หญิงสาวโรงแรม ซึ่งถูกแท็กซี่ทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บ เดินทางเข้าพบหัวหน้าพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน อีกครั้งโดยแจ้งความเพิ่มเติมให้ทางเจ้าหน้าที่ดำเนินการกับกรณีหญิง 2 คนที่ให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง ทำให้เกิดความเสียหายและข้อมูลที่เป็นเท็จในขณะเดียวกัน แท็กซี่ที่ลงมือทำร้ายได้ยอมขอโทษและลงบันทึกประจำวันไว้เป็นหลักฐานว่าทางแท็กซี่จะไม่ยุ่งเกี่ยวทั้งทางวาจา ทางเฟสบุ๊คส์ รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แต่อย่างใด ส่วนการดำเนินคดีเบื้องต้นทางตำรวจ สภ.หัวหิน ยังไม่ได้ส่งฟ้องศาลจังหวัดหัวหิน เนื่องจากอยู่ระว่างการดำเนินการอยู่
ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้า กรณีหนุ่มแท็กซี่ก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นางสาวศศิวิมล ศรีคำ พนักงานต้อนรับโรงแรมแห่งหนึ่งในหมู่บ้านเขาตะเกียบ ขณะเดินผ่านคิวแท็กซี่ และได้มีการพูดจากระทบกระทั่งกันจนนางสาวศศิวิมล ได้รับบาดเจ็บที่ศรีษะ และปาก โดยหนุ่มแท็กซี่ที่ก่อเหตุรายนี้เป็นคนเดียวกับชายในคลิป ที่ประกาศกระทืบผู้ให้บริการแกร๊บไบค์แกร๊บคาร์ที่เข้ามาอำเภอหัวหิน และต่อมาผู้เสียหายได้มีการแจ้งความต่อตำรวจ สถานีตำรวจภูธรหัวหินเหตุเกิด(เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2561 ที่ผ่านมา) ซึ่งพันตำรวจเอกธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหินได้เชิญตัวนายจักรกฤช หรือ ก้อง พึ่งเจาะ อายุ 38 ปี อาชีพคนขับรถแท็กซี่คิวเขาตะเกียบมาสอบปากคำ และรับทราบข้อกล่าวหา โดยนายก้อง หนุ่มแท็กซี่ ยอมรับสารภาพว่าเป็นลงมือก่อเหตุทำร้ายร่างกายนางสาวศศิวิมลจริง และยอมรับผิดทุกข้อกล่าวหา ภายหลังจากสอบปากคำ พนักงานสอบสวนได้ตั้งข้อกล่าวหา ทำร้ายร่างกายผู้อื่นโดยไตรตรองไว้ก่อน และปล่อยตัวไป เนื่องจากนายจักรกฤชยอมรับสารภาพ จากนั้นจะนัดมาฟ้องศาลจังหวัดหัวหิน
ซึ่งความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ 29 พฤษภาคม 2561 นางสาวศศิวิมล ศรีขำ พนักงานโรงแรม แห่งหนึ่งในหมู่บ้านเขาตะเกียบ ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้เดินทางเข้าพบ พันตำรวจโท ไชยวิวัฒน์ จันทร หัวหน้าพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหัวหิน เพื่อแจ้งความเพิ่มกรณีถูกหมื่นประมาทและให้ข้อมูลที่เป็นเท็จ จากการให้สัมภาษณ์ของหญิง 2 คนต่อสื่อมวลชนทางสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง( เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2561) ที่ผ่านมาโดยทางหัวหน้าพนักงานสอบสวน ไม่อนุญาตให้สื่อมวลชนเข้าไปรับฟัง
หลังจากนั้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน ได้เชิญตัวนายจักรกฤช หรือ ก้อง พึ่งเจาะ อายุ 38 ปี อาชีพคนขับรถแท็กซี่ที่ทำร้ายนางสาวศศิวิมล มาพบหัวหน้าพนักงานสอบสวนอีกครั้ง และได้ยอมขอโทษนางสาวศศิวิมล ผู้เสียหาย และได้พูดคุยกับผู้เสียหายภายในห้องพนักงานสอบสวน ด้วยว่าขอให้นางสาวศศิวิมล อยู่ที่หัวหินต่อไปมีความปลอดภัยและหากมีกลุ่มคนรอบข้างของตนเอง มาแสดงกิริยาหรือพูดจาสร้างความเสียหาย หรือมาคุกคาม ข่มขู่ ขอให้มาแจ้งตนเองซึ่งจะดำเนินการให้ทันที ส่วนเรื่องคดีทำร้ายร่างกายนั้นก็ขอให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป
พันตำรวจโท ไชยวิวัฒน์ จันทร หัวหน้าพนักงานสอบสวน สถานีตำรวจภูธรหัวหิน ได้พานางสาวศศิวิมล ศรีขำ พนักงานโรงแรมแห่งหนึ่งในหมู่บ้านเขาตะเกียบ ผู้ได้รับบาดเจ็บ และนายจักรกฤช หรือ ก้อง พึ่งเจาะ ผู้ที่ลงมือทำร้ายไปลงบันทึกประจำวันเอาไว้เป็นหลักฐาน ตามที่นางสาวศศิวิมล ต้องการ โดยระบุว่าทางนายจักรกฤช จะไม่ยุ่งเกี่ยวทั้งทางวาจา และทางเฟสบุ๊คส์ กับนางสาวศศิวิมล อีกต่อไป รวมถึงความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน แต่อย่างใด ส่วนกรณีคดีทำร้ายร่างกายนั้นให้เป็นไปตามกฎหมายต่อไป ซึ่งทั้ง 2 ได้ลงลายมือชื่อไว้เป็นหลักฐาน หลังจากนั้นนายจักรกฤช ได้เดินทางกลับทันที
ในขณะเดียวกัน นางสาวศศิวิมล ศรีขำ พนักงานโรงแรม ผู้ได้รับบาดเจ็บ ได้แจ้งความต่อพนักงานสอบสวนต่อกรณีที่ถูกหมื่นประมาท และให้ข้อมูลที่เป็นเท็จต่อสื่อมวลชนสถานีโทรทัศน์ช่องหนึ่ง(เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2561) ซึ่งทำให้เกิดความเสียหายต่อชื่อเสียง โดยขอให้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน ดำเนินการสืบสวนสอบสวนเอาผิดกับผู้หญิง 2 คนตามหลักฐานที่นำมามอบให้ไว้เป็นเบื้องต้น
อนึ่งทางพนักงานสอบสวน สภ.หัวหิน ได้นัดมาให้ปากคำเพิ่มเติมในรายละเอียดอีกครั้งในวันที่ 30 พฤษภาคม 2561 ต่อไป ซึ่งนางสาวศศิวิมล ศรีขำ พนักงานโรงแรมผู้ที่ได้รับบาดเจ็บถูกทำร้าย ซึ่งเย็บแผลรวมกัน 5 เข็ม เบื้องต้นอาการดีขึ้นตามลำดับ และแพทย์นัดพบอีกครั้งเพื่อดูบาดแผล ถึงแม้ว่าวันนี้นายจักรกฤช จะขอโทษแล้วก็รู้สึกสบายใจขึ้น
ด้านพันตำรวจเอกธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน กล่าวว่าขณะนี้ยังรอใบแพทย์จากแพทย์โรงพยาบาลหัวหิน มาประกอบสำนวนถึงจะส่งตัวนายจักรกฤช หรือ ก้อง พึ่งเจาะ ผู้ที่ลงมือทำร้าย ส่งฟ้องศาลจังหวัดหัวหินต่อไป ซึ่งการที่นายจักรกฤช ผู้ที่ลงมือทำร้ายนั้น และได้เดินทางมาพบคู่กรณีและยอมขอโทษ นั้นก็ถือว่าเป็นการแสดงความรับผิดชอบ รวมทั้งมีการลงบันทึกประจำวันส่วนคดีก็ดำเนินไปตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป สิ่งที่เกิดขึ้นก็ยอมรับว่ากระทบต่อภาพลักษณ์ของเมืองหัวหิน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: