ผู้ว่าประจวบคีรีขันธ์ ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงกรณีเจ้าอาวาสวัดธรรมิการาม ประจวบคีรีขันธ์ ตัดต้นพระศรีมหาโพธิ์ที่ ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงปลูกบนเขาช่องกระจก พร้อมระดมเจ้าหน้าที่เร่งทำนุบำรุงฟื้นฟูระบบราก เชื่อยังมีความหวังที่จะฟื้น ผลิดอกออกกิ่งก้าน และขนย้ายลำต้นและกิ่งลงมาเก็บรักษาไว้ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน ส่วนตอต้นพระศรีมหาโพธิ์ รอให้นักวิชาการผู้เชี่ยวชาญมาตรวจสอบในวันพรุ่งนี้ ถึงจะเคลื่อนย้ายไปไว้ที่สถานี วนวัฒนวิจัยประจวบคีรีขันธ์ ต่อไป
ความคืบหน้ากรณี พระราชสุทธิโมลี เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฝ่ายธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร ได้ให้ทางวัดตัดต้นพระศรีมหาโพธิ์ ที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช บรมนาถบพิตร รัชกาลที่ 9 ทรงปลูก เมื่อครั้งเสด็จพระราชดำเนินขึ้นเขาช่องกระจก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เมื่อวันที่ 12 มิถุนายน 2501 ซึ่งต้นพระศรีมหาโพธิ์ต้นนี้ในปัจจุบันมีอายุกว่า 60 ปี ซึ่งได้สร้างความสะเทือนใจให้กับชาวประจวบคีรีขันธ์เป็นอย่างมาก
ผู้สื่อข่าวรายงานล่าสุดว่าวันที่ 30 สิงหาคม 2561 ที่ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์,นายชัยชาญ มูลมาก จ่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,นายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผอ.ส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์,นางชนิษฐา จันทโชติ หัวหน้าสถานี วนวัฒนวิจัยประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมประชุมวางแนวทางแก้ไขและฟื้นฟูต้นพระศรีมหาโพธิ์ดังกล่าว
นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ภายหลังได้รับรายกงานเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ได้ส่งนักวิชาการป่าไม้ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขึ้นไปตรวจสอบพบว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์ ก่อนถูกตัดสูงประมาณ 5-6 เมตร ถูกตัดต้นลงมาและบั่นเป็นท่อนๆจนเหลือแต่ตอ ทั้งนี้เพื่อหาแนวทางในการฟื้นฟูเบื้องต้น
พร้อมกันนี้ได้สอบถามข้อเท็จจริงพระราชสุทธิโมลี เจ้าคณะจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ฝ่ายธรรมยุต เจ้าอาวาสวัดธรรมิการามวรวิหาร ทราบว่า เจ้าอาวาสมีความเข้าใจและพิจารณาว่าต้นพระศรีมหาโพธิ์มีลักษณะเสมือนยืนต้นตาย ใบร่วง กิ่งก้านแห้ง เข้าใจว่า ยืนต้นตาย จึงตัดออก เตรียมจะปลูกทดแทนของเดิม โดยล่าสุดผ็ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มีการตั้งคณะกรรมการเข้ามาตรวจสอบข้อเท็จจริงในเรื่องนี้และจะสรุปผลให้ทราบในวันพรุ่งนี้โดยมีนายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานสอบข้อเท็จจริง
ในส่วนของการตรวจสอบสภาพต้น พระศรีมหาโพธิ์ที่ถูกตัดออกไป นางชนิษฐา จันทโชติ หัวหน้าสถานี วนวัฒนวิจัยประจวบคีรีขันธ์ ระบุว่า ยังมีระบบรากที่ดีระดับหนึ่ง น่าจะสามารถฟื้นฟูให้กลับมาออกกิ่งก้าน มีชีวิตชีวาอีกครั้งได้ พร้อมกันนี้ทางเจ้าหน้าที่ อส.ได้ทำการปิดกั้นพื้นที่โดยรอบตามคำสั่ง เพื่อป้องกันลิงแสมบนเขาช่องกระจกที่มีกว่าสามพันตัวมารบกวน และเพื่อให้การบำรุงรักษาเป็นไปอย่างสะดวกและมีประสิทธิภาพ ส่วนลำต้นที่ตัดออกไป จะได้ย้ายนำมาเก็บไว้ที่เหมาะสม และผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้ทางนักวิชาการป่าไม้ ทำการเก็บเนื้อเยื่อเพื่อขยายพันธุ์ต่อไป
โดยในวันนี้ตั้งแต่ช่วงเช้าที่ผ่านมา นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ อส. นายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผอ.ส่วนทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์,นางชนิษฐา จันทโชติ หัวหน้าสถานี วนวัฒนวิจัยประจวบคีรีขันธ์ พร้อมเจ้าหน้าที่ และหน่วยงานในพื้นที่ได้ระดมกำลังขึ้นไปโดยขนดินจากด่านล่างใส่ถุงปุ๋ยขึ้นไปเพื่อทำการเปลี่ยนดินที่บริเวณต้นพระศรีมหาโพธิ์ โดยเอาดินเก่าที่เสื่อมสภาพ มีเชื้อราออกออกและใส่ดินใหม่ซึ่งปนทรายเข้าไปโดยผ่านการฆ่าเชื้อราแล้ว รวมทั้งฉีดพ่นฮอร์โมน ใส่ปุ๋ย เพื่อฟื้นฟูต้นพระศรีมหาโพธิ์ ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยงานที่ัรับผิดชอบจะเข้ามาดูแลอย่างต่อเนื่อง แต่ยอมรับว่าเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน มีข้อจำกัดเยอะ แต่ก็ยังมีความหวังที่ต้นพระศรีมหาโพธิ์จะกลับมาฟื้นใหม่ได้แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าจะใช้เวลานานขนาดหน
นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวอีกว่า นอกจากการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริง ขณะนี้ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ทำหนังสือชี้แจงไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยถึงเรืองราวที่เกิดขึ้น เพื่อนำเสนอสำนักพระราชวังเพื่อนำความขึ้นกราบบังคมทูล และขอพระราชทานอภัยโทษตามลำดับ
ด้านนางชนิษฐา จันทโชติ หัวหน้าสถานีวนวัฒนวิจัยประจวบคีรีขันธ์ กล่าวถึงแนวทางการบำรุง ฟื้นฟูต้นพระศรีมหาโพธิ์ เป็นงานที่ค่อนข้างยากแต่ก็มีความเป็นไปได้ว่า ต้นพระศรีมหาโพธิ์ จะสามารถแตกกิ่งก้านสาขา ได้อีก เพราะโพธิ์ เป็นไม้ที่ขึ้นง่าย โดยขั้นตอนและกระบวนการการฟื้นฟูจะคล้ายกับการฟื้นฟูต้นศรีตรังทรงปลูก ที่โรงพยาบาลศิริราช ซึ่งก็สามารถกับมาผลิใบได้อีกครั้ง แต่อาจจะใช้ระยะเวลานานกว่า ซึ่งจะต้องประสานหมอต้นไม้ และนักวิชาการด้านอื่นที่เกี่ยวข้องมาร่วมกันทำงาน สำหรับต้นโพธิ์ เป็นไม้ยืนต้น สกุลเดียวกับ ไทร ไกร กร่าง นิยมขยายพันธุ์โดยเมลัด และการปักชำ
ต่อมาเมื่อเวลา 15.30 น.นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ,นายธีรพันธ์ นันทกิจรอง ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ , นายสมพร ปัจฉิมเพ็ชร ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,นายสวง สุดประเสริฐ ผอ.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมประจวบคีรีขันธ์ ,นางชนิษฐา จันทโชติ หัวหน้าสถานีวนวัฒนวิจัย ประจวบคีรีขันธ์ ,โยธาธิการและผังเมืองจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยงานเกี่ยวข้องได้ขึ้นมาตรวจดูตอต้นศรีพระมหาโพธิ์อีกครั้ง หลังจากเจ้าหน้าที่สถานี วนวัตวิจัยประจวบคีรีขันธ์ ได้ใสน้ำยาป้องกันเชื้อราลงไป และให้ฮอร์โมนบำรุงรากและต้น พร้อมขุดดินเก่าออก และใส่ดินใหม่ซึ่งเป็นดินปนทรายที่มีการฆ่าเชื้อแล้ว แต่ยังไม่เคลื่อนย้ายตอต้นพระศรีมหาโพธิ์ออกไปได้ในวันนี้ โดยรอทางนายคงศักดิ์ มีแก้ว นักวิชาการป่าไม้ชำนาญการพิเศษ พร้อมเจ้าหน้าที่ซึ่งจะเดินทางมาตรวจสอบในวันพรุ่งนี้ก่อน
นอกจากนั้น นายพัลลภ สิงหเสนี ผวจ.ประจวบคีรีขันธ์ ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ อส.เคลื่อนย้ายลำต้นและกิ่ง จำนวน10กิ่ง มาเก็บรักษาไว้ที่กองร้อยอาสารักษาดินแดน โดยทำการบันทึกขนาดของไม้ทั้งหมดเอาไว้เป็นหลักฐานต่อไป
ขณะเดียวกันสื่อมวลชนได้สอบถามผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าในส่วนว่าทางวัดจะมีความผิดตามกฎหมาย ในกรณีที่มีการตัดต้นพระศรีมหาโพธิ์ หรือไม่นั้นเรื่องนี้ต้องรอผลการตรวจสอบข้อเท็จจริงจากคณะกรรมการก่อน
ข่าว/ภาพ วิมล ทับคง
