สาวหัวหิน เจ้าของรถยนต์เก๋งที่ถูกสวมทะเบียนและโดนต่อทะเบียนตัดหน้า ล่าสุดเดินทางเข้าแจ้งความที่ สภ.หัวหิน ส่วน ผกก. สภ.หัวหิน ส่งชุดสืบสวน ประสานข้อมูลกับตำรวจสงขลา และแม่ฮ่องสอน พร้อมเรียกบริษัทไฟแนนซ์มาขอความร่วมมือนำเล่มทะเบียนไปตรวจสอบ ประสานขนส่งเพชรบุรีออกเอกสารแทน
ความคืบหน้ากรณี นางสาวกรรณิการ์ สงทิพย์ อายุ 34 พนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน ได้รับความเดือดร้อน รถยนต์ของเธอถูกสวมทะเบียน นำไปใช้ในพื้นที่ต่างๆ จนมีใบสั่งตำรวจทางหลวง เรื่อง ขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ส่งมาที่บ้านถึง 2 ใบ และล่าสุดไม่สามารถเสียภาษีรถยนต์ประจำปีได้ เนื่องจากมีคนนำหมายเลขทะเบียนรถยนต์ของเธอไปต่อภาษีฯตัดหน้าไปก่อนหน้านี้ ทำให้ขณะนี้รถยนต์ของเธอไม่มีใบต่อทะเบียนภาษี และเกรงว่าจะมีการนำรถที่สวมทะเบียนไปก่อเหตุอาชญากรรม ตามที่ได้เสนอข่าวไปแล้ว
วันที่ 10 ตุลาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางสาวกรรณิการ์ สงทิพย์ พนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน ได้นำหลักฐานเอกสารต่างๆ เดินทางไป สถานีตำรวจภูธรหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เข้าพบ พันตำรวจเอกธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผู้กำกับการ สภ.หัวหิน,พันตำรวจโท ไชยวิวัฒน์ จันทร รองผู้กับการสืบสวนสอบสวน และเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวนสอบสวน เพื่อร้องทุกข์และขอคำแนะนำในการแก้ไขปัญหาที่ โดยเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน ได้ตรวจสอบเอกสารหลักฐานต่างๆ และสอบปากคำ นางสาวกรรณิการ์ อย่างละเอียด ในทุกประเด็นที่คาดว่าจะเกี่ยวข้อง พร้อมทั้งศึกษารายละเอียดอำนาจหน้าที่ตามกฎหมาย และการกระทำผิดที่เกิดขึ้น ซึ่งแยกออกเป็น 2 ส่วนคือ ส่วนแรกในเรื่องการ ใบสั่งตำรวจทางหลวงสงขลา เรื่องการขับรถเร็วเกินกว่ากฎหมายกำหนด ซึ่งเหตุเกิดที่ท้องที่จังหวัดสงขลา และส่วนที่สองคือ กรณีการนำสำเนาเล่มทะเบียนรถยนต์ไปต่อทะเบียนภาษี ที่สำนักงานขนส่งจังหวัดแม่ฮ่องสอน สาขาแม่สะเรียง ซึ่งท้องที่เกิดเหตุคือ อำเภอแม่สะเรียง
ข่าวน่าสนใจ:
พันตำรวจเอกธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผู้กำกับการ สภ.หัวหิน กล่าวว่า วันนี้ผู้เสียหายได้เข้ามาขอความช่วยเหลือ ซึ่งได้ทำการสอบปากคำให้ครบถ้วนทุกประเด็น และส่งเรื่องไปยังตำรวจทางหลวงสงขลา ซึ่งเป็นท้องที่การกระทำผิดเรื่องขับรถเร็ว เพื่อตรวจสอบเรื่องการใช้รถ ส่วนเรื่องที่มีการมาต่อทะเบียนภาษีรถยนต์ตัดหน้า ซึ่งในการดำเนินการต่อทะเบียนต้องมีการนำสำเนาเล่มทะเบียนรถมาแสดง ซึ่งตอนนี้ เล่มทะเบียนรถอยู่กับไฟแน๊นซ์ เป็นข้อสงสัยว่าทำไมถึงมีเอกสารอีกชุดหนึ่งจนนำไปต่อทะเบียนภาษีได้ อาจจะเป็นสำเนาเอกสารตัวจริง หรือ ทำเอกสารปลอมขึ้นมาก็ได้ ซึ่งได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวน สภ.หัวหิน ไปประสานงานกับทางขนส่งจังหวัดเพชรบุรี เพื่อประสานขอฐานข้อมูลของรถคันนี้ เพื่อไปขยายผลต่อเนื่องจากมีการกระทำผิดเกิดขึ้นที่อำเภอแม่สะเรียง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ซึ่งจะต้องประสานงานกันทุกส่วนเพื่อสืบหาตัวคนร้าย ส่วนจะมีขบวนการสวมทะเบียนหรือไม่จะต้องสอบสวนผู้เกี่ยวข้อง ว่ากรณีเช่นนี้เกิดจากอะไรได้บ้าง
ในส่วนที่สำคัญที่สุดตอนนี้ คือ กรณีทีผู้เสียหายไม่สามารถต่อทะเบียนรถยนต์ได้นั้น วันนี้ได้ให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ ไปเชิญผู้แทนบริษัทลิสซิ่งแห่งหนึ่งใน อ.หัวหิน ที่ผู้เสียหายได้นำเล่มทะเบียนไปเข้าไฟแนนซ์ มาเพื่อความร่วมมือในการนำเล่มทะเบียนรถยนต์ ไปตรวจสอบกับสำนักงานขนส่งจังหวัดเพชรบุรี เพื่อตรวจสอบกรรมสิทธิ์ความถูกต้อง ก่อนจะดำเนินการออกใบแทนให้ตามขั้นตอน เชื่อว่าไม่น่าจะมีปัญหาอะไร เพราะเอกสารทั้งหมดสามารถตรวจสอบได้
ทางด้านนางสาวกรรณิการ์ สงทิพย์ พนักงานเทศบาลเมืองหัวหิน กล่าวว่า วันนี้มีความหวังมากขึ้นหลังจากสื่อมวลชน ได้นำเสนอข่าวเรื่องของตนเองที่ได้รับความเดือดร้อน และภายหลังจากเข้าพบ พันตำรวจเอกธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผู้กำกับ สภ.หัวหิน เพื่อขอคำแนะนำ จากที่เมื่อวานนี้ทุกอย่างมืดมน ไม่สามารถหาทางออกได้ เพราะมีความยุ่งยากในการดำเนินการ ตอนนี้ตนเองรู้สึกสบายใจมากขึ้น และหลังจากสื่อมวลชนมีการนำเสนอข่าวออกไป ล่าสุดสำนักงานขนส่งจังหวัดเพชรบุรี ได้โทรศัพท์มาแจ้งให้นำรถยนต์ของตนไปตรวจสอบที่สำนักงานได้ทันที และพอวันนี้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาช่วยเหลือเพิ่มอีก ทุกย่างจึงดูง่ายขึ้นและตนมีความหวังว่าจะสามารถต่อทะเบียนรถได้และหากโชคดีอาจสามารถดำเนินคดีกับรถยนต์อีกคันที่สวมทะเบียนได้ด้วย
ข่าว/ภาพ วิมล ทับคง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: