ประจวบคีรีขันธ์– นักเรียนพาณิชย์วิทยาลัยเทคนิคประจวบคีรีขันธ์ เข้าร้องศูนย์ดำรงธรรมประจวบคีรีขันธ์ หลังผู้บริหารเปลี่ยนระบบการเรียนเป็นทวิภาคี กระทบคุณภาพทางวิชาการและต้นทุนค่าใช้จ่ายที่เพิ่มสูงขึ้น ลดขนาดห้องเรียนเหลือเพียงห้องเดียว #77 ข่าวเด็ดประจวบคีรีขันธ์ (พลไชย ภิรมย์ศรี)
วันที่ 11 ธันวาคม 2562 ที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กลุ่มนักศึกษาจากวิทยาลัยเทคนิคประจวบคีรีขันธ์ แผนกบัญชี รวมตัวกันมาที่ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อยื่นหนังสือร้องเรียน ผู้บริหารวิทยาลัยเทคนิคประจวบคีรีขันธ์ ที่เปลี่ยนระบบการเรียนในปีการศึกษา 2563 ตามหลักสูตรการเรียนการสอนวิทยาลัย จะต้องเปิดการสอนระดับ ปวส. ระบบปกติและระบบทวิภาคี เป็นการเปิดการเรียนการสอนระบบทวิภาคีเพียงอย่างเดียว จากเดิมที่มีการการระบบปกติมาตลอด 30 ปี และเปิดระบบทวิภาคีควบคู่กัน ซึ่งระบบทวิภาคี คือการเรียนในวิทยาลัย 1 ปี และไปทำงานในโรงงานหรือสถานประกอบการอีก 1 ปี
ข่าวน่าสนใจ:
- นราธิวาส-สุดทน! พ่อค้าแม่ค้าร้อง ส.ส.นำเรื่องเข้าสภาฯ หลัง "บอสตลาดเก็นติ้ง" จัดหนัก! ปรับราคาเช่า-ต่อสัญญาสูงลิ่ว
- สุดยอดงานกฐินบุญต่อชีวิตคน พระอาจารย์เขียวทอดกฐินสามัคคีจัดซื้อรถพยาบาลฉุกเฉินและอุปกรณ์ทางการแพทย์มุลค่ากว่า5ล้านบาท
- นครพนม สุดสลดเพลิงพิโรธรุ่งวอด 9 หลัง ชาวบ้านไร้ที่อยู่ จนท.เร่งช่วยเหลือ
- ‘นครพนม’ เดินหน้าขับเคลื่อน ‘นครพนมโมเดล’ ป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด เพื่อให้ประชาชนมีความสุขที่สุด
ซึ่งข้อเรียกร้องของนักศึกษาวิทยาลัยเทคนิคและกลุ่มผู้ปกครอง คือ
1.วิทยาลัยเทคนิคประจวบคีรีขันธ์ อยู่ในตัวเมืองประจวบคีรีขันธ์ มีจำนวนนักเรียนที่เขตพื้นที่จำนวนมาก ขณะที่สถานประกอบการในสาขาวิชาที่เรียนโดยเฉพาะสาขาบัญชีการเงิน มีในเขตพื้นที่น้อย
2.นักเรียนที่จะไปศึกษาต่อระดับปริญญาตรี หลังจบ ปวส. การเรียนในระบบทวิภาคีส่งผลให้โอนหน่วยกิตเข้ามหาวิทยาลัยได้น้อย เนื่องจากระบบทวิภาคี มีเวลาเรียนแค่ 1 ปี ขณะที่ระบบปกติ เรียน 2 ปี จึงไม่ได้เรียนในบางรายวิชา
3.ระบบทวิภาคีอาจมีประโยชน์สำหรับนักศึกษาช่างอุตสาหกรรม ซึ่งสามารถฝึกงานในโรงงานได้ แต่สำหรับนักศึกษาพาณิชยการ จะต้องฝึกในสำนักงานทำบัญชีเท่านั้น ซึ่งสถานประกอบการในอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ไม่เพียงพอต่อจำนวนนักศึกษา
4.การฝึกงานระยะเวลา 1 ปี เกิดค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม เช่น ค่าครองชีพ ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ทำให้ผู้ปกครองที่มีรายได้น้อยได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนระบบการเรียน
5.การฝึกงานไกลจากบ้านเป็นระยะเวลานาน ทำให้ผู้ปกครองเป็นห่วงสวัสดิภาพความปลอดภัยของบุตรหลานที่ไปอยู่ไกลจากบ้าน
นางชุลีพร ชุมพล อายุ 52 ปี ผู้ปกครองนักศึกษาพาณิชยการสาขาบัญชี กล่าวว่า หากเรียนในระบบทวิภาคี ความรู้ไม่แน่นแน่นอน ตนเองเรียน ปวส.ที่วิทยาลัยเทคนิคประจวบคีรีขันธ์ เมื่อ 30 ที่แล้ว ซึ่งใช้ระบบปกติ สาขาบัญชีเป็นการเรียนที่ยาก หากเรียนเพียงปีเดียว ความรู้ไม่มากพอ และสถานประกอบคงไม่ให้นักศึกษาจับงานที่มีความละเอียดหรือยาก เพราะจะกระทบต่อชิ้นงานลูกค้าของบริษัท ซึ่งหนึ่งปี ที่ฝึกงานกับเอกชนจะไม่ได้ประโยชน์ และค่าใช้จ่ายของผู้ปกครองที่หลายคนไม่ได้มีความพร้อมในการใช้จ่ายที่เพิ่มขึ้น
น.ส.ก้อย (นามสมมุติ) นักศึกษา ปวช.ปี 3 สาขาบัญชี กล่าวว่า การเปลี่ยนจากระบบปกติเป็นระบทวิภาคี ในปีการศึกษา 2562 ชั้น ปวส เปิดเรียน 2 ห้อง มีนักเรียนที่เรียนระบบปกติจำนวน 80 คน ส่วนทวิภาคีมี 11 คน ส่วนในปี 2563 จะยุบห้องเรียนเหลือเพียง 1 ห้อง และบังคับให้ทุกคนลงเรียนระบบทวิภาค ขณะที่นักเรียน ปวช.ปี 3 จำนวน 90 คน มี 3 ห้อง เมื่อจะเรียนต่อชั้น ปวส. จะทำให้วิทยาลัยรับนักศึกษาได้น้อยลงกว่าครึ่ง และหลายคนไม่พร้อมที่เรียนระบบทวิภาคี ซึ่งห้องเรียนที่เปิดรองรับได้ประมาณ 40 คน ในสาขาบัญชีเมื่อทำงานต้องฝึกในสำนักงานบัญชีเท่านั้น ซึ่งนักศึกษาต้องไปอาศัยที่อำเภอหัวหินซึ่งมีสถานประกอบการมากแต่ไกลจากอำเภอเมืองเกือบหนึ่งร้อยกิโลเมตร ทำให้มีค่าใช้จ่ายสูง ที่สำคัญการเรียนทวิภาคี จำนวนหน่วยกิตหรือวิชาเรียนหายไปหลายวิชา เพราะเรียนทฤษฎีในชั้นเรียนเพียงหนึ่งปี หากฝึกทำงานจริงการทำบัญชีเป็นเรื่องยากต้องมีพื้นฐานที่ดีวิทยาลัย ซึ่งสถานประกอบการคงไม่มาสอนเข้ม ทำให้ความรู้ของนักศึกษาน้อยกว่าระบบปกติ รวมถึงการศึกษาต่อในระดับปริญญา และจำนวนหน่วยกิตที่เทียบโอนไม่ได้
ล่าสุด ศูนย์ดำรงธรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับเรื่องร้องทุกข์ดังกล่าวไว้แล้ว จากนั้นจะมีการรายงานให้ นายพัลลภ สิงหเสณี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ รับทราบรวมทั้งจะต้องมีการเชิญ ผู้อำนวยการวิทยาลัยเทคนิคประจวบคีรีขันธ์มาสอบถามข้อเท็จจริง และประชุมหาข้อสรุปร่วมกันทุกฝ่าย ทั้งนี้ในส่วนของนักเรียนยืนยันว่า หากยังไม่การดำเนินการแก้ไขในเรื่องนี้จะมีการเคลื่อนไหวต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: