นครศรีธรรมราช : กลุ่มเกษตรกรชาวสวนยางภาคใต้ เตรียมเคลื่อนทัพ จับตาสัปดาห์หน้า หลังแกนนำประชุมลับลงมติเคาะ 4 ข้อเรียกร้อง ผู้รับผิดชอบต้องตอบคำถามและแก้ปัญหาให้ได้ เหตุราคาตกฮวบ
วันที่ 14 สิงหาคม 2565 สถานการณ์ราคายางพาราใน จ.นครศรีธรรมราช ยังคงร้อนระอุ เนื่องจากราคาตกลงมาอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะราคาน้ำยางสด อำเภอฉวาง รถแทงก์หน้าสวน กก.ละ 41-42 บาท ลานเท-บ่อน้ำยางราคา กก.ละ 43 บาท ราคายางแผ่นรมควันโรงรมเอกชน-วิสาหกิจฯ กก.ละ 44 บาท ราคายางแผ่นรมควัน โรงรมสถาบันเกษตรกร กก.ละ 44-46 บาท เศษยาง กก.ละ 22-27 บาท
นายมนัส บุญพัฒน์ นายกสมาคมคนกรีดยางและชาวสวนยางรายย่อย เปิดเผยว่า ต้องยอมรับความเป็นจริงว่า ราคายางพาราทุกประเภทตกลงมาถึง 1 ใน 3 เหมือนขายยาง 300 บาท แต่กลับได้เงินมาเพียง 200 บาท เท่ากับเงินหายไป 100 บาท ซึ่งเงินที่เหมือนหายไปนี้ มากสำหรับคนมีอาชีพกรีดยางและเจ้าของสวนยาง แต่สำหรับคนที่ไม่เกี่ยวข้องกับสวนยาง จะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าความเดือดร้อนที่แท้จริงเป็นอย่างไร
วันนี้ ได้พูดคุยปัญหากับกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรในระดับแกนนำ กับกลุ่มคนกรีดยางทั้งภาคใต้ เป็นการภายใน เพื่อหาข้อสรุปแนวทางการเคลื่อนไหว โดยจะนัดกันที่ข้างอำเภอแห่งหนึ่ง และขอให้จับตาดูภายใน 3 วันนี้ (จันทร์-พุธ) ว่าจะเกิดอะไรขึ้น โดยขออุบไว้ก่อน หากบอกไปล่วงหน้าเกรงจะมีคนแปลกหน้ามาทักทายกันอีก จากการพูดคุยได้ข้อสรุป มีข้อเรียกร้อง 4 ข้อ เพื่อให้ผู้ที่มีอำนาจหน้าที่ออกมาชี้แจงและรับผิดชอบในสิ่งที่เกิดขึ้น คือ
1) ราคายางทุกประเภทที่ตกลงมาทุกวัน เป็นเพราะอะไร และมีแนวทางการแก้ปัญหาอย่างไร
2) ปล่อยให้ราคายางผิดรูปผิดร่างไปได้อย่างไร การซื้อขายยางแผ่นรมควันในการประมูล ที่ตลาดกลางยางพารานครศรีธรรมราชและพื้นที่ใกล้เคียง ราคายางแผ่นชั้นเลว สูงกว่าราคายางแผ่นรมควันชั้นดีได้อย่างไร มันผิดปกติ ซึ่งก่อนหน้านี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ออกมารณรงค์ให้สถาบันเกษตรกรผลิตยางมีคุณภาพ GMP แต่วันนี้ราคายางชั้นเลวกลับแพงกว่า คืออะไร
3) ความห่าง ระหว่างราคายางภายในประเทศ กับ ราคายางส่งออกต่างประเทศมากเกินไป พวกเราจะไม่ตกใจหากราคายางขึ้น-ลงตามธรรมชาติ ราคาที่มาตรฐานจะต้องมีความห่างอยู่ที่ประมาณ 5-7 บาท แต่นี่ห่างเป็น 10 กว่าบาท หน่วยงานที่รับผิดชอบ ปล่อยให้ผู้ประกอบการเป็นผู้กำหนดกันอย่างสนุกสนาน ผู้รับผิดชอบดูแล กลังนั่งนิ่งไม่ออกมารับผิดชอบอะไรเลย
4) ต้องมีผู้รับผิดชอบที่แท้จริง ที่ผ่านมา ทำเหมือนธุระไม่ใช่ อาจจะเป็นเพราะไม่ได้มีสวนยางจริง จึงไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไร ทำแบบรู้ทฤษฎีมากกว่าปฏิบัติ
“ทั้งหมดคือสิ่งที่คนกรีดยางและเจ้าของสวนยางต้องการคำชี้แจงจากผู้รับผิดชอบ เพราะท่านมีเงินเดือน แต่พวกเรามีเงินจากการกรีดยาง ยางคือเลือดในกระดูกสันหลังของพวกเรา พวกท่านต้องบอกและช่วยกันเติมเต็ม เราไม่ต้องการให้คนที่อิงการเมืองเข้ามาแก้ปัญหา คนที่รับผิดชอบจริงยังคงนิ่งไม่เคลื่อนไหว ท่านที่เป็นตัวแทนเกษตรกรควรออกมาบอกให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น และจะแก้ไขอย่างไร เตรียมชี้แจงให้ได้ว่าเงินออกจากกระเป๋าชาวสวนยาง 30% ได้อย่างไร ราคาไม่ทิ้งดิ่ง ตำต่ำอย่างเดียว” นายมนัส บุญพัฒน์
