครั้ง เพราะว่าเป็นเส้นทางลำเลียงไม่พบมีแหล่งผลิต ส่วนใหญ่มาจากประเทศเพื่อนบ้าน
