ประจวบคีรีขันธ์ -ชาวบ้านหัวหิน 3 ราย นำเรือไฟเบอร์ออกไปตกหมึกในทะเลหัวหิน โชคไม่ดีเจอคลื่นแรง ทำเรือพลิกคว่ำ รอดชีวิต 1 ราย และสูญหายในทะเล 2 ราย ตำรวจน้ำปราณบุรี และทีมกู้ภัยทางน้ำจากมูลนิธิต่างๆ กว่า 100 ชีวิต เร่งระดมถึงเวลาตี 2 กว่าๆ แต่ยังไร้วี่แววจึงต้องยุติ
เมื่อช่วงค่ำที่ผ่านมา(วันที่ 8 ก.ค.63) เจ้าหน้าที่ประจำศูนย์วิทยุ สภ.หัวหิน รับแจ้งเหตุเรือประมงคว่ำ มีผู้รอดชีวิต 1 ราย และสูญหาย 2 ราย ในทะเลเขาตะเกียบ ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ที่เกิดเหตุอยู่ห่างชายฝั่งออกไปประมาณ 400-500 เมตร หลังรับแจ้งจึงประสาน ร.ต.อ.ประจักษ์ สวยรูป หัวหน้าหน่วยบริการประชาชนเขาตะเกียบ พร้อมอาสามสมัครตำรวจชุมชนเขาตะเกียบ ตำรวจน้ำปราณบุรี และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน รีบรุดไปยังที่เกิด พร้อมเร่งจัดทีมกู้ชีพทางน้ำเร่งช่วยเหลือผู้สูญหาย
โดยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.หัวหิน และหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถานได้พบผู้รอดชีวิตเป็นชาย 1 ราย นั่งรออยู่ที่ชายหาดหน้าโรงแรมชมคลื่น หัวหินมีอาการตกใจ และเสียใจที่ไม่สามารถช่วยอีก 2 รายขึ้นมาได้ ทราบชื่อคือ นายฐานิช หรือโอ บุญศรี อายุ 35 ปี อาชีพรับจ้างดูแลสระน้ำ
นายโอ เล่าให้เจ้าหน้าที่ตำรวจและหน่วยกู้ภัยหัวหินฯฟังว่า เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมาตนพร้อมนายยอดชาย พิมพ์สุวรรณ และนายกล้า สิงห์โตทอง ซึ่งทั้ง 2 คนทำงานที่โรงแรมชมคลื่น และมักใช้เวลาหลังเลิกงาน และวันหยุดนำเรือออกไปตกปลาหมึกกัน วันนี้จึงได้ชักชวนกันนำเรือออกออกจากหน้าหาดโรงแรมชมคลื่น ออกไปตกปลาหมึกห่างจากชายฝั่งประมาณ 400-500 เมตร ขณะที่แล่นเรือไปถึงจุดจึงเริ่มทอดสมอ เพื่อเตรียมตกปลาหมึก พบว่ามีคลื่นลมเริ่มแรงขึ้นจนทำให้เรือโคลงเคลงไปมา ทั้ง 3 คน พยามทรงตัวจังหวะนั้นพลาดไปเหยียบแคมเรือ ทำให้เรือพลิกคว่ำและจมลงอย่างรวดเร็ว ตนเองพยามหาที่เกาะเรือเพื่อลอยตัว นายยอดชาย ซึ่งเป็นน้า ได้ชี้ให้ตนเองไปเกาะลังโฟมจึงได้นำฝาลังโฟมวางไว้ใต้หน้าอกจากนั้นตนเองก็ว่ายไปช่วยนายยอดชาย และนายกล้า ด้วยการพยายามลากทั้ง 2 คนเข้าฝั่ง แต่ด้วยคลื่นลมแรงระยะทางไกล ตนเองเริ่มหมดแรงทำให้ทั้ง 2 คนหลุดจากมือไปและเห็นน้ำทะเลซัดออกไป ตนเองพยายามว่ายเข้าฝั่งโดยที่มีฝากล่องลังโฟมอยู่ใต้หน้าอกกระทั่งรู้สึกว่าเริ่มที่จะยืนถึงพื้นแล้วจึงปล่อยฝาลังโฟม และเดินเข้ามา ตะโกนให้คนที่อยู่ชายหาดช่วยแจ้งตำรวจ สภ.หัวหิน เพื่อหาคนไปช่วยนายยอดชาย และนายกล้า
หลังทราบข้อมูลเบื้องต้นชัดเจนแล้ว ทาง สภ.หัวหิน จึงมีการประสานไปยังพ.ต.ท.ปริญญา หงษ์สร้อย สว.ส.รน.5 กก.4 บก.รน. และได้สั่งการให้ ร.ต.อ.พัฒน์พงษ์ วงษ์คงคำ ผู้การเรือตรวจการณ์ 527 สถานีตำรวจน้ำปราณบุรี ซึ่งอยู่ใกล้จุดเกิดเหตุ ออกเรือทำการค้นหาผู้สูญหาย และให้ ร.ต.อ.พีรพัฒน์ เสนีวงศ์ ณ อยุธยา รองสารวัตร สถานีตำรวจน้ำปราณบุรี ,ดต. ศรายุทธ สุนทรวิภาค สถานีตำรวจน้ำปราณบุรี ไปติดตามการค้นหาที่บริเวณชายหาดด้านโรงแรมชมคลื่น ต่อมามีตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ และปลัดอำเภอหัวหิน ที่ทราบข่าวเดินทางมาติดตามการค้นหาผู้สูญหายในครั้งนี้ด้วย
โดยทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างหัวหิน ได้ใช้บริเวณพื้นที่หาดหน้าโรงแรมชมคลื่นด้านล่างเป็นจุดประชุม และจุดสำหรับวางอุปกรณ์ดำน้ำต่างๆ รวมทั้งติดตั้งไฟส่องสว่าง และกันประชาชนให้ไปอยู่บริเวณด้านบนของชายหาดและจัดเตรียมรถฉุกเฉินมาไว้เพื่อเตรียมความพร้อม และจัดเจ้าหน้าที่มูลนิธิดูแลเส้นทางจากปากซอยที่จะเข้ามาถึงบริเวณชายหาดให้มีความคล่องตัว
โดยทางเจ้าหน้าที่ชุดประดาน้ำหน่วยกู้ภัยมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน ได้ประสานขอความช่วยเหลือไปยังมูลนิธิสว่างแผ่ไพศาลธรรมสถานปราณบุรี ,มูลนิธิสว่างเบญจธรรมสมุทรสงคราม มูลนิธิสมุทรสาคร ชุดประดาน้ำกู้ภัยเพชรบุรี ซึ่งเป็นชุดประดาน้ำที่มีประสบการณ์จัดเจ้าหน้าที่เข้ามาเสริม ระหว่างนั้นได้นำเรือท้องแบน ร่วมออกค้นหาผู้สูญหายพร้อมกับชาวประมงพื้นบ้านหัวหิน-ปากน้ำปราณ และผู้ประกอบการเรือเจ็ทสกีเขาตะเกียบ แล่นเรือทำการค้นหาผู้สูญหาย รวมเจ้าหน้าที่กว่า 100 คน ท่ามกลางประชาชนจำนวนมากที่มาติดตามการค้าหาในวันนี้
การค้นหาในขั้นแรกทางเต้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยฯได้พานายโอ ผู้รอดชีวิตขึ้นเรือออกไปชี้จุดที่เรือคว่ำ เพื่อกำหนดพิกัด และประเมินสถานการณ์ ซึ่งช่วงค่ำเป็นต้นมากระแสน้ำขึ้น-น้ำลงค่อนข้างแรง ทำให้เป็นอุปสรรคสำคัญ จากนั้นได้มีการจัดชุดนักประดาน้ำจากมูลนิธิฯต่างที่มาร่วมออกไปวางทุ่น เพื่อกำหนดแนวค้นหา
ขณะเดียวกันเรือประมงที่มีเรืออัลตร้าซาวน์ จะช่วยสแกนพื้นที่ไต้น้ำด้วย เมื่อวางทุ่นกำหนดจุดเรียบร้อยแล้ว ทีมนักประดาน้ำจากมูลนิธิต่างๆ ได้แบ่งพื้นที่การค้นหา โดยจะทำการค้นหา 3 รอบ แล้วค่อยประเมินสถานการณ์ใหม่เป็นระยะ เบื้องต้นพบจุดที่เรือประมงที่จมแล้ว และพบอุปกรณ์ในเรือ ,กระเป๋า ลอยอยู่ในน้ำซึ่งนายโอยืนยันว่าเป็นของผู้สูญหาย แต่ก็ยังไร้วี่แววร่างผู้สูญหายทั้ง 2 ราย
ต่อมาเจ้าหน้าที่ส่วนต่างๆทั้งเรือตรวจการณ์ และนักประดาน้ำของมูลนิธิต้องยุติการค้นหาเป็นการชั่วคราวเมื่อเวลาประมาณตีสองกว่าๆ เนื่องจากความมืด สภาพร่างกายของนักประดาน้ำ และเจ้าหน้าที่ส่วนอื่นเริ่มเหนื่อยล้า ประกอบกับกระแสน้ำยังแรงอยู่ และจะเริ่มค้นหาอีกครั้งในช่วงเช้าวันนี้
#77ข่าวเด็ดประจวบคีรีขันธ์ (เรื่อง/ภาพ วิมล ทับคง)
