ชาวบ้าน 2 หมู่บ้านในตำบลบึงนคร ทุกข์ใจอย่างหนัก หลังทหารจากศูนย์การทหารราบ นำประกาศไปติดตามบ้านเรือนแจ้งให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน เตรียมใช้พื้นที่ซ้อมรบกระสุนจริง ล่าสุดฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน ลงพื้นที่ติดตามปัญหา เตรียมทำหนังสือรายงานผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และศูนย์การทหารราบ เพื่อขอคำชี้แจงและรับฟังปัญหาของชาวบ้าน
วันนี้ ( 28 ธันวาคม 2564 ) นายกิตติชัย ศรีทองช่วย ปลัดอำเภอหัวหิน พร้อมด้วยสื่อมวลชน ลงพื้นที่ตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อติดตามปัญหาความเดือดร้อนของชาวบ้าน 2 หมู่บ้าน คือ หมู่ 1 บ้านหนองหินใน และหมู่ 9 บ้านภูหลวง หลังได้รับรายงานจาก นายสุวิทย์ น้ำกลั่น กำนัน ตำบลบึงนคร , นายกิจติ ปัทเขียว ผู้ใหญ่บ้านหมู่1 บ้านหนองหินใน , นายประทูน คล้ายวงค์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านภูหลวง , นายประยูร ขันแก้ว ว่าที่ นายก อบต.บึงนคร ว่า ขณะนี้มีชาวบ้านจำนวน 9 หลังคาเรือน กำลังเดือดร้อน เนื่องจากเมื่อวันที่ 23 ธันวาคมที่ผ่านมา มีทหารจากศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ นำประกาศศูนย์การทหารราบ เรื่อง ให้ผู้บุกรุกออกจากพื้นที่ ไปติดตามบ้านเรือน โดยมีใจความในประกาศ ระบุว่า ศูนย์การทหารราบโดย กองพันบริการ กองบริการ ศูนย์การทหารราบเป็นผู้รับผิดชอบ พื้นที่ราชพัสดุ แปลง ปข..65 แจ้งให้ทราบว่าท่านได้บุกรุกที่ดินราชพัสดุแปลงนี้ ทางศูนย์การทหารราบ จึงขอแจ้งให้ทานออกจากพื้นที่พร้อมทั้งรื้อถอนสิ่งปลูกสร้างต่างๆออกจากพื้นที่ราชพัสดุภายใน 30 วัน หากครบกำหนดทางศูนย์การทหารราบ จะไม่รับความผิดชอบต่อความเสียหายใดๆและจะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมายต่อไป จึงประกาศให้ทราบโดยทั่วกัน ณ วันที่ 23 ธันวาคม 2564
ข่าวน่าสนใจ:
ทั้งนี้พบว่า ขณะนี้ชาวบ้านเกิดความทุกข์ใจ และเกิดความวิตกกังวลอย่างหนัก เนื่องจากชาวบ้านเหล่านี้อาศัยอยู่ในพื้นที่มานานหลายสิบปี บางครอบครัวอาศัยมาตั้งรุ่นพ่อแม่ประมาณ 50 ปี ไม่ทราบมาก่อนว่าเป็นพื้นที่เขตปลอดภัยทางทหาร และพื้นที่ตรงนี้ก็เป็นผืนดินสำหรับปลูกบ้านที่พักอาศัยของครอบครัวเพียงหลังเดียวในชีวิต และเป็นที่ดินสำหรับทำการเกษตร ปลูกสับปะรด ปลูกกล้วย ปลูกยางพารา เพื่อหาเลี้ยงชีพ หากต้องถูกไล่ออกจากพื้นที่ไม่รู้จะไปหาที่อยู่ใหม่ได้ที่ไหน รวมทั้งศูนย์การทหารราบก็ไม่มีการพูดถึงความรับผิดชอบเยียวยาผู้เดือดร้อน บางรายพืชผลทางการเกษตรกำลังออกผลผลิต อยากให้หน่วยงานที่รับผิดชอบเข้ามาดูแลช่วยเหลือชาวบ้านเป็นการเร่งด่วน
นายประทูน คล้ายวงค์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 บ้านภูหลวง กล่าวว่า พื้นที่บ้านภูหลวงถูกกำหนดให้เป็นพื้นที่ซ้อมรบ ขนาดพื้นที่ 7,500 ไร่ ซึ่งครอบคลุมเกือบทั้งหมู่บ้าน ผลกระทบกับประชาชนประมาณ 300 กว่าหลังคาเรือน ขณะนี้มีประชาชนอย่างน้อย 9 ราย ถูกประกาศให้รื้อถอนสิ่งปลูกสร้างออกจากพื้นที่ภายใน 30 วัน เบื้องต้นทหารจะใช้พื้นที่ออกเป็นหนังสือ นสล.เพื่อใช้พื้นที่เป็นสนามซ้อมรบฝึกยิงกระสุนจริง ซึ่งจะส่งผลกระทบกับชาวบ้านทั้งหมด ทั้งเสียงดังขณะซ้อมรบ อันตรายที่อาจจะเกิดขึ้น และชาวบ้านจะไม่สามารถไปทำสวนทำไร่ได้ตามปกติ จึงอยากให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ช่วยเหลือชาวบ้านด้วย
นายสุวิทย์ น้ำกลั่น กำนันตำบลบึงนคร กล่าวว่า ขณะนี้ชาวบ้านอยู่กันอย่างระหวาดระแวง หลังจากมีทหารมาติดประกาศและให้รื้อถอนภายใน 30 วัน ตนมองว่าชาวบ้านไม่ได้บุกรุกแต่บุกเบิกทำกินไว้ รุ่นลูกมาสานต่อ โดยที่ไม่รู้ว่าเป็นพื้นที่ใคร กระทั่งทหารมาติดประกาศว่าเป็นพื้นที่ราชพัสดุ ของกรมธนารักษ์ และเตรียมเปลี่ยนเป็น นสล.โดยที่ไม่ได้มองว่าชาวบ้านจะเดือดร้อนมากแค่ไหนนั้น ตนอยากให้หน่วยภาครัฐที่เกี่ยวข้องทุกฝ่าย เข้ามาหาทางแก้ไขให้ชาวบ้านด้วย อยากให้หน่วยที่เกี่ยวข้อหาทางแก้ไขและข้อยุติไม่ใช่วันดีคืนดีก็มาขับไล่กัน ยิ่งบอกว่าจะเอาที่ดินไปทำสนามฝึกยิงกระสุนจริงก็ย่อมต้องมีผลกระทบกับชาวบ้านแน่นอน
น.ส.วิลาสินี หวานใจ อายุ 36 ปี กล่าวด้วยน้ำตาว่า วันที่มาติดประกาศ ทหารแจ้งว่า จะมีการฝึกซ้อมรบ ในเดือนมกราคม 2565 ให้ทยอยย้ายสิ่งของออกจากพื้นที่เพราะจะมีการก่อสร้างอาคารและซ้อมรบกระสุนจริง กับทหารชาวต่างชาติ โดยทหารถามตนว่ามีที่อยู่ที่อื่นให้ไปอยู่หรือไม่ ตนตอบไปตามตรงว่าไม่มี จะให้ตนไปอยู่ที่ไหน เพราะอาศัยอยู่ที่บึงนครมาทั้งชีวิต ความรู้สึกตอนนี้คือ ทำอะไรไม่ถูก ไม่รู้จะไปพึ่งใคร ตอนนี้ทำได้เพียงแจ้งกับทางผู้ใหญ่บ้านเท่านั้น ตนอยากถามกลับไปทางทหารว่า ที่ตรงอื่นยังมีอีกหรือไม่ ทำไมต้องมาใช้พื้นที่ที่มีประชาชนอาศัยอยู่ ทำไมต้องมาไล่ชาวบ้าน
นางสมร เนตรสน อายุ 64 ปี กล่าวว่า ตนมีที่ดินอยู่แค่ไม่กี่ไร่ จึงได้ปลูกสับปะรด กล้วยน้ำว้า และเผาถ่านสร้างรายได้ แต่พอทหารมาติดประกาศให้รื้อถอนออกภายใน 30 วัน ยอมรับว่าไม่รู้จะไปอยู่ที่ไหน เนื่องจากอยู่ที่บริเวณดังกล่าวมานานหลายสิบปี ทางทหารก็บอกว่าไม่รู้ ให้ไปหาที่อยุ่เอาเอง รู้สึกเสียใจ เพราะเราก็อยู่มานาน ไม่มีที่ไปแล้ว ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน
นายสมชาติ เพ็ญรัตนา อายุ 48 ปี อาชีพทำสวนยางพารา จำนวน 30 ไร่ กล่าวว่า ก่อนหน้านี้มีทหารมาสำรวจ ถามว่ามีเด็กหรือผู้สูงอายุอยู่หรือไม่ และบอกว่าจะมีการฝึกกระสุนจริงขอให้ย้ายออกไป ไม่นานก็มีหนังสือมาติดประกาศ ส่วนตัวมองว่าเอกสารที่นำมาติดประกาศนั้น ไม่ถูกต้อง ไม่ใช่หนังสือราชการ และควรแจ้งเรื่องให้ผู้นำชุมชนได้ทราบเพื่อแจ้งชาวบ้านให้มาประชุมเพื่อรับฟังข้อมูลร่วมกัน
นายกิตติชัย ศรีทองช่วย ปลัดอำเภอหัวหิน กล่าวว่า หลังลงพื้นที่รับฟังความเดือดร้อนของประชาชนแล้ว จากนี้จะรายงานให้ทางผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ได้ทราบ จากนั้นจะทำหนังสือเชิญให้ทางศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ ได้นัดหมายผู้มีส่วนเกี่ยวข้องได้มาชี้แจงข้อมูลและหาทางออกร่วมกัน ทั้งขั้นตอนปฏิบัติต่าง ๆ ในการนำที่ดินไปใช้ประโยชน์รวมทั้งการชดเชยความเดือดร้อนให้กับผู้ได้รับผลกระทบ อีกทั้งชาวบ้านคัดค้านการนำที่ดินดังกล่าวไปออกเป็น น.ส.ล.ซึ่งจะเป็นปัญหากับชาวบ้านอย่างมาก เพราะจะกลายเป็นการบุกรุกที่ดินของรัฐ จะมีการดำเนินคดีตามมา ซึ่งชาวบ้านมีความกังวลในเรื่องดังกล่าวเป็นอย่างมาก
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: