นครศรีธรรมราช : ญาติหญิงสาวผู้พิการ ใช้ศีรษะโขกผนัง ร้องสื่อต่อ หลังถูก จนท.พม.เมืองคอนโทรต่อว่า กรณีเข้าร้องสื่อขอให้ช่วย 2 ปู่ย่าที่แก่ชรา แถมมีโรคร้าย เลี้ยงดูหลานไม่ไหว หาหน่วยงานช่วย แต่กลับต้องรอคิวถึง 3 ปี กระทั่งเรื่องฉาว
วันที่ 11 สิงหาคม 2565 กรณีนางรัชดาภรณ์ บัวเมือง อายุ 60 ปี ได้เดินทางเข้าพบสื่อมวลชนร้องขอความช่วยเหลือ หลานสาวอายุ 24 ปี พิการช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ อาศัยอยู่กับปู่ย่าที่แก่ชรามาก ไม่สามารถเลี้ยงดูหลานสาวได้อีก เนื่องจากพบว่า ปู่ป่วยเป็นมะเร็ง จึงเดินทางมาร้องสื่อมวลชนขอให้ช่วยประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้องลงมาช่วยเหลือตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ความคืบหน้าล่าสุดทางเจ้าหน้าที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดนครศรีธรรมราช ที่รับผิดชอบงานคนพิการ ได้ชี้แจงว่า ทางสำนักงานฯ ได้มอบหมายให้เจ้าหน้าที่ไปให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้วตั้งแต่เดือนธันวาคม ปี 2564 แต่เนื่องจากตัวน้องพิการไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ จึงต้องส่งเรื่องไปยังส่วนกลาง เนื่องจากสถานสงเคราะห์ที่จะรับผู้พิการในลักษณะนี้ในพื้นที่ภาคใต้ไม่มี จึงต้องให้ส่วนกลางพิจารณาตามลำดับขั้นตอน ซึ่งจะใช้เวลานานเท่าไหร่นั้นทาง พม.นครฯ ไม่สามารถบอกเงื่อนไขของเวลาได้
ทำได้เพียงให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น เช่น ปรับปรุงผนังบ้านด้วยการนำวัสดุที่มีความนุ่มนวนสามารถซับแรงกระแทกได้เวลาน้องใช้ศีรษะโขกกับผนัง เพื่อจะไม่ให้เกิดการบาดเจ็บ พร้อมกับประสานความร่วมมือกับท้องถิ่นช่วยนำส่ง รพ.ตามที่แพทย์นัด นำเครื่องอุปโภค เครื่องยังชีพ ค่าครองชีพรายเดือนไปมอบให้ ระหว่างที่รอการตอบรับจากส่วนกลางได้เพียงอย่างเดียว
ขณะที่มีรายงานข่าวว่า ภายหลังที่สื่อมวลชนได้นำเสนอข้อมูลข่าวสารออกไป ทาง เจ้าหน้าที่ พม.ได้โทรมาต่อว่ากับทางญาติที่คอยให้การช่วยดูแลตัวน้องที่กำลังรอการช่วยเหลืออยู่ว่า
ข่าวน่าสนใจ:
“ไปแจ้งกับสื่อมวลชลทำไม รอแค่นี้ไม่ได้หรือ ทำให้ตนเองถูกตำหนิจากส่วนกลาง”
นางรัชฎาภรณ์กล่าวว่า ตนเองเพียงแค่ข้องใจเรื่องเวลาทำไมนานนับปี แต่หากชี้แจงให้ทราบก็เข้าใจได้ คำว่า ตามคิว มันนานสำหรับคนที่ต้องการความช่วยเหลือ เราชาวบ้านก็รักษาตามมีตามเกิด รู้เพียงว่าแต่คนที่มีความรู้ หน่วยงานราชการที่รับผิดชอบจะสามารถช่วยเหลือรักษาดูแลได้ดีกว่า อีกทั้งพี่ชายและพี่สะใภ้ก็แก่ชรามากจะตายวันตายพรุ่งเมื่อไหร่ ก็ไม่รู้ หากเป็นเช่นนั้นจริงใครจะดูแลหลาน สิ่งที่ทำไปนั้นมันเป็นการวางแผนอนาคตไม่ได้สร้างความเดือดร้อนให้กับใครแต่อย่างใด
ล่าสุดทราบว่าเมื่อช่วงบ่าย ทาง พม.นครฯได้นำรถเข้ามารับตัวหลานสาวไปตรวจหาเชื้อโควิด ก่อนพาอยู่ในความคุ้มครองดูแลยังบ้านพักฉุกเฉินของทางสำนักงานฯเป็นที่เรียบร้อยแล้ว นางรัชฎาภรณ์กล่าว
อ่านข่าวที่เกี่ยวเนื่องก่อนหน้าได้ที่ลิงก์ด้านล่างนี้
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: