นครศรีธรรมราช : สถานการณ์น้ำท่วม จ.นครศรีธรรมราช เริ่มคลี่คลายลง หลังฝนขาดช่วง แต่ยังคงต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชม. เนื่องจากท้องฟ้ายังเต็มไปด้วยเมฆฝน หลายอำเภอน้ำหลากเข้าท่วมเสียหาย พ่อเมืองสั่งเตรียมแผนอพยพคน หากเกิดวิกฤติ
วันที่ 5 ธันวาคม 2565 จากสถานการณ์ฝนตกหนักติดต่อกัน 3 วันในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ส่งผลให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมหลายอำเภอ อาทิ อ.ท่าศาลา, สิชล, ขนอม รวมถึง อ.เมือง บางส่วน เกิดน้ำท่วมขัง ซึ่ง อ.ท่าศาลา และ อ.สิชล ได้รับผลกระทบหนักที่สุด เนื่องจากมีน้ำป่าไหลหลากรุนแรง ถึงขั้นมีคำสั่งจากผู้ว่าราชการจังหวัด นายอภินันท์ เผือกผ่อง ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะท้องที่ท้องถิ่น ผู้นำชุมชน เตรียมแผนอพยพผู้คนออกจากพื้นที่ หากเกิดสถานการณ์วิกฤติขึ้น
นายอภินันท์ กล่าวภายหลังลงตรวจสอบและติดตามดูสถานการณ์น้ำใน ต.ท่าขึ้น อ.ท่าศาลา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหาย หลังรับน้ำมาจาก อ.นบพิตำ และเป็นพื้นที่เสี่ยงสูง โดยประเมินสถานการณ์ อาจจำเป็นต้องอพยพผู้คนออกจากพื้นที่เสี่ยงภัยสูงสุดทั้ง 2 อำเภอ คือ ท่าศาลาและสิชล จึงได้เรียกนายอำเภอ กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายก อบต. ทีมงานอาสาสมัครช่วยเหลือผู้ประสบภัย และส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ร่วมประชุมวางแผนการเผชิญเหตุ
จึงสั่งการให้เตรียมความพร้อมกำลังพลและยุทโธปกรณ์ตลอด 24 ชม. เพื่อเตรียมการช่วยเหลือประชาชน ในการเข้าอพยพออกจากพื้นที่เสี่ยงไปอยู่ในที่ปลอดภัย
ส่วน อ.สิชล บริเวณ ต.เสาเภา และ ต.ทุ่งใส ซึ่งเป็นจุดรับน้ำจากเขาพับผ้า เทือกเขาหลวงนครศรีธรรมราช มีน้ำท่วมสูง หลังน้ำหลากเข้าเมื่อช่วงกลางดึกของคืนที่ผ่านมา จนถึงขณะนี้สถานการณ์ยังไม่คลี่คลาย จึงได้ประชุมร่วมกับ นายอำเภอสิชล ผู้นำท้องที่ ท้องถิ่น และทหารหน่วยฝึกรบพิเศษสิชล ซึ่งส่งกำลังทหารช่วยเหลือ 6 ชุดปฏิบัติการ ประมาณ 200 นาย เตรียมแผนเผชิญเหตุ การช่วยเหลือและอพยพประชาชน โดยกำชับการช่วยเหลือทุกด้านต้องเป็นไปอย่างรวดเร็ว ทันท่วงที โดยมีกำลังตำรวจน้ำขนอม ลงพื้นที่สมทบช่วยเหลือประชาชนที่ถูกน้ำท่วมและแจกถุงยังชีพในเบื้องต้นแล้ว
สรุปพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะฝนตกหนัก น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำท่วมขัง ครั้งนี้ ประกอบไปด้วย
อ.สิชล ได้รับผลกระทบ 4 ตำบล 11 หมู่บ้าน โดยเฉพาะ ม.7, 10, 14, 15 ต.เทพราช นอกจากนี้ น้ำยังท่วมเส้นทางสัญจร ม.10 ต.เทพราช สะพานข้ามคลองเผียนขาด ประชาชนได้รับผลกระทบ 200 ครัวเรือน 600 คน โดยพรุ่งนี้ (6 ธันวาคม) ชลประทานจะติดตั้งสะพานแบริ่งชั่วคราวจุดที่พังเสียหาย
ที่ ม.4 ต.เปลี่ยน น้ำท่วมเส้นทางสัญจร, ต.สี่ขีดที่ ม.1 คอสะพานชำรุดเนื่องจากน้ำกัดเซาะ ม.8 เสาไฟฟ้าล้มขวางถนน รถไม่สามารถสัญจรได้
ต.ทุ่งปรัง ม.4, 6,10 น้ำท่วมเส้นทางจราจร
ต.เสาเภา ม.3 น้ำล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนประชาชนบริเวณริมตลิ่ง วัด และโรงเรียนปากด่าน
ขณะที่ถนนบางฉาง–คอเขา ต.สิชล พายุพัดกระหน่ำต้นมะพร้าวหักโค่นล้มขวางถนน เจ้าหน้าที่กู้ภัยและทีมงานพญานาคเทศบาลฯ นำเลื่อยยนต์ตัดซากต้นมะพร้าว จนสามารถเปิดใช้เส้นทางการจราจรได้ตามปกติแล้ว
ที่ อ.นบพิตำ น้ำป่ากัดเซาะคอสะพาน ทางขึ้นบ้านหกพู บริเวณหมู่ 2 บ้านเขาเหล็ก ต.นบพิตำ รถขนาดใหญ่ไม่สามารถสัญจรได้ จนท.แขวงการทางฯ เร่งนำเครื่องจักรเข้าซ่อมแซม
อ.เมืองนครศรีธรรมราช ม.8 ต.โพธิ์เสด็จ ชุมชนบ่อทรัพย์ ชุมชนท่าช้าง น้ำท่วมบ้านเรือนประชาชน ได้รับผลกระทบ 15 ครัวเรือน 30 คน โดย ม.8 น้ำท่วมถนนเลียบคลองวังมะพร้าว สูงประมาณ 50 เซนติเมตร
สภาพอากาศล่าสุด วันนี้ (5 ธ.ค.) บางพื้นที่ยังคงมีฝนตก ขณะหลายพื้นที่ฝนขาดช่วง แต่ท้องฟ้ายังคงมืดครึ้มปกคลุมไปด้วยเมฆฝนตลอดทั้งวัน พื้นที่ราบลุ่มหลายแห่งยังคงมีน้ำท่วมขัง
ผู้ว่าราชการจังหวัดนครศรีธรรมราช ยังคงสั่งการไปยังนายอำเภอทั้ง 23 อำเภอ เทศบาล และ อบต.ทุกแห่ง ให้เฝ้าระวังติดตามสถานการณ์ฝนอย่างใกล้ชิด รวมถึงการเตรียมพร้อมรับมือน้ำท่วม น้ำป่าไหลหลากต่อไป ถึงแม้ฝนจะหยุดตกแล้วก็ตาม เนื่องจากสภาพอากาศยังไม่น่าไว้วางใจ ทุกหน่วยต้องเฝ้าระวังตลอด 24 ชม.
ด้านสำนักงานชลประทานที่ 15 ออกประกาศแจ้งเตือนสถานการณ์น้ำ ในลุ่มน้ำคลองเสาธง ซึ่งอาจทำให้มีน้ำล้นตลิ่ง เข้าท่วมพื้นที่บ้านเรือน ที่ทำการเกษตรของประชาชนได้ในหลายพื้นที่ ให้เตรียมรับมือขนย้ายสิ่งของไว้ที่สูงให้ปลอดภัย รวมถึงให้ติดตามสถานการณ์สภาพอากาศอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะพื้นที่อาศัยที่อยู่ริมฝั่งคลอง และลุ่มต่ำ บริเวณดังต่อไปนี้
ต.เสาธง อ.ร่อนพิบูลย์
ต.ช้างซ้าย ต.ท้ายสำเภา อ.พระพรหม
ต.ทางพูน ต.ดอนตรอ อ.เฉลิมพระเกียรติ
ต.ชะเมา อ.ปากพนัง
รวมทั้งพื้นที่ลุ่ม จะต้องรับน้ำจากคลองเสาธงด้วยเช่นกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: