ประจวบคีรีขันธ์ – ผู้ป่วยอาชีพขับรถแท็กซี่ชาวหัวหิน ที่ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลหัวหิน นาน 12 วัน ล่าสุด แพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลเรียบร้อยแล้ว หลังพบว่าหายเป็นปกติ สร้างความดีใจให้แก่ทั้งคนขับแท็กซี่และครอบครัว ตลอดจนคณะแพทย์ พยาบาล ที่ให้การดูแลรักษา พร้อมขอบคุณทุกหน่วยงานที่ดูแลรักษาจนหาย และขอให้ทุกคนมั่นใจในระบบสาธารณสุขของไทย ฝากถึงเพื่อนร่วมอาชีพต้องระวังป้องกั นด้วยการใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือ วันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2563 ที่ห้องประชุมอาคารเฉลิมพระเกียรติ โรงพยาบาลหัวหิน อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย แพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5, นายแพทย์สุริยะ คูหะรัตน์ นายแพทย์สาธารณสุขจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, นายแพทย์นิรันดร์ จันทร์ตระกูล ผู้อำนวยการโรงพยาบาลหัวหิน, นางสาวโศรยา หอมชื่น ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย ผู้ป่วยติดเชื้อไวรัสโควิด-19 นายสมิทธิ์ จันทร์หอม อายุ 45 ปี ชาวหัวหิน ซึ่งมีอาชีพขับรถแท็กซี่ แถลงข่าว กรณีหญิงชาวจีนวัย 73 ปี ชาวอู่ฮั่น เดินทางมาลงเครื่องที่สนามบินสุวรรณภูมิ และนั่งรถแท็กซี่รับจ้างต่อมาที่พัก ที่โรงแรมแห่งหนึ่งใน อ.หัวหิน
หลังจากนั้น วันที่ 23 มกราคม 2563 มีอาการเป็นไข้ ไอ จึงไปโรงพยาบาลเอกชน และเข้ารักษาตัวอยู่ในห้องแยกโรค ผลยืนยันติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ โควิด-19 แพทย์ให้การรักษา และต่อมา ย้ายไปรักษาต่อที่โรงพยาบาลราชวิถี กระทั่ง ล่าสุดวานนี้ (18 ก.พ.) กระทรวงสาธารณสุขแถลงว่าหายป่วย และแพทย์อนุญาตให้ออกจากโรงพยาบาลแล้ว
ขณะที่คนขับรถแท็กซี่ที่รับหญิงชาวจีน วัย 73 ปี มาที่หัวหินนั้น ทีมสอบสวนโรคกระทรวงสาธารณสุข ไดเติดตามหาตัว มาตรวจที่โรงพยาบาลหัวหิน เมื่อ 28 มกราคม ผลออกมาเป็นบวกติดเชื้อ จึงให้เข้ารับการรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวหิน เป็นเวลา 12 วัน กระทั่งหายเป็นปกติ และอนุญาตให้กลับบ้านได้ ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา รวมไปถึงการเฝ้าดูผู้ใกล้ชิดทั้งภรรยาและลูก ไม่พบว่ามีอาการป่วย ด้านนายสมิทธิ์ จันทร์หอม อายุ 45 ปี ชาวหัวหิน เปิดเผนว่า รู้สึกดีใจมากที่หายจากการติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ยอมรับว่าตกใจเมื่อรู้ตัวว่า เป็นคนรับผู้ป่วยชาวจีนมาหัวหิน และยิ่งตกใจมากขึ้นเมื่อรู้ตัวว่าตัวเองติดเชื้อด้วย เป็นห่วงครอบครัว และลูกเล็ก ๆ อีก 3 คน กลัวว่าจะติดเชื้อไวรัสไปด้วย และกลัวสังคมจะรังเกียจ ต่อต้าน เพราะสื่อโซเซียลแรงมาก อย่างไรก็ตาม เมื่อผลตรวจตัวอย่างเชื้อ พบว่าตนเองติดเชื้อเพียงคนเดียวก็เบาใจ และยินดีมารับการตรวจตามคำแนะนำของแพทย์ ช่วง 1-2 วันแรก มีอาการไข้ขึ้น ตัวร้อนมาก แต่เมื่อได้รับยาต้านไวรัสตามขั้นตอน อาการก็ดีขึ้นตามลำดับ โดยรักษาตัวที่โรงพยาบาลหัวหิน 12 วัน จนหายดีในที่สุด
“ดีใจอย่างมากที่หายแล้ว และตั้งใจที่จะบอกเล่าประสบการณ์ตัวเอง เพื่อให้เป็นวิทยาทาน ไปยังเพื่อนคนขับรถแท็กซี่ หรือพี่น้องประชาชน ให้ระมัดระวังเรื่องความสะอาด โอกาสที่จะได้รับเชื้อโรค ควรป้องกันตัวเองเพื่อความไม่ประมาท ด้วยการปิดหน้ากากอนามัย ล้างมือบ่อย ๆ ยกตัวอย่าง เช่น เมื่อส่งลูกค้าเรียบร้อยแล้ว ก็ควรเช็ดทำความสะอาดจุดสัมผัสต่าง ๆ ภายในรถเพื่อความปลอดภัยของลูกค้ารายอื่นด้วย ทั้งนี้ ต้องขอขอบคุณทีมแพทย์พยาบาลโรงพยาบาลหัวหิน และหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้ามาดูแล รักษาพยาบาล จนหายดีในครั้งนี้ด้วย” นายสมิทธิ์ กล่าวทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5, นายแพทย์สาธารณสุข จ.ประจวบคีรีขันธ์, นายอำเภอหัวหิน, สาธารณสุขอำเภอหัวหิน, ผอ.โรงพยาบาลหัวหิน คณะแพทย์ พยาบาล ที่ดูแลผู้ป่วย ได้มอบช่อดอกไม้แสดงความยินดีต่อ นายสมิทธิ์ จันทร์หอม และครอบครัว
ข่าวน่าสนใจ:
นอกจากนี้ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ ยังมอบเงินช่วยเหลือส่วนหนึ่งให้อีกด้วย และยังมีเงินกองทุนรวมน้ำใจใต้ร่มพระบารมี เนื่องจากช่วงที่หยุดพักรักษาตัวไม่มีรายได้
ด้านผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 ยังมอบช่อดอกไม้เพื่อเป็นการขอบคุณ ผอ.โรงพยาบาลกรุงเทพ หัวหิน และคณะแพทย์ พยาบาล ที่ให้การดูแลรักษาหญิงชาวจีนวัย 73 ปีที่ป่วย กระทั่งส่งต่อไปรักษาที่ โรงพยาบาลราชวิถี จนหายเป็นปกติและออกจากโรงพยาบาลแล้วแพทย์หญิงอัมพร เบญจพลพิทักษ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงสาธารณสุข เขตสุขภาพที่ 5 ระบุว่า ความสำเร็จในการรักษาผู้ป่วยโรคติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ของโรงพยาบาลหัวหินและเครือข่าย เกิดขึ้นจากการดำเนินงานตามมาตรฐานของระบบ ตั้งแต่การคัดกรอง รับ-ส่งต่อ รักษาผู้ป่วย ความพร้อมและเพียงพอของเครื่องมือ อุปกรณ์ป้องกันตัวของเจ้าหน้าที่ สถานที่ ยาและเวชภัณฑ์รวมทั้งความร่วมมือระหว่างโรงพยาบาลภาครัฐ ภาคเอกชน ในส่วนของกระบวนการรักษา ใช้หลักการรักษาเหมือนผู้ติดเชื้อไวรัสทั่วไป คือ รักษาตามอาการเป็นหลัก ดูแลร่างกายให้มีน้ำเพียงพอ ไม่ให้ร่างกายขาดน้ำ รับสารอาหารเพียงพอ มีการดูแลเรื่องออกซิเจนที่เข้าถึงปอดได้ดี อวัยวะต่าง ๆ ได้รับการดูแลทั้งหมด และการพิจารณาให้ยาต้านไวรัส เพื่อให้หายจากโรคได้ดีขึ้น และเร็วขึ้น
(#77 ข่าวเด็ดประจวบคีรีขันธ์ ข่าว/ภาพ วิมล ทับคง)
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: