จ.ประจวบคีรีขันธ์ ทั้งภาครัฐ-ภาคเอกชน ประชุมขับเคลื่อนแผนเปิดเมืองหัวหินรับนักท่องเที่ยวต่างชาติ เน้นต้องพร้อม 100 เปอร์เซ็นต์ บริหารความเสี่ยงได้ และประชาชนต้องได้รับวัคซีนโควิดครอบคลุมตามเป้าหมาย ส่วนผู้ประกอบการท่องเที่ยว ชี้การเปิดต้องดูความพร้อม ศึกษาให้ดียกตัวอย่าง ภูเก็ตแซนด์บ็อกซ์ อย่ามุ่งหวังตัวเลขรายได้มากกว่าความปลอดภัย
ประจวบคีรีขันธ์ วันนี้11 ส.ค.2564 ที่ห้องประชุมสิงขร ชั้น 3 ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานการประชุมคณะทำงานเตรียมความพร้อมนำร่องด้านการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ผ่านระบบโปรแกรมซูม เพื่อเตรียมความพร้อมแผนการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ได้รับวัคซีนโควิด 19 แล้วในจังหวัดนำร่องโดยไม่ต้องกักตัวตามเป้าหมายการเปิดประเทศภายใน 120 วันของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและเป็นต้นแบบให้พื้นที่อื่นภายใต้มาตรการป้องกันที่เคร่งครัดและอยู่ในเงื่อนไขที่ยอมรับความเสี่ยงต่อการระบาดได้
โดย น.ส.แสงจันทร์ แก้วประทุมรัสมี ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้นำเสนอผลการดำเนินงานภูเก็ต แซนด์บอกซ์ ของ จ.ภูเก็ต ที่มีการเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติเป็นจังหวัดแรก ขณะที่พื้นที่หัวหิน-ชะอำ อยู่ในระยะที่ 3 ของเป้าหมายการเปิดการท่องเที่ยวในเดือน ต.ค.64 โดยขณะนี้มีการกำหนดแผนรองรับการเปิดเมือง 5 แผน ได้แก่ แผนการกระจายวัคซีนและบริหารด้านสุขอนามัยแผนพัฒนาเมืองหัวหิน-ชะอำ แผนการตลาดและการสื่อสาร แผนเผชิญเหตุและแผนบริหารความเสี่ยง และแผนการสร้างความเข้าใจให้คนในพื้นที่และนอกพื้นที่ยอมรับการเปิดเมือง
ข่าวน่าสนใจ:
- นายฮ้อยปางควายเวียงหนองหล่มใกล้สูญ
- นายก อบจ.ลำปาง ร่วมงาน Lampang Proud : เทศกาลกินดีลำปาง ส่งเสริมและสนับสนุนแนวคิดท้องถิ่นนิยม
- นราธิวาส-สุดทน! พ่อค้าแม่ค้าร้อง ส.ส.นำเรื่องเข้าสภาฯ หลัง "บอสตลาดเก็นติ้ง" จัดหนัก! ปรับราคาเช่า-ต่อสัญญาสูงลิ่ว
- รมว.ท่องเที่ยว ชวนลอยกระทง "สีสันแห่งสายน้ำฯ" สร้างสรรค์และใส่ใจสิ่งแวดล้อม
ด้าน นายอิศรา สถาปนเศรษฐ์ ผู้อำนวยการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเพิ่งเดินทางมารับตำแหน่งฯได้นำเสนอแผนการตลาดและแผนการสื่อสารเพื่อกระตุ้นการเดินทางของนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติ รวมถึงการสร้างความรู้ความเข้าใจแก่คนในพื้นที่และนักท่องเที่ยว โดยระบุว่า นักท่องเที่ยวต่างชาติที่จะเดินทางมาจะต้องมีใบรับรองการเดินทางเข้าประเทศไทย มีเอกสารรับรองการฉีดวัคซีนจากประเทศต้นทาง ได้รับวัคซีนโควิดครบโดสแล้วอย่างน้อย 14 วันก่อนการเดินทางแต่ไม่เกิน 1 ปี ต้องผ่านการตรวจหาเชื้อที่สนามบิน เดินทางด้วยยานพาหนะที่ได้มาตรฐาน SHA และ SHA+ เข้าพักในโรงแรมที่พักที่ได้มาตรฐาน SHA และ SHA+ โดยรอผลตรวจในห้องพัก พำนักในเขตเทศบาลเมืองหัวหินอย่างน้อย 14 คืน และตรวจหาเชื้อด้วยวิธี RT-PCR ตามระยะเวลาที่พำนักในวันที่ 6-7 และ 12-13 ก่อนออกเดินทางนอกเขตจังหวัดได้
ขณะเดียวกันด้านนายกรด โรจนเสถียร ประธานภาคเอกชน โครงการหัวหิน รีชาร์จ กล่าวว่า ขณะนี้มีบุคลากรธุรกิจท่องเที่ยวและบริการในเขตเทศบาลเมืองหัวหินได้รับวัคซีนครอบคลุมแล้วเกือบร้อยละ 90 โดยภาคเอกชนผู้ประกอบการได้ร่วมสนับสนุนการจัดซื้อวัคซีนมาฉีดให้กับบุคลากรด้วยส่วนหนึ่ง ส่วนประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหินได้รับวัคซีนแล้วกว่าร้อยละ 30 ของจำนวนประชากรเป้าหมาย 90,564 คน คาดการณ์ว่าหากเทศบาลเมืองหัวหินสามารถต้อนรับนักท่องเที่ยวต่างชาติโดยไม่ต้องกักตัวได้ภายในช่วงไตรมาสที่ 4 ตั้งแต่เดือนตุลาคม ถึงธันวาคม 2564 จะมีนักท่องเที่ยวจากต่างชาติเดินทางเข้ามาถึง 100,000 คน สร้างรายได้แก่พื้นที่กว่า 1,200 ล้านบาท และมีการจ้างงานในภาคธุรกิจบริการอีกกว่า 89,000 คน โดยโครงการหัวหิน รีชาร์จ เป็นความร่วมมือของภาครัฐ โรงพยาบาลและสาธารณสุข สมาคม และภาคเอกชนในธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการ ในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เพื่อร่วมมือในการบริหารจัดการการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนในพื้นที่ให้เป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ รวมไปถึงการขอความเห็นชอบจากภาครัฐให้จัดสรรวัคซีนอย่างเร่งด่วน
ด้าน นายพรหมพิริยะ กิจนุสนธิ์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติจะต้องมีแผนการรองรับที่ชัดเจนและมีความพร้อมจริงๆ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับประชาชนในการป้องกันไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 โดยประชาชนในเขตเทศบาลเมืองหัวหินจะต้องได้รับการฉีดวัคซีนไม่ต่ำกว่าร้อยละ 70 และบุคลากรการท่องเที่ยวต้องได้รับวัคซีนครบ 100 เปอร์เซ็นต์จึงจะสามารถเปิดการท่องเที่ยวได้ รวมทั้งจะต้องบูรณาการการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน จ.เพชรบุรี ด้วยเนื่องจากหัวหิน-ชะอำ มีเส้นทางการท่องเที่ยวเชื่อมโยงกัน โดยหลังจากนี้ได้มอบหมายให้มีการตั้งคณะทำงานย่อยเพื่อขับเคลื่อนแผนการทำงานแต่ละด้าน มีผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนเข้าร่วม และจะมีการประชุมติดตามความพร้อมอย่างต่อเนื่อง
อย่างไรก็ตามผู้ประกอบธุรกิจท่องเที่ยว โรงแรม ขนาดเล็ก ร้านนวด ผู้ประกอบการขนส่ง อีกหลายสาขาที่เกี่ยวข้องภาคธุรกิจท่องเที่ยว เปิดเผยว่า ขอให้ภาครัฐ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง และภาคเอกชน ท่องเที่ยวรายใหญ่อย่าด่วนตัดสิน ว่าจะเปิดเมืองท่องเที่ยว หัวหิน ในเดือนตุลาคม จะสร้างรายได้ดังที่ดังที่ตั้งไว้ รวมถึงจำนวนนักท่องเที่ยว ต่างชาติที่จะเดินทางเข้ามา ต้องดูด้วยว่าสถานการณ์โควิด-19 ที่ยังมีตัวเลข 100 กว่ารายทุกวันนี้ ผู้เสียชีวิตสะสม 24 ราย ณ วันนี้ คลัสเตอร์การระบาดยังมีต่อเนื่องทั้งหัวหิน และอีกหลายอำเภอ
นอกจากนั้นปัจจุบันนี้โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ร้านค้า ฯลฯ หลายแห่งต้องปิดกิจการมานานหลายเดือน บางแห่งปิดตั้งแต่ปี ที่ผ่านมาปัจจุบัน ยังเปิดไม่ได้เพราะแม้แต่คนไทยก็ไม่มา ตราบใดการติดเชื้อโควิด ยังมีอยู่ทุกวัน ประชาชนบางกลุ่มที่ใช้แรงงานหาเช้า กิน ค่ำ ยังคงเดือดร้อนกันอยู่ วันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องภาครัฐ ภาคธุรกิจท่องเที่ยว ควรหาข้อมูลให้รอบด้าน เปิดแล้วใครได้ประโยชน์ ควรดูจากภูเก็ต ทำอย่างไรประโยชน์ที่จะได้รับควรตกอยู่กับทุกกลุ่มที่เกี่ยวข้องทั้งหมดรวมทั้งประชาชน อยากฝากให้ไตร่ตรองให้รอบครอบ เอาให้โควิด หมดลงและประชาชนปลอดภัย น่าจะดีกว่า ตอนนี้เหลืออีก 4 เดือนก็จะเข้า 2 ปีที่ได้รับผลกระทบ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: