ประจวบคีรีขันธ์– ป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำกำลัง อส.เฝ้าจับกุมแรงงานต่างด้าวข้ามชายแดนไทย/เมียนมา เข้ามาทางช่องทางธรรมชาติด้านอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ได้ 14 คน โดยเสียเงินให้นายหน้าคนละ 30.000 บาท เพื่อไปทำงานที่ประเทศมาเลเซีย 77ข่าวเด็ดประจวบคีรีขันธ์
วันที่ 24 ธันวาคม 2562 จ่าเอกแก้ว คงวงษ์ ป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำกำลังอาสาสมัครรักษาดินแดนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์กว่าสิบนาย เฝ้าแนวช่องทางธรรมชาติกว่าสิบจุดด้วยกัน ภายใต้การอำนวยการของนายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หลังจากสืบทราบว่าจะมีการลักลอบเคลื่อนย้ายแรงงานชาวเมียนมาผ่านแนวชายแดนด้านจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเจ้าหน้าที่ยังไม่ทราบว่าจะลงจุดไหนบ้าง จึงมีการปูพรมกระจายกำลังเฝ้าตามช่องทางธรรมชาติที่คาดว่าจะใช้เป็นเส้นทางหลบหนี กระทั่งช่วงกลางดึกที่ผ่านมา ขณะที่เจ้าหน้าที่ซุ่มดักอยู่ พบเห็นกลุ่มแรงงงานต่างด้าวจำนวนหนึ่งกำลังเดินผ่าน ช่องทางธรรมชาติชุมนุมมะละกอ หมู่ 5 บ้านหนองเสือ ต.อ่าวน้อย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เจ้าหน้าที่จึงแสดงตัวเข้าตรวจค้น แต่กลุ่มแรงงานได้วิ่งหนีแตกกระเจิง ไล่จับมาได้ 3 คน คือ นายมอ แซ ไข่ อายุ 24 ปี นางแซน ดวย อายุ 23 ปี นายจิง ไง งวง อายุ 16 ปี ทั้งหมดมีสัญชาติเมียนมา จึงนำตัวมาสอบสวนพร้อมนำกำลัง อส.ทำท่าทีกลับที่ตั้งเพื่อเบี่ยงความสนใจของกลุ่มแรงงาน
จากนั้นเจ้าหน้าที่ อส.จึงนำกำลังกลับไปเฝ้ายังจุดเดิม ผ่านไป 2 ชั่วโมง พบแรงงานชาวเมียนมาเดินเท้าจากสันแดนประเทศเมียนมา ซึ่งห่างไม่ถึงกิโลเมตร และมีผู้คุ้มกันจำนวน 3 คน พร้อมอาวุธปืน 3 กระบอกข้ามกลับเข้ามา เมื่อเจ้าหน้าที่เห็นจึงได้แสดงตัวจับกุม สามารถจับแรงงานชาวเมียนมาได้ทั้งหมด 14 คน ส่วนคนคุ้มกันวิ่งหนีเตลิดเข้าป่า และทำปืนยาวไทยประดิษฐ์ตกไว้หนึ่งกระบอก
เจ้าหน้าที่ สอบสวนทราบว่า ชาวเมียนมากลุ่มดังกล่าวมาจากรัฐยะไข่ และย่างกุ้ง เสียค่าใช้จ่ายคนละ 30,000 บาท เพื่อให้นายหน้านำพาไปส่งยังประเทศมาเลเซีย โดยอาศัยจังหวะช่วงใกล้เทศกาลปีใหม่เดินทางข่ามเข้ามา จึงตั้งข้อหาเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาอยู่ในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมาย ส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวน้อย ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
