ผู้ว่าการการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่ประเมินสถานการณ์การเข้าพักในพื้นที่หัวหินและชะอำ ในช่วงวันหยุดยาว 3 วัน พบว่า โรงแรม รีสอร์ท มีอัตราการเข้าพักค่อนข้างสูง เป็นกลุ่มตลาดคนไทย เผยมีเงินสะพัดในภาพรวมของประเทศในช่วง 3 วันไม่น้อยกว่า 5,700 ล้านบาท ขณะเดียวกันผู้ประกอบการในพื้นที่ระบุว่า ส่วนใหญ่เป็นผลมาจากโครงการ”เราเที่ยวด้วยกัน” ทำให้มียอดการเข้าพักเฉลี่ย ร้อยละ 90 บางแห่งห้องพักเต็ม พร้อมเสนอให้รัฐบาลพิจารณาต่อโครงการดังกล่าว ซึ่งจะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจและกระตุ้นการท่องเที่ยวของประเทศต่อเนื่อง ในขณะที่การจองห้องพักในช่วงคริสต์มาสและเทศกาลปีใหม่ ขณะนี้โรงแรม รีสอร์ท บางแห่งถูกจองเต็มแล้ว
(วันที่ 11 ธันวาคม 2564) ในช่วงวันหยุดยาว 3 วันในสุดสัปดาห์นี้ พบว่าบรรยากาศการเดินทางท่องเที่ยวทั้งพื้นที่ อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี และ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นไปอย่างคึกคัก สถานที่พักโรงแรม รีสอร์ท และสถานที่ท่องเที่ยวทั้งหาด ชะอำ หาดหัวหิน ร้านค้า ร้ายขายของที่ระลึก เป็นไปอย่างคึกคัก สร้างรายได้ให้กับผู้ประกอบการ
นายจำนงค์ บุตรสงค์ ผู้จัดการทั่วไป โรงแรมวีรันดา รีสอร์ท และเวอโซหัวหิน กล่าวว่าสถานการณ์การท่องเที่ยวในพื้นที่ขณะนี้ดีพอสมควร โดยยอมรับว่า”โครงการเราเที่ยวด้วยกัน” เป็นส่วนหนึ่งในการกระตุ้นให้เกิดการเดินทางท่องเที่ยวเข้ามาพักผ่อนตามโรงแรม รีสอร์ท ต่างๆในเมืองหัวหินและชะอำ ซึ่งมีชื่อเสียงด้านการท่องเที่ยวอยู่แล้ว และต้องยอมรับว่าในช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ อัตราการเข้าพักอยู่ที่ ร้อยละ 90 บางโรงแรม รีสอร์ท บางแห่งก็ถึง 100 เปอร์เซ็นต์ โดยต้องยอมรับว่าโรงแรมของเราทั้งวีรันดา และเวอโซ เรามีลูกค้าเข้าพักเต็มทั้ง 3 วันตั้งแต่ 9-12 ธันวาคม จำนวน 176 ห้อง ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มลูกค้าไฮเอนด์ ห้องพักของเราราคาเริ่มตั้งแต่ 4,500 ไปจนถึง 9,000 บาท
ซึ่งในช่วงเทศกาลคริสต์มาสต่อเนื่องไปจนถึงปีใหม่ จนถึงวันที่ 5 มกราคม 2565 ลูกค้าจองเต็มแล้วในขณะนี้ อย่างไรก็ตามลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้าพักจะผ่านการฉีดวัคซีนมาแล้วครบ 2 เข็มและบางส่วนมีการฉีดเข็มที่ 3 แล้วด้วย ส่วนทางโรงแรมเราก็ได้รับมาตรฐาน ทางสาธารณสุข ทั้ง CHA และ CHA +รวมทั้งพนักงานของเราก็ผ่านการฉีดวัคซีนครบโดสแล้วทั้งหมดเช่นกัน เป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักท่องเที่ยวที่เข้าพักกับทางโรงแรม
สำหรับโครงการเราเที่ยวด้วยกัน ยอมรับเป็นโครงการที่ดีมากตอบโจทย์ ซึ่งทราบว่าขณะนี้เหลืออีก 8 หมื่นกว่าสิทธิ์ ก็คาดว่าน่าจะหมดในเดือนมกราคม 2565 ก็อยากให้ทางรัฐบาลช่วยพิจารณาต่อโครงการเราเที่ยวด้วยกันออกไปอีกจนถึงช่วงเทศกาลสงกรานต์ จะส่งผลให้เศรษฐกิจและภาคการท่องเที่ยวของประเทศฟื้นตัวต่อเนื่อง
ขณะเดียวกันนายยุทธศักดิ์ สุภสร ผู้ว่าการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย ลงพื้นที่หัวหินติดตามสถานการณ์การท่องเที่ยวและพบปะพูดคุยกับผู้ประกอบการท่องเที่ยวในพื้นที่หัวหิน/ชะอำ ขณะนี้ต้องยอมรับว่าการเปิดประเทศตามนโยบายของรัฐบาล ทุกภาคส่วนได้รับผลดีจากโครงการนี้ ไม่ใช่เพียงการดึงนักท่องเที่ยวต่างชาติเข้ามาเท่านั้น มุมมองคนไทยเองก็เดินทางท่องเที่ยวด้วยทั้งหัวหินและชะอำ เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่ได้รับความนิยม โดยพฤติกรรมนักท่องเที่ยวในระยะหลัง จะมีการเดินทางไปไม่ไกลนักทั้งกับครอบครัว และกลุ่มเพื่อน ยอมรับว่าอัตราการเข้าพักทั้งหัวหินและชะอำ ค่อนข้างสูงโดยเฉพาะในช่วงวันหยุดยาว และการเข้าพักทั่วประเทศไม่น้อยกว่า 40% มีเงินสะพัดในภาพรวมของประเทศในช่วง 3 วันไม่น้อยกว่า 5,700 ล้านบาท หัวหิน/ชะอำ ก็จะได้รับผลดีในวันหยุดยาวครั้งนี้ด้วยเช่นกัน
ทั้งนี้ในส่วนของโครงการเราเที่ยวด้วยกัน รวมทั้งทัวร์เที่ยวไทย ถือว่าเป็นโครงการสำคัญกระตุ้นการท่องเที่ยวภายในประเทศ ทำให้ในช่วงปลายปีการท่องเที่ยวคึกคัก ทำให้ภาพรวมของการท่องเที่ยวไม่น้อยกว่าปีที่ผ่านมา ซึ่งหากในปีหน้ามีการดำเนินโครงการต่อก็จะเป็นโครงการต่อที่จะช่วยผลักดันให้เป็นไปตามเป้าหมายซึ่งเราคิดว่าไม่น้อยว่า 120 ล้านคนครั้ง ซึ่งเรื่องโครงการดังกล่าวในวันจันทร์ว่าจะได้นำเสนอ ต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ต่อไปคิดว่าการขยายโครงการที่เป็นประโยชน์และภาคเอกชนก็เห็นด้วยคงไม่น่ามีปัญหาหาอะไร ขณะนี้สิทธิ์กำลังจะหมดจาก 2 ล้านสิทธิ์ตอนนี้เหลือแค่ 85,000 สิทธิ์ คาดว่าจะหมดภายในสิ้นเดือนธันวาคมนี้ ก็เป็นนโยบายของรัฐบาลที่อยากจะให้เป็นของขวัญปีใหม่แด่ประชาชนพี่น้องคนไทย
ขณะเดียวกันนางวาสนา ศรีกาญจนา นายกสมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ กล่าวว่า อัตราการจองและการเข้าพักของโรงแรม 3-5 ดาว ถือว่าอยู่ในระดับที่น่าพอใจ มีทั้งกลุ่มนักท่องเที่ยวที่มาจากทั้งในกรุงเทพฯใกล้เคียง และภาคอื่นๆรวมทั้งกลุ่มลูกค้าที่ซื้อคอนโดไว้เป็นบ้านหลังที่ 2 เอาไว้ก็จะเดินทางมาพักผ่อน โดยเฉพาะในช่วงเทศกาลปีใหม่สถานการณ์การท่องเที่ยว น่าจะดีขึ้นส่วนใหญ่เป็นกลุ่มคนไทย อย่างไรก็ตามสิ่งที่น่าเป็นห่วงคือกลุ่มโรงแรมขนาดเล็ก ที่เป็น SME ของทั้ง 2 จังหวัดอัตราเข้าพักยังน้อยอยู่ แต่ในช่วงปีใหม่เชื่อว่า ทั้งชะอำ จ.เพชรบุรี หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ อยู่ใกล้กรุงเทพฯ นักท่องเที่ยวต้องมาแน่นอน และคงต้องฝากหน่วยงานภาครัฐช่วยพิจารณา รวมทั้ง การท่องเที่ยวแห่งระเทศไทย ควรต้องจัดแคมเปญให้กับโรงแรม SME บ้างเพื่อกระตุ้น ซึ่งในช่วงที่เกิดสถานการณ์โควิด-19 ระบาดใหม่ๆ ทาง ททท.เพชรบุรี และ ททท.ประจวบคีรีขันธ์ มีการจัดการกระตุ้นท่องเที่ยว “เว้าหัวหิน/ชะอำ” ซึ่งก็ทำให้ผู้ประกอบการโรงแรมขนาดเล็กเดินต่อไปได้
