นครศรีธรรมราช : ชาวบ้านตำบลกำแพงเซา และตำบลไชยมนตรี อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช เดือดร้อนหนักแรมปี หลังสะพานข้ามคลองอายุกว่า 40 ปี หักทรุด แต่ไม่มีใคร/หน่วยงานไหนเข้าแก้ไข ร้องสื่อช่วย วอน ผู้รับผิดชอบเร่งซ่อมด่วน ช่วงผลไม้ขนส่งไกลจำต้องเลี่ยงใช้งาน หากดื้อใช้ต้องเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต
วันที่ 21 สิงหาคม 2565 ชาวบ้านผู้ใช้ประโยชน์ร่วมกันของสะพานคอนกรีตข้ามคลองท่าดี ในพื้นที่ ม.3 ต.กำแพงเซา อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ร้องสื่อมวลชนขอให้ช่วย หลังสะพานดังกล่าวชำรุดเสียหายและทรุดหักกลางมานานแรมปี จนถึงขณะนี้ยังไม่มีหน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาซ่อมแซมแก้ไข วอนขอให้เห็นใจ เพราะเป็นสะพานในเส้นทางหลักที่เชื่อมต่อกันระหว่าง 2 ตำบล คือ ม.3 ต.กำแพงเซา และ ม.3 ต.ไชยมนตรี อ.เมืองนครศรีธรรมราช ซึ่งต่างพากันเดือดร้อนอย่างหนัก เพราะต้องเลี่ยงไปใช้เส้นทางที่ไกลกว่า และหวั่นเกรงว่าจะเกิดอันตราย เนื่องจากยังคงมีชาวบ้านบางส่วนที่จำเป็นต้องสัญจรผ่านสะพานนี้อยู่ แม้เป็นการฝ่าฝืนคำเตือนของหน่วยงานท้องถิ่น ที่นำป้ายมาปิดประกาศไว้ทั้งสองฝั่งก็ตาม
จากการลงพื้นที่ตรวจสอบพบว่า สะพานดังกล่าวเป็นสะพานคอนกรีตขนาดใหญ่ กว้างยาวประมาณ 3.5×10 ม. ที่ใช้ข้ามคลองท่าดี ตั้งอยู่ในพื้นที่บ้านย่านซื่อล่าง ม.3 ต.กำแพงเซา รอยต่อ บ้านหนองบัว ม.3 ต.ไชยมนตรี สร้างมากว่า 40 ปี ชื่อ ‘สะพานกำนันนูญ’ (ชื่ออดีตกำนันคนเก่าแก่ในพื้นที่) ชำรุดเสียหาย เนื่องจากถูกน้ำท่วมซ้ำซากหลายครั้ง จนริมตลิ่งถูกกัดเซาะพัง ตอม่อสะพานทรุด สังเกตได้จากเศษซากของต้นไม้ที่ล้มทั้งต้นได้ลอยมากับน้ำ ในช่วงน้ำท่วมปีที่ผ่านมา และยังคงติดอยู่ที่ตอม่อสะพาน ส่งผลให้เกิดการกีดขวางทางน้ำและทับถมกัน โดยไม่มีหน่วยงานใดนำขึ้นมา ซึ่งผู้คนโดยทั่วไปต่างจำเป็นจะต้องใช้สะพานนี้ โดยเฉพาะชาวบ้านทั้ง 2 ตำบล ที่ต้องไปมาหาสู่กัน ที่สำคัญไว้ใช้ขนส่งผลผลิตทางการเกษตร โดยเฉพาะช่วงฤดูผลไม้
จากสภาพตัวสะพานที่ชำรุดทรุดหักกลาง รถใหญ่ไม่สามารถสัญจรไป-มาได้ มีเพียงรถเล็กเท่านั้นที่ยังคงใช้งานอยู่ประปราย ดินตลิ่งบริเวณคอสะพานถูกกระแสน้ำกัดเซาะ เว้าเป็นหลุมลึกขนาดใหญ่ทั้งสองฝั่ง ท้องถิ่น โดย อบต.กำแพงเซา นำป้ายเตือนมาปิดประกาศไว้อย่างชัดเจน ระบุ ‘อันตราย สะพานชำรุดห้ามใช้เส้นทางนี้โดยเด็ดขาด โปรดเลี่ยงใช้เส้นทางอื่น’
ข่าวน่าสนใจ:
- บุรีรัมย์ จัดนิทรรศการศิลปะ รักษ์โลก รักเรา จุดพลังเยาวชน ประกวดวาดภาพชิงรางวัล 60,000 บาท (มีคลิป)
- บุรีรัมย์ ไฟไหม้บ้าน 2 หลัง เสียหายหนัก โชคดีไม่มีคนอยู่บ้าน
- สนามแข่งบุญชิงถ้วยพระราชทานงานพ่อโสธร เจ้าถิ่นครองเจ้าสนาม 55 ฝีพาย
- สาว 31 ขับวีโก้ หวิดถูกย่างสด ไฟลุกวอดทั้งคัน พลเมืองดีช่วยทัน รอดหวุดหวิด
พร้อมทำเครื่องหมายสัญลักษณ์ ห้ามรถทุกประเภทข้ามผ่าน รวมถึงการเดินเท้าด้วย ทราบว่าทาง อบต.นำป้ายมาปิดประกาศไว้ หลังสะพานชำรุดใหม่ ๆ พร้อมนำตอไม้ขนาดใหญ่มาปิดกั้นขวางทางไว้เพื่อไม่ให้ชาวบ้านใช้สัญจร แต่ปัจจุบันพบการฝ่าฝืนใช้งาน โดยนำสิ่งกีดขวางออก เพื่อให้รถเล็กสามารถแล่นผ่านได้ ด้วยเพราะเหตุความจำเป็น เนื่องจากเส้นทางดังกล่าวเป็นเส้นทางหลัก ที่สามารถย่นระยะทางการเดินทางระหว่างพื้นที่ต่อพื้นที่ได้กว่า 15-20 กม. แต่ชาวบ้านอีกมากค่อนข้างกังวล เพราะหวั่นว่าอาจเกิดอันตรายได้ในอนาคต
ชาวบ้านในพื้นที่เล่าว่า สะพานแห่งนี้ เป็นสะพานสายสำคัญในการขนส่งสินค้าทางการเกษตรเพื่อนำออกสู่ตลาด ในช่วงฤดูผลไม้ หลังสะพานนี้ทรุด ชาวบ้านส่วนหนึ่งที่ห่วงเรื่องความปลอดภัย จึงเลี่ยงไปใช้อีกเส้นทางหนึ่ง แต่ระยะการเดินทางห่างไกลออกไปอีก เวลาจะออกมาซื้อสินค้าอุปโภค-บริโภคที่ร้านค้าในหมู่บ้าน ก็ลำบาก ระหว่างหมู่บ้านต่อหมู่บ้านจะไกลเพิ่มขึ้นนับ 10 กม. จึยังมีชาวบ้านอีกส่วนหนึ่ง ที่ยังคงฝ่าฝืนใช้สัญจรอยู่ เพราะเป็นเส้นทางที่ใช้ประจำ ใกล้ ไป-มาสะดวก แม้จะหวั่นใจว่าอาจจะเกิดอันตรายขึ้นได้ทุกขณะก็ตาม เพราะประหยัดเวลาและค่าใช้จ่าย
แต่ในเมื่อไม่มีใครหรือหน่วยงานไหนเข้ามาแก้ไขสักที จึงจำต้องยอมเสี่ยง และขอเรียกร้องอ้อนวอนหน่วยงานที่รับผิดชอบเร่งเข้ามาสำรวจและซ่อมแซมโดยเร็วที่สุด ก่อนที่จะทรุดตัวไปมากกว่านี้ และอาจเกิดอุบัติเหตุ ส่งผลต่อชีวิตและทรัพย์สินของชาวบ้านโดยประเมินค่าไม่ได้ขึ้นในอนาคต
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: