อช.อ่าวสยาม และ กรมทช.เข้าแจ้งความ หาตัวมือดีแอบหักยอดปะการังในแปลงฟื้นฟูเกาะทะลุเสียหายเป็นบริเวณกว้าง
ประจวบคีรีขันธ์-วันที่ 3มีนาคม2564 จากกรณีมีกลุ่มอนุรักษ์ทรัพยากรใต้น้ำ ชุมชนบ้านปากคลอง พบแปลงปลูกปะการังเขากวาง มีสภาพปะการังแตกหักเสียหายเป็นจำนวนมาก ในพื้นที่เกาะทะลุ ตำบลทรายทองอำเภอบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
เบื้องต้นนายภัทร อินทรไพโรจน์ เจ้าพนักงานป่าไม้อาวุโส ทำหน้าที่ หน.อช.อ่าวสยาม (เตรียมการ) ได้ประสานขอข้อมูลจากกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)ทราบว่าพื้นที่ดังกล่าวมีโครงการฟื้นฟูปะการัง โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งได้ว่าจ้างผู้รับเหมาเข้าดำเนินการแต่ได้รับแจ้งจากผู้รับจ้างว่าไม่ได้มีการดำเนินการหักกิ่งปะการังที่ปรากฏตามภาพข่าวดังกล่าว การฟื้นฟูปะการังดำเนินการโดยเก็บกิ่งปะการังตามพื้นทรายมาทำการขยายพันธุ์
ซึ่งวันนี้อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) ร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 3 จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ร่วมกันแจ้งความลงบันทึกประจำวันเกี่ยวกับเหตุการณ์ดังกล่าวไว้เป็นหลักฐาน ณ สถานีตำรวจภูธรบางสะพานน้อย จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมสั่งการให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติอ่าวสยาม (เตรียมการ) ดำเนินการดำน้ำเพื่อตรวจสอบความเสียหายบริเวณจุดดังกล่าวแล้ว หากมีความคืบหน้า จะดำเนินการรายงานให้ผู้บังคับบัญชาทราบต่อไป
ปะการังจัดเป็นสัตว์ป่าคุ้มครอง ตาม พรบ.สงวนและคุ้มครองสัตว์ป่า พ.ศ. 2562ประเภทสัตว์ป่าไม่มีกระดูกสันหลัง มีความผิดตามมาตรา 12 ห้ามมิให้ผู้ใดล่าสัตว์ป่าสงวนหรือสัตว์ป่าคุ้มครอง มีบทกำหนดโทษในมาตรา 89 ผู้ใดฝ่าฝืน มาตรา 12หรือมาตรา 29 ถ้ากระทำต่อสัตว์ป่าคุ้มครอง ซากสัตว์ป่าคุ้มครอง หรือผลิตภัณฑ์จากซากสัตว์ป่าคุ้มครอง ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 10ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000,000บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ โดยเจ้าหน้าที่เข้าเข้าแจ้งความเป็นหลักฐานที่ สภ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสืบหาตัวผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เกาะทะลุ อ.บางสะพานน้อย จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นแหล่งดำน้ำตื้นขึ้นชื่อ ซึ่งเป็นที่รู็จักของนักท่องเที่ยว มีแนวปะการังน้ำตื้นสวยงาม อยู่ทั้งบริเวณอ่าวกรวด อ่าวมุก อ่าวใหญ่ อ่าวเทียน และด้านหลังช่องทะลุ มีภาคเอกชน ได้มีโครงการปลูกปะการังเพื่อฟื้นฟูแนวปะการังที่เสื่อมโทรม ต่อเนื่องหลายปีจนประสบผลสำเร็จ ที่ผ่านมา โดยใช้ท่อพีวีซี โดยใช้กิ่งพันธ์ุในธรรมชาติ
นอกจากนั้นยังมีโครงการปลูกปะการัง ของภาครัฐ โดยกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) ว่าจัางบริษัทเอกชน มาดำเนินการปลูกปะการัง เพื่อฟื้นฟูด้วยเช่นกัน และ 2-3 ปีที่ผ่านมา มีเอกชนมารับจ้างดำเนินการปลูกปะการัง บริเวณเกาะทะลุเช่นกัน จากข้อมูลพบว่าโดยในปีนี้มีผู้รับเหมารายใหม่เข้ามารับจ้างปลูกแทนรายเดิม และเริ่มลงมือปลูก มาในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์ุที่ผ่านมา โดยทางผู้รับเหมายืนยันว่า ได้ปฎิบัติตามข้อกำหนด ระเบียบของกรมทช. ไม่มีการตัดหรือ หัก จากแปลงเดิมมาปลูก ใช้วิธีเก็บกิ่งพันธ์ุในธรรมชาติ ที่หักหล่นเท่านั้น
อย่างไรก็ตามสิ่งที่เกิดขึ้น นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ซึ่งทราบข่าวและสั่งการให้ นายโสภณ ทองดี อธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)ติดตามปัญหาที่เกิดขึ้นกับแนวปะรังที่เสียหาย และให้รายงานผลความคืบหน้าให้ทราบด้วย โดยในวันพรุ่งนี้ได้สั่งการให้นางสุมณา ขจรวัฒนากุล ผอ.สถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (กรมทช.)และนักวิชาการลงพื้นที่ดำน้ำตรวจสอบ พร้อมรายงานความคืบหน้าต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันทางบริษัทื่รับเหมา ก็ได้ทำหนังสือชี้แจงมาแล้วว่า ไม่ได้เป็นผู้ทำความเสียหายต่อแนวปะการัง ตามภาพดังกล่าวแต่อย่างใด
สำหรับสิ่งที่เกิดขึ้นต่อแนวปะการัง ตามภาพที่ปรากฏนั้น นักอนุรักษ์และองค์กรด้านสิ่งแวดล้อมว่า มิใช่เกิดจากเครื่องมือประมง.แต่เกิดจากการตัด และหักกิ่ง ส่วนใครเป็นผู้ลงมือ และทำเพื่ออะไรนั้นเป็นสิ่งที่หน่วยงานรับผิดชอบ โดยกรมทรัพยากรธรรมชาติ และสิ่งแวดล้อม กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช จะต้องหาคำตอบให้ได้ว่าเกิดอะไรขึ้น บริเวณแปลงปลูกปะการัง “เกาะทะลุ” แหล่งดำน้ำตื้นจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
