เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติก่งกระจาน และทหารชุดเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ ฝ่ายปกครองอำเภอแก่งกระจาน พนักงานสอบสวน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนหน่วยงานเกี่ยวข้อง เข้าตรวจสอบซากช้างป่าที่นอนเสียชีวิตใต้ต้นตะแบก และซากทารกช้าง ในเขตพื้นที่โครงการหมู่บ้านสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่- ป่าเด็ง ตามพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี เบื้องต้นนายสัตวแพทย์ผ่าพิสูจน์ ไม่พบมีร่องรอยบาดแผลถูกทำร้ายแต่อย่างใด แต่พบว่าบริเวณกระดูกเชิงกรานหัก ซึ่งคาดว่าทำให้เกิดการติดเชื้อในกระแสเลือดจนส่งผลให้ช้างป่าเพศเมีย ซึ่งถือเป็นช้างสาว แท้งลูกเสียชีวิตมาอย่างน้อย 2 วัน
วันที่ 8 กันยายน 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ชาวบ้านหมู่ 6 บ้านป่าเด็ง ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี ได้พบซากช้างป่านอนตายอยู่ข้างต้นไม้ จึงแจ้งให้ ร้อยโทธวัช วันดี ผู้บังคับหมวดชุดเฉพาะกิจทัพพระยาเสือ และนายมานัด นกแก้ว เจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานที่ กจ.16 บ้านป่าแดง หลังจากนั้นเจ้าหน้าที่จึงรายงานให้นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนายวุฒิพงษ์ ศรีช่วย ผช.หน.อุทยานแห่งชาติแงกระจาน รับทราบ และได้ประสานไปยัง นางสาวกนกวรรณ ตรุยานนท์ นายสัตวแพทย์ ชำนาญการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง และร.ต.อ.สมปอง ขำทวี พนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจาน ,นายบุญลือ มั่งมี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 3 บ้านป่าเด็ง พร้อมด้วยปลัดอำเภอแก่งกระจาน เจ้าหน้าที่ อส.เดินทางไปตรวจสอบพบว่าจุดที่พบซากช้างป่านอนเสียชีวิตพิงอยู่ข้างต้นตะแบก อยู่นอกพื้นที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน
โดยพบว่าบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่ของชาวบ้านสมาชิกสหกรณ์หมู่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่-ป่าเด็ง ตามพระราชดำริ จังหวัดเพชรบุรี บริเวณหมู่ 3 บ้านป่าเด็ง ต.ป่าเด็ง อ.แก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยพื้นที่จุดที่พบซากช้างป่าเสียชีวิต ชาวบ้านป่าเด็งไม่ได้ปลูกพืชผลทางเกษตรแล้ว เนื่องจากช้างป่าออกจากแนวรั้วป้องกันช้างป่าที่ได้รับความเสียหาย ออกมากัดกินพืชไร่บ่อยครั้งจนปัจจุบันไม่สามารถทำกินได้ อีกทั้งจุดที่พบซากช้างป่านอนเสียชีวิตนั้นอยู่ห่างจากแนวรั้วป้องกันช้างป่าไม่กี่สิบเมตร โดยเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และทหารชุดเฉพาะกิจทัพพระยาเสือฯ ได้พบว่าช้างป่าที่เสียชีวิตออกจากแนวเขตอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน มาทางแนวรั้วเนื่องจากพบร่องรอยเลือดหยดมาเป็นจุดๆ จนข้างถนนทางลูกรังและไปเสียชีวิตยังใต้ต้นตะแบก และยังมีร่องรอยหญ้าคาที่ราบเป็นจุดๆ โดยเจ้าหน้าที่ได้บันทึกข้อมูลและพิกัดเอาไว้อย่างละเอียด
ต่อมาในช่วงเย็นนางสาวกนกวรรณ ตรุยานนท์ นายสัตวแพทย์ ชำนาญการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง ได้เดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ และพร้อมด้วยนายมานะ เพิ่มพูนหน.อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พนักงานสอบสวน และหน่วยงานเกี่ยวข้องเข้าตรวจสอบพบว่าเบื้องต้นเป็นช้างป่าเพศเมียอายุประมาณ 15 ปี คาดว่าเสียชีวิตมาประมาณ 2 วัน และด้านท้ายของซากช้างป่า เจ้าหน้าที่ยังพบว่ามีซากของทารกลูกช้างป่า อยู่ใกล้กันเนื่องจากยืนยันได้จากมีหางช้าง แต่สภาพซากทารกช้างที่พบนั้นน่าจะถูกสัตว์มาแทะกินแล้ว โดยพบว่าบริเวณทวารของช้างเพศเมีย มีร่องรอยคราบเลือดและรกของทารกช้างที่ยังหลงเหลือติดอยู่
นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และนางสาวกนกวรรณ ตรุยานนท์ นายสัตวแพทย์ ชำนาญการ สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 บ้านโป่ง และร.ต.อ.สมปอง ขำทวี ได้ตรวจสอบเบื้องต้นหลังผ่าพิสูจน์เสร็จแล้ว ลงความเห็นในเบื้องต้นว่าช้างป่าเพศเมียที่เสียชีวิตดังกล่าว น่าจะเกิดจากการแท้งลูก ดูจากสภาพซากทารกช้าง ซึ่งยังไม่ครบกำหนดที่จะคลอดออกมาและ เป็นการแท้งลูกซึ่งคาดว่าซากทารกช้างมีอายุประมาณ 8-9 เดือนเท่านั้น ซึ่งปกติช้างจะตั้งท้องประมาณ 18-22 เดือน และยืนยันว่าไม่พบร่องรอบบาดแผลจากการทำร้ายแต่อย่างใด ซึ่งคราบเลือดตามจุดต่างๆที่พบก็เกิดจากการแท้งเลือด
โดยนางสาวกนกวรรณ ตรุยานนท์ นายสัตวแพทย์ ชำนาญการ นายสัตว์แพทย์ ชำนาญการ ซึ่งผ่าพิสูจน์และพบว่าช้างเพศเมียตัวนี้ พบมีอาการได้รับบาดเจ็บจากกรณีที่กระดูเชิงกรานหัก แต่ไม่สามารถบอกได้ว่าเกิดการหักจากสาเหตุใด จนนำไปสู่การติดเชื้อในกระแสเลือดในเวลาต่อมา และจนกระทั่งช้างป่าดังกล่าวที่ตั้งครรภ์อยู่แล้วจึงเกิดอาการแท้งลูกจนเสียชีวิต พร้อมกันนี้ได้เก็บชิ้นเนื้อส่วนต่างๆ ส่งไปตรวจสอบทางห้องปฏิบัติการในวันจันทร์เพื่อหาสาเหตุการตายที่แท้จริงต่อไปอีกครั้ง
หลังจากนั้นนายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ได้ให้ทางเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ร่วมกับทางชาวบ้าน และผู้ใหญ่บ้าน ในพื้นที่ได้ดำเนินการฝังซากช้างป่าเพศเมีย และลงบันทึกประจำวันพนักงานสอบสวน สภ.แก่งกระจานไว้เป็นหลักฐาน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: