ประจวบคีรีขันธ์ -เป็นเรื่อง กลุ่มภาคเอกชนในอำเภอหัวหิน ร่วมหารือพร้อมออกหนังสือแถลงการณ์ร่วม 15 หน่วยงาน คัดค้านรัฐบาลนำคนไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้มากักตัวดูอาการในพื้นที่สวนสนประดิพัทธ์ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หวั่นส่งผลกระทบหนักโดยเฉพาะชื่อเสียงทางด้านการท่องเที่ยว ในขณะเดียวกันชาวหัวหิน และผู้ประกอบการ ที่ไม่เห็นด้วยกับกรณีดังกล่าวได้เชิญชวนให้มาร่วมกันแสดงพลังเพื่อเป็นจุดยืนในวันพรุ่งนี้(7 มีนาคม 2563 )เวลาช่วงเย็นที่บริเวณหน้าหอนาฬิกาหัวหิน
ตามที่รัฐบาลมีแผนงานจะนำแรงงานไทยผิดกฎหมาย (“ผีน้อย”) ที่เดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ มากักบริเวณเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรน่า COVID 19 ที่สวนสนประดิพัทธ์ 1 อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในเร็วๆนี้ โดยทั้งหมดจะใช้ “สัตหีบ โมเดล” และดูแลไม่ให้ แพร่ระบาดสู่ชุมชน เพื่อความสบายใจของชาวชุมชนด้วย ภายหลังมีการเผยแพร่ข่าวในเรื่องนี้ สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยที่จะนำผีน้อยมากักตัวที่หัวหิน แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะอยู่ในเขตพื้นที่ทหารก็ตาม ชาวบ้านต่างหวั่นวิตกว่าจะมีการแพร่เชื้อ และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างรุนแรงมากขึ้น
ข่าวน่าสนใจ:
- นนทบุรี หนุ่ม 16 ขับเบนช์ เสียหลักเหินขึ้นไปคาอยู่บนรถ 6 ล้อรอดตายปาฏิหาริย์
- จัดกิจกรรม โครงการ “หน่วยบำบัดทุกข์ บำรุงสุข สร้างรอยยิ้มให้กับประชาชน พื้นที่ อ.คลองหาด
- พรรคประชาชนเปิดตัว นายแพทย์จิรชาติ เรื่องวัชรินทร์ หรือ หมอมุดสัง ชิง นายก อบจ.สุราษฎร์ ฯ สมัครจันทร์นี้
- มท.1 เยือนจังหวัดนครพนม เปิดงานมหกรรมเทศกาลปลาลุ่มน้ำสงคราม ประจำปี 2567 ครั้งที่ 21 ผลักดัน Soft Power อำเภอศรีสงคราม
วันที่ 6 มีนาคม 2563 ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองหัวหิน นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ พร้อมคณะกรรมการสมาคม ,นางสาวโศรยา หอมชื่น ผอ.ททท.สนง.ประจวบคีรีขันธ์ ,ผู้ประกอบการห้างสรรพสินค้าหัวหิน ร้านสปา โรงแรม รีสอร์ท ตัวแทนครูโรงเรียนเอกชน ผู้ประกอบการภาคเอกชน และสื่อมวลชน ทั้งมีนายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน เข้าร่วมรับฟัง โดยมีร่วมหารือแสดงความคิดเห็นกันหลากหลายถึงกรณี ที่รัฐบาลมีแผนงานจะนำแรงงานไทยผิดกฎหมาย (“ผีน้อย”) ที่เดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ มากักบริเวณเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของ ไวรัสโคโรน่า COVID 19 ที่สวนสนประดิพัทธ์ 1 อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ในเร็วๆนี้ โดยทั้งหมดจะใช้ “สัตหีบ โมเดล” และดูแลไม่ให้ แพร่ระบาดสู่ชุมชน เพื่อความสบายใจของชาวชุมชนด้วย ภายหลังมีการเผยแพร่ข่าวในเรื่องนี้ สร้างเสียงวิพากษ์วิจารณ์ให้กับประชาชนที่อยู่ในพื้นที่เป็นอย่างมาก ส่วนใหญ่ ไม่เห็นด้วยที่จะนำผีน้อยมากักตัวที่สวนสนประดิพัทธ์หัวหิน แม้ว่าพื้นที่ดังกล่าวจะอยู่ในเขตพื้นที่ทหารก็ตาม ซึ่งหวั่นวิตกว่าจะมีการแพร่เชื้อ และส่งผลกระทบต่อการท่องเที่ยวอย่างรุนแรงมากขึ้น โดยมีการหารือและกำหนดมาตรการเพื่อไม่ให้รัฐบาลนำผีน้อยมากักตัว
พร้อมออกหนังสือแถลงการณ์ร่วม 15 หน่วยงาน คัดค้านนำคนไทยที่เดินทางกลับจากเกาหลีใต้มากักตัวดูอาการในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ตามที่มีข่าวว่ารัฐบาล ได้จัดเตรียมพื้นที่ควบคุมโรคให้กับผู้ที่เดินทางกลับมาจากประเทศเกาหลีใต้ โดยมีแผนที่จะใช้พื้นที่ของกองทัพ เพื่อนำคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้ ซึ่งเป็นประเทศที่มีผู้ติดเชื้อ โควิด-19 สูงเป็นอันดับต้นๆ ของโลก และเป็นประเทศที่กระทรวงสาธารณสุขของไทยประกาศให้เป็นเขตโรคติดต่ออันตรายจากเชื้อโควิด-19 มากักตัวเพื่อดูอาการในหลายพื้นที่ ซึ่งรวมถึงพื้นที่ของกองทัพบก บริเวณสถานพักฟื้นและพักผ่อน สวนสนประดิพัทธ์ แห่งที่ 1 อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ และกองทัพอากาศ บริเวณที่พักตากอากาศ สนามบินบ่อฝ้าย อ.หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยจะใช้ “สัตหีบ โมเดล” และดูแลไม่ให้แพร่ระบาดสู่ชุมชนเพื่อความสบายใจของประชาชน นั้น
ภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตามรายชื่อท้ายแถลงการณ์นี้ ขอคัดค้านแผนการดังกล่าว ทั้งนี้ มิใช่ด้วยความรังเกียจหรือกีดกันบุคคลกลุ่มดังกล่าว ที่เป็นพี่น้องร่วมชาติ แต่ด้วยเหตุผลที่เมืองหัวหิน เป็นเมืองท่องเที่ยวในอันดับต้นๆ ของโลก เพราะเป็นเมืองที่มีความพร้อมของแหล่งท่องเที่ยวทุกรูปแบบ ทั้งทะเล ภูเขา และแหล่งท่องเที่ยวที่ถูกสร้างขึ้น จนเป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ ตลอดจน สถานที่พัก โรงแรม สถานประกอบการด้านการท่องเที่ยวที่เพียบพร้อมต้อนรับนักท่องเที่ยวในทุกฤดูกาล
ในช่วงภาวะเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศที่กำลังได้รับผลกระทบอย่างมากในขณะนี้ มีเพียงภาคการท่องเที่ยวที่สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชน และประเทศ ซึ่งการนำคนไทยที่มาจากพื้นที่ที่มีการแพร่ระบาดของโรคติดต่ออันตรายดังกล่าว มากักตัวเพื่อดูอาการในพื้นที่เมืองหัวหิน ย่อมสร้างความหวั่นวิตกทั้งแก่ประชาชนในพื้นที่ ผู้ประกอบการภาคธุรกิจ และนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติ จนอาจส่งผลกระทบต่อการเดินทางมาท่องเที่ยว และต่อสภาพเศรษฐกิจของไทยมากยิ่งขึ้น
ภาคส่วนต่าง ๆ ในพื้นที่อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ใคร่ขอให้รัฐบาลได้โปรดพิจารณา ทบทวน และยกเลิกแผนการดังกล่าว ที่จะนำคนไทยที่เดินทางกลับจากประเทศเกาหลีใต้หรือประเทศใดก็ตามที่มีการแพร่ระบาดของโรค มากักตัวในสถานที่ที่ตั้งอยู่ในพื้นที่หัวหิน เมืองท่องเที่ยวหลักของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ โดยขอให้พิจารณาสถานที่อื่นของทางราชการที่เป็นสถานที่ปิดและอยู่ห่างไกลชุมชน จะเหมาะสมและส่งผลกระทบน้อยกว่านี้
ทั้งนี้ หากการร้องขอนี้ไม่ได้รับการสนองตอบที่เหมาะสม ภาคส่วนที่ร่วมกันจัดทำแถลงการณ์นี้ ขออนุญาตใช้สิทธิขั้นพื้นฐานตามรัฐธรรมนูญ ในการเคลื่อนไหวเพื่อเรียกร้องในสิ่งที่เห็นว่าเหมาะสมและเป็นการรักษาผลประโยชน์ของส่วนรวมต่อไป
แถลงการณ์มา ณ วันที่ 6 มีนาคม 2563
เทศบาลเมืองหัวหิน ,สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน-ชะอำ,หอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์,สภาอุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,สมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,สภาเกษตรกรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,เครือข่ายวิถีเกษตรธรรมชาติประจวบคีรีขันธ์, กลุ่มเครือข่ายสื่อมวลชนหัวหิน,YEC ประจวบคีรีขันธ์ ,กลุ่มผู้ประกอบการร้านนวดแผนโบราณ,กลุ่มศูนย์การค้าอำเภอหัวหิน,สมาคมกอล์ฟประจวบคีรีขันธ์-เพชรบุรี,กลุ่มชุมชนบ้านเขาตะเกียบ,กลุ่มโรงเรียนเอกชน 12 โรงเรียนอำเภอหัวหิน ,กลุ่มผู้ประกอบการภาคธุรกิจอำเภอหัวหิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่ามีการส่งแถลงการณ์ฉบับดังกล่าวไปยัง นายเทวัญ ลิปตพัลลภ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้อำนวยการศูนย์ข้อมูลโควิด-19 ,และผู้ช่วยรัฐมนตรีให้ได้รับทราบแล้ว และมีรายงานว่า นายภิรมย์ นิลทยา รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้เดินทางมาประชุมชี้แจงให้กับหน่วยงานเกี่ยวข้องได้รับทราบเกี่ยวกับเรื่องโควิด-19 ที่ห้องประชุมเทศบาลเมืองหัวหิน พร้อมรับหนังสือแถลงการณ์
ในขณะเดียวกันชาวหัวหิน และผู้ประกอบการในพื้นที่หัวหิน ที่ไม่เห็นด้วยกับกรณีดังกล่าวได้เชิญชวนให้มาร่วมกันแสดงพลังเพื่อเป็นจุดยืนในวันพรุ่งนี้(7 มีนาคม 2563 )เวลาช่วงเย็นที่บริเวณหน้าหอนาฬิกาหัวหิน
#77 ข่าวเด็ดประจวบคีรีขันธ์ (วิมล ทับคง รายงาน)
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: