กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) เปิดเวทีรับฟังความคิดเห็นและการกำหนดพื้นที่จัดวางปะการังเทียม เพื่อฟื้นฟูแนวปะการังธรรมชาติ จากชาวประมงพื้นบ้านในอำเภอหัวหิน ซึ่งในปี 2562-2563 จะมีมีการวางปะการังเทียมในอ่าวหัวหินรวม 1,600 แท่ง
วันที่ 22 สิงหาคม 2561) ที่ห้องประชุม โรงแรมบ้านกลางหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน เป็นประธานเปิดการประชุมรับฟังความคิดเห็นและกำหนดพื้นที่จัดวางปะการังเทียมในปี พ.ศ.2562-2563 โดยมีชาวประมงพื้นบ้านในพื้นที่อำเภอหัวหิน เข้าร่วมฟัง
นายวรรรณ ชาตรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง หรือ ทช. กล่าวว่า ในปี พ.ศ.2562-2563 ทช.มีแผนจัดวางปะการังเทียมบริเวณเกาะสะเดา เกาะขี้นก และเกาะทราย ซึ่งอยู่ตามแนวชายฝั่งอ่าวหัวหิน ปีละประมาณ 800 แท่ง รวมทั้งสิ้นเป็น 1,600 แท่ง เพื่อฟื้นฟูแนวปะการังธรรมชาติ โดยเกาะสะเดา เกาะขี้นก และเกาะทราย อยู่ห่างชายฝั่งประมาณ 3,000 เมตร จัดเป็นพื้นที่ที่มีระบบนิเวศทางทะเลสมบูรณ์ที่สุดแห่งหนึ่งของอ่าวไทย และเป็นแหล่งวางไข่ของสัตว์น้ำนานาชนิด และเป็นจุดดำน้ำชมปะการังที่น่าสนใจที่อยู่ไม่ห่างฝั่งมากนัก มีนักท่องเที่ยวแวะเวียนมาไม่ขาดสาย ทำให้แนวปะการังเกิดความเสื่อมโทรม
การจัดวางปะการังเทียมจึงเป็นแนวทางหนึ่งในการฟื้นฟู ให้มีแหล่งทรัพยากรปะการังเกิดขึ้นใหม่ ที่จะช่วยส่งเสริมให้แนวปะการังธรรมชาติและระบบนิเวศมีความอุดมสมบูรณ์มากยิ่งขึ้น อีกทั้งยังสามารถป้องกันการทำลายระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง สามารถเป็นแหล่งประกอบอาชีพการประมงและการท่องเที่ยว สร้างรายได้ให้กับชุมชน
การจัดประชุมรับฟังความคิดเห็นจากชาวประมงพื้นบ้าน เป็นส่วนสำคัญก่อนที่จะมีการวางปะการังเทียมในปีหน้า และปีต่อไป เพื่อไม่ให้แนวปะการังส่งผลกระทบต่อวิธีชีวิตการทำประมง สร้างการมีส่วนร่วมในการทำประมงอย่างยั่งยืน โดยเฉพาะการกำหนดพื้นที่การจัดวางปะการังเทียม
วันนี้ชาวประมงอำเภอหัวหิน ต่างเห็นด้วยที่จะให้ กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)มาวางปะการังเทียมในอ่าวหัวหิน เพราะส่งผลดีต่อการทำประมง และยังเป็นแนวป้องกันเรือประมงพาณิชย์ขนาดใหญ่ไม่ให้รุกล้ำเข้ามา และอยากให้มีการวางปะการังเทียมให้ใกล้เขตกำหนดพื้นที่ทำการประมงชายฝั่ง 3,000 เมตร เพราะเป็นพื้นที่ที่ชาวประมงทำมาหากิน และยังสามารถช่วยดูแลแนวปะการังเทียมได้ด้วย
ไม่อยากให้วางปะการังเทียมห่างออกไปมากกว่านี้ เนื่องจากพื้นดินทรายไต้น้ำเป็นกินโคลน ปะการังจะจมลงไป ไม่สามารถเป็นที่อยู่อาศัยของสัตว์น้ำได้ รวมทั้งในปีต่อไปอาจจะวางปะการังเทียมจากแนวเดิมที่เคยไว้ เพื่อทดแทนปะการังบางส่วนที่อาจจะจมลงไปทราย และขยายพื้นที่สร้างบ้านปลาให้กว้างขึ้น
ข่าว/ภาพ วิมล ทับคง
