บุรีรัมย์ ผู้ประกอบการนักธุรกิจที่เข้าเกณฑ์ได้รับเบี้ยผู้สูงอายุตามนโยบายรัฐบาล แต่ประสงค์ที่จะไม่ขอรับเบี้ยยังชีพ แห่ร่วมโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพเข้ากองทุนผู้สูงอายุ เพื่อนำไปช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อย ดีเดย์วันแรก 1 ธันวาคม เผยอยากแบ่งปันช่วยเหลือผู้ที่ด้อยโอกาสมากกว่า ส่วนผู้สูงอายุที่บริจาคจะได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ
(1 ธ.ค.60) ที่ห้องประชุมเล็ก ชั้น 2 สำนักงานเทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ผู้ประกอบการ นักธุรกิจที่มีอายุเกิน 60 ปีเข้าหลักเกณฑ์ ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุตามนโยบายรัฐบาล แต่มีรายได้เพียงพอ และประสงค์ที่จะไม่ขอรับเบี้ยยังชีพ ได้มาแจ้งความประสงค์กับเจ้าหน้าที่กองสวัสดิการสังคม เทศบาลเมืองบุรีรัมย์ ไม่ขอรับเบี้ยยังชีพ ตามโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน 3.6 ล้านคน
ทั้งนี้กลุ่มผู้สูงอายุที่มีรายได้เพียงพอ และประสงค์จะไม่ขอรับเบี้ยยังชีพ สามารถแจ้งความประสงค์ได้ตั้งแต่ วันที่ 1 ธันวาคม เป็นต้นไป ที่สำนักงานเขตกรุงเทพมหานคร หรือในต่างจังหวัด ที่องค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) หรือเทศบาล ที่ได้ลงทะเบียนรับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุไว้ โดยนำบัตรประจำตัวประชาชน พร้อมกรอกแบบฟอร์มที่กระทรวงมหาดไทยกำหนด โดยผู้สูงอายุที่บริจาคเบี้ยยังชีพหากไม่ประสงค์บริจาคต่อ สามารถยกเลิกได้ทุกเมื่อ สำหรับผู้สูงอายุที่บริจาคจะได้รับเหรียญเชิดชูเกียรติ เป็นเหรียญพระคลัง ชนิดทองแดงชุบทอง ความสูงประมาณ 3.5 เซนติเมตร สลักข้อความ “ร่ำรวย สุขภาพดี อายุยืน” และข้อความ “เหรียญเชิดชูเกียรติ สำหรับผู้บริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุ” รวมทั้งยังสามารถนำไปใช้สิทธิลดหย่อนภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาได้เช่นกัน
นางอรพิน ไกรรณภูมิ อายุ 69 ปี ผู้สูงอายุที่บริจาคเบี้ยยังชีพ กล่าวว่า ตนมีความประสงค์ขอบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุทั้งจำนวนที่ได้รับ ตั้งแต่เดือนถัดจากเดือนที่ได้แจ้งความประสงค์เป็นต้นไป เพื่อนำเงินส่วนนี้ไปช่วยเหลือให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยต่อไป รู้สึกภูมิใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยครั้งนี้
ด้านนายประหยัด ต๊ะสุยะ ผู้อำนวยการศูนย์พัฒนาการจัดสวัสดิการสังคมผู้สูงอายุบ้านบุรีรัมย์ กล่าวว่า คณะรัฐมนตรีได้มีมติเมื่อวันที่ 7 พฤศจิกายน 2560ดำเนินโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ เพื่อเป็นเงินช่วยเหลือให้แก่ผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยในโครงการลงทะเบียนเพื่อสวัสดิการแห่งรัฐ จำนวน3.6 ล้านคน โดยเริ่มโครงการตั้งแต่วันที่ 1 ธันวาคม 2560 เป็นต้นไป จึงขอเชิญชวนผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุและมีรายได้หลังเกษียณที่เพียงพอแล้ว เข้าร่วมโครงการบริจาคเบี้ยยังชีพผู้สูงอายุเข้ากองทุนผู้สูงอายุ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือผู้สูงอายุที่มีรายได้น้อยกว่า 3 ล้านคนทั่วประเทศ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: