ประจวบคีรีขันธ์– ชุดปฏิบัติการข่าว(ชปข.)ที่ 3 กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 ค่ายพระมงกุฎเกล้า นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดการข่าว ซุ่มจับชาวเมียนมาลักลอบขนกระท่อมผงข้ามชายแดนไทย-เมียนมา ได้ของกลาง 14 ถุงปุ๋ย พร้อมผู้ต้องหา 1 ราย และอาวุธปืนลูกซองไทยประดิษฐ์ นอกจากนั้นยังมีส่วนคุ้มกันอีกหลายคนมีอาวุธสงคราม ตามหลังมาแต่ไหวตัวหนีกลับข้ามเข้าประเทศ # 77 ข่าวเด็ดประจวบคีรีขันธ์ (พลไชย ภิรมย์ศรี รายงาน)
วันที่ 19 ธันวาคม 2562 ด.ต.ดำเนิน คุ้มสา หัวหน้าชุดปฏิบัติการข่าว(ชปข.)ที่ 3 กองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 นำกำลังเจ้าหน้าที่ชุดการข่าว 5 นาย ดักซุ่มขบวนการลักลอบนำกระท่อมผงจากประเทศเมียนมาเข้าประเทศไทย ภายหลังสืบทราบจากสายลับ โดยแอบที่ช่องเขากล้วย บริเวณชายป่าด้านหลังวัดรัตนวิเวกวราราม หมู่ 6 บ้านสิงขร ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่ช่วงเช้า ต่อมาทราบว่าขบวนการค้ากระท่อมผงได้นำกำลังคนมาด้วยกว่าสิบคน จึงประสานกำลังในพื้นที่ประกอบด้วย เจ้าหน้าที่ตำรวจ ตชด.146 ,ตม.ประจวบคีรีขันธ์ ,ตำรวจ สภ.คลองวาฬ กองร้อย อส.จังหวัด เจ้าหน้าที่ปกครองอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดและ ทหาร ฉก.จงอางศึก ภายในการอำนวยการ พ.ต.อ.ปฐม อุ่นอบ ผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 ค่ายพระมงกุฎเกล้า พ.ต.ต.สัมฤทธิ์ จันทร์ประทัด ผู้บังคับกองร้อย ตชด.146 พ.ต.อ.สุทธิพง์ พุทธิพงษ์ ผกก.ตม.จ.ประจวบคีรีขันธ์ พ.ต.ต.สันติ อ่อนน้อม สารวัตร ตม.ด่านสิงขร พ.ต.อ.สิชิน กิจกสิกร ผกก.คลองวาฬ พ.อ.ธีรยุทธฑ์ เส้งรอด รอง ผบ.ฉก.จงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ นายธนู มณฑาทอง ปลัดอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ นายณัฐวุฒิ จันทร์แก้ว ปลัดอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ฝ่ายความมั่นคง นายกิตติรัตน์ ส้มแป้น ผู้ช่วยป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ข่าวน่าสนใจ:
- ตรัง ร้านอาหารผวา!! แก๊งคอลเซ็นเตอร์ป่วน อ้างสั่งอาหารหรู "พระกระโดดกำแพง" หลอกร้านดังเกือบเสียเงินแสน
- ต้องยกนิ้วให้ ! “เจ้าสไปร์ท” เด็กชาย พชรพล บัณฑิศักดิ์ นักกีฬาฟุตบอลทีมบ้านดอน FC รุ่น อายุ 11 ปี จ.สุราษฎร์ธานี คว้าแชมป์รายการวิ่งมาราธอน
- ประเดิม 10 วันอันตรายแปดริ้ว ยักษ์โหม่งยักษ์ดับ 1 คามอเตอร์เวย์สาย 7
- พ่อค้ายาหัวใส!! ซุกยาในหัวชาร์ตโทรศัพท์มีรูปสติกเกอร์โดเรม่อน ตบตาเจ้าหน้าที่ ถูกฝ่ายปกครองรวบพร้อมของกลาง จ.สระแก้ว
โดยในช่วงเย็นที่ผ่านมาได้มี นายวิชัย โคสินธิ์ อายุ 34 ปี ภูมิลำเนาอยู่ที่ หมู่ 6 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นส่วนล่วงหน้านำกระท่อมใส่ถุงปุ๋ย ลงจากเขาชายแดนประเทศเมียนมา จำนวน 14 ถุงปุ๋ยจำนวน 578 กิโลกรัม และมีส่วนคุ้มกันตามหลังซึ่งมีอาวุธปืนสงคราม จากนั้นเมื่อเจ้าหน้าที่ดักซุ่มอยู่ได้แสดงตัว กลุ่มคนร้ายได้วิ่งหนีเตลิดกลับเข้าไปยังประเทศเมียนมา ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถตามได้ ส่วน นายวิชัย สวมเสื้อยืดคอกลมสีเทา กางเกงยีนส์สีน้ำเงิน และรองเท้าผ้าใบสีดำ ถูกเจ้าหน้าที่จับกุมและถูกสวมกุญแจมือ แต่พยายามวิ่งหนีเข้าป่าลึก เจ้าหน้าที่จึงไล่จับได้ และนำผ้าขาวม้าผูกที่ขาทั้งสองข้าง เพื่อป้องกันการหลบหนี ค้นที่ตัวพบปืนลูกซองสั้นไทยประดิษฐ์และลูกกระสุนในรังเพลิงพกเหน็บเอว ลูกกระสุนลูกซองเบอร์ 12 ที่กระเป๋ากางเกงด้านซ้าย จำนวน 3 นัด สะพายกระเป๋าลายพราง ภายในมี โทรศัพท์มือถือ 3 เครื่อง
จากนั้นจึงได้นำตัวผู้ต้องหาและของกลางมาสอบสวน ที่กองร้อย ตชด.146 สารภาพว่าตนเองอาศัยอยู่ที่ ชุมชนสะพานสาม บ้านมูด่อง อ.ตะนาวศรี จ.มะริด เมียนมา ซึ่งห่างจากชายแดนด่านสิงขรประมาณ 3 กิโลเมตร โดยกลุ่มนี้ได้อาศัยการเดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติข้ามเข้ามา โดย นายวิชัย รับสารภาพว่ามากับเพื่อนๆ ได้รับค่าจ้างลำเลียงกระท่อมในราคา 6,000 บาท ส่วนปืนสั้นลูกซองไทยประดิษฐ์เป็นของตนเอง จะนำไปฝากเพื่อนชาวกระเหรี่ยงที่ ป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแจ้งข้อกล่าวหา ร่วมกับพวกที่หลบหนีมียาเสพติดให้โทษประเภท 5 (กระท่อมผงบดละเอียด) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาตจากนายทะเบียนท้องที่ และร่วมกันพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับอนุญาต ส่งพนักงานสอบสวน สภ.คลองวาฬดำเนินคดีต่อไป
อนึ่งข้อมูลพบว่าสำหรับค่าจ้างการขนกระท่อมผง ได้รับค่าจ้าง 6,000 บาท นำกระท่อมผงบดละเอียดมาจากประเมียนมาในราคากิโลกรัมละ 1,000 บาท มีเป้าหมายนำไปขายให้กับผู้ใช้แรงงานชาวเมียนมาที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร ในราคากิโลกรัมละ 2,000 บาท
โดยจะมีนายหน้าคนไทยมารับช่วงต่อ ซึ่งขบวนการลักลอบขนกระท่อมผงนิยมใช้เส้นทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เป็นทางผ่าน ซึ่งส่วนใหญ่ที่จับได้จะอยู่ในเขตพื้นที่อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เนื่องจากมีช่องทางธรรมชาติตามแนวเทือกเขาตะนาวศรี รอยต่อชายแดนไทย-เมียนมากว่า 30 ช่องทาง ประกอบเส้นทางตั้งแต่บ้านมูด่อง-ตะนาวศรี-เมืองมะริด เส้นทางลาดยางสะพวกสบายมากยิ่งขึ้น ทำให้กลุ่มผู้ลักลอบขนกระท่อมผงลำเลียงมาได้สะดวก และจะเข้ามายังฝั่งไทย และอาศัยช่องทางธรรมชาติ นำสิ่งผิดกฎหมายหลบสายตาเจ้าหน้าที่ หากอยู่ใกล้แนวตะเข็บชายแดนคนกลุ่มที่ลักลอบ ก็จะวิ่งหนีกลับไปยังประเทศตนเองทันที ทำให้เจ้าหน้าที่ไม่สามารถติดตามได้ ซึ่งในรอบ1สัปดาห์ เจ้าหน้าที่ชุดการข่าวกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146 ค่ายพระมงกุฎเกล้า สามารถจับกุมกระท่อมผงได้ 2 ครั้ง รวมจำนวน 1,012 กิโลกรัม หรือมูลค่ากว่า 2,024,000 บาท
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: