กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) จัดเจ้าหน้าที่กว่า 400 นายพร้อมเรือเร็ว 56 ลำประจำชายหาดอันดามัน-อ่าวไทย ทั้งภาคใต้ ภาคกลาง และภาคตะวันออก รวม23 จังหวัด 48 ชายหาด สร้างความมั่นใจในความปลอดภัย ให้กับนักท่องเที่ยวและประชาชน ที่เดินทางท่องเที่ยวตามชายหาดและเกาะต่างๆ รวมไปถึงหาดชะอำ-หาดหัวหิน-อ่าวมะนาว ประจวบคีรีขันธ์
30 ธันวาคม 2560 นายจตุพร บุรุษพัฒน์ อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) กล่าวว่าในช่วงเทศกาลปีใหม่ซึ่งมีวันหยุดติดต่อกันหลายวัน และมีประชาชน นักท่องเที่ยวจำนวนมาก เดินทางกลับภูมิลำเนา และเดินทางท่องเที่ยวตามแหล่งท่องเที่ยวชายทะเลทั้งภาคตะวันออก,ภาคกลาง,ภาคใต้ รวมแล้ว 23 จังหวัด 48 ชายหาด ดังนั้นจึงเปิดศูนย์ปฏิบัติการอำนวยความสะดวกและรักษาความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ทั้งที่จังหวัดตรัง และจังหวัดภูเก็ต ซึ่งนับเป็นศูนย์ใหญ่และศูนย์ย่อยอีก 10 สำนักชายฝั่งทะเล ตามที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งต้องการมุ่งเน้นสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยให้แก่นักท่องเที่ยว ที่เดินทางไปท่องเที่ยวตามพื้นที่ชายหาดต่างๆและหมู่เกาะทั้งฝั่งอ่าวไทยและอันดามัน โดยสั่งการให้เจ้าหน้าที่กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ทั้ง 10 สำนักงานใน 23 จังหวัดให้เจ้าหน้าที่มีความพร้อมและอุปกรณ์โดยเฉพาะเรือเร็วทุกลำซึ่งต้องอยู่ในสภาพที่ใช้งานได้ตลอดเวลาเพื่อสร้างความมั่นใจให้กับนักท่องเที่ยว และประชาชน
ด้านนายโสภณ ทองดี รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)
กล่าวว่าขณะนี้สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 1-10 รวม 23 จังหวัดชายทะเลภาคใต้,ภาคกลาง,ภาคตะวันออก จัดเจ้าหน้าที่ซึ่งมีประสบการณ์ และความเชี่ยวชาญในการปฏิบัติงานทางทะเล 443 นาย พร้อมรถยนต์ ,เรือเร็ว 56 ลำ และอุปกรณ์ช่วยชีวิตต่างๆ ออกตรวจตราตามหมู่เกาะทั้งที่มีจุดดำน้ำชมปะการังในจังหวัดต่างๆ ที่อยู่ในพื้นที่ดูแลรับผิดชอบของกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง ในช่วงเทศกาลปีใหม่ซึ่งมีวันหยุดตั้งแต่วันที่ 29 ธันวาคม 2560 -2 มกราคม 2561 รวมทั้งเจ้าหน้าที่และผู้ประกอบการต้องให้ความรู้ นักท่องเที่ยวที่นั่งเรือ และลงดำน้ำ ทุกคนต้องสวมใส่เสื้อชูชีพ และสร้างความรู้ความเข้าใจก่อนที่จะลงไปดำน้ำ สิ่งสำคัญต้องให้นักท่องเที่ยวทุกกคนตระหนักในการรักษาทรัพยากรในทะเลไม่ยืนบนปะการัง และเก็บขึ้นมา ซึ่งต้องปฏิบัติให้เป็นไปตามทั้งนี้เพื่อให้การท่องเที่ยวทางทะเลเป็นไปอย่างยั่งยืน และเป็นการรักษาทรัพยากรธรรมชาติของท้องทะเลให้สมบูรณ์ตลอดไป สิ่งสำคัญที่สุดคือให้นักท่องเที่ยวเกิดความมั่นใจในการท่องเที่ยวทางทะเลมากที่สุด
ขณะเดียวกันนายบรรณรักษ์ เสริมทอง ผอ.สำนักบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 กล่าวว่าในส่วนของจังหวัดเพชรบุรี และประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดเจ้าหน้าที่ฯพร้มอุปกรณ์โดยเฉพาะเรือเร็ว,เรือยาง ประจำอยู่หาดชะอำ,หาดหัวหิน,และอ่าวมะนาว และที่ท่าเทียบเรือบ้านปากคลอง อ.บางสะพานน้อย ซึ่งจะได้ดูแลพื้นที่เกาะทะลุ ซึ่งมีนักท่องเที่ยวเดินทางไปดำน้ำในช่วงวันหยุดเทศกาลปีใหม่ รวมทั้งแต่ละจุดจะมีเจ้าหน้าที่พร้อมเบอร์ติดต่อประสานงาน หารกมีเหตุการณ์ขอรับการสนับสนุนในการช่วยเหลือผู้ประสบภัยทางน้ำเพื่อให้การเข้าช่วยเหลือเป็นไปอย่างรวดเร็วที่สุด
