ชาวบ้านจาก 12 หมู่บ้าน กว่า 1,200 คนในตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบฯ เดินทางไปร่วมลงลายมือชื่อคัดค้าน ไม่ให้ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ กองทัพบก นำที่ดินในพื้นที่ไปออก น.ส.ล.(หนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง) ซึ่งในเวทีชี้แจงใช้เวลากว่า 3 ชั่วโมง โดยส่วนใหญ่ขอให้ทางทหารหยุดการสำรวจพื้นที่ และให้ระงับการออก น.ส.ล. หวั่นปัญหาบานปลาย เบื้องต้นทหารชี้แจงว่าต้องดำเนินการไปตามข้อกฎหมายที่กำหนดเบื้องต้นในงบประมาณนี้ กองทัพบกต้องใช้พื้นที่กว่า 8,000 ไร่ ในการสำรวจออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง น.ส.ล. เพื่อใช้ประโยชน์ในการฝึกยิงกระสุนจริง ยืนยันว่าการออกหนังสือแต่ชาวบ้านยังอาศัย และทำกินต่อไปได้
วันที่ 21 พ.ย.2561 ที่องค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน เป็นประธานในการประชุม กรณีศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ กองทัพบก จะดำเนินการนำที่ดินแปลง ปข.605 ซึ่งมีการขึ้นทะเบียนที่ดินราชพัสดุโดยสำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ไว้เมื่อปี 2552 ในส่วนของตำบลบึงนครและชาวบ้านในพื้นที่ได้ทำหนังสือยื่นคัดค้านการขึ้นทะเบียนไปแล้ว แต่ล่าสุดทางศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ กองทัพบก จะนำที่ดินแปลง ปข. 605 ไปขอออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง น.ส.ล. เพื่อใช้เป็นพื้นที่ฝึกกระสุนจริง
โดยชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบึงนคร ได้อยู่อาศัยทำมาหากินอยู่ในพื้นที่มากว่า 60 ปีแล้ว จึงได้ยื่นหนังสือผ่านศูนย์ดำรงธรรมของ อบต.บึงนคร และ อำเภอหัวหิน คัดค้านมาโดยตลอด เพื่อขอให้ทางกองทัพบก กระทรวงกลาโหม ได้พิจารณายกเลิกการสำรวจพื้นที่ และระงับการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง น.ส.ล. โดยที่ผ่านมามีการประชุมร่วมกันหลายฝ่ายทั้ง ทหารศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ , มณฑลทหารบกที่ 15 , ธนารักษ์พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, สำนักงานที่ดินหัวหิน, ฝ่ายปกครองอำเภอหัวหิน, องค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร, กำนัน ,ผู้ใหญ่บ้าน และชาวบ้านในพื้นที่ตำบลบึงนคร เข้าร่วมประชุมเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม 2561 ที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอหัวหิน แต่ยังไม่สามารถหาข้อยุติได้ จึงมีการนัดประชุมชี้แจงทำความเข้าในต่อกรณีดังกล่าวขึ้นในพื้นที่องค์การบริหารส่วนตำบลบึงนครในวันนี้
โดยวันนี้ชาวบ้าน 12 หมู่บ้านตำบลบึงนคร กว่า 1,200 คน รวมถึงนักเรียนในพื้นที่ได้ร่วมกันลงลายมือชื่อในการคัดค้านการนำที่ดินแปลง ปข.605 ไปออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง น.ส.ล ก่อนที่จะเข้าเวทีประชุมชี้แจง พร้อมด้วยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ตลอดจนสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร
ซึ่งในเวทีประชุมชี้แจงทำความเข้าใจในครั้งนี้ นอกจากมีนายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอหัวหิน ,นายศึกฤทธิ์ เด็มฟอม นายกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร พร้อมด้วยนายมนตรี มานิชพงษ์ ปลัดอำเภอหัวหิน,นายกิตติชัย ศรีทองช่วย ปลัดอำเภอหัวหิน,นายนุกูล วัฒนากร ปลัดอำเภอหัวหิน, จ่าสิบเอกสมพร หงษ์ทอง ชุดรักษาความสงบเรียบร้อยพื้นที่หัวหิน ,จ่าสิบเอกนิติเทพ จิตประสงค์ เจ้าหน้าที่ส่วนประสานงาน กอ.รมน.ประจวบคีรีขันธ์ ,ศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ ,มณฑลทหารบกที่ 15 , สำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์, ที่ดินสาขาอำเภอหัวหิน, กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน และสมาชิกองค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร
ทั้งนี้เวทีประชุมชี้แจงในครั้งนี้ ตัวแทนทหารจากศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ และมณฑลทหารบกที่ 15 และเจ้าหน้าที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ชี้แจงต่อชาวบ้านว่าการนำพื้นที่ดินแปลง ปข.605 ไปออกหนังสือสำคัญที่หลวง น.ส.ล. นั้นเป็นนโยบายของกองทัพบก ที่จะนำพื้นที่ในตำบลบึงนครเป็นสถานที่ฝึกกระสุนจริง เนื่องจากกระทรวงกลาโหมได้มอบหมายให้กองทัพบกเป็นผู้ดูแลและใช้ประโยชน์ โดยศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ โดยพื้นที่แปลงดังกล่าวเป็นพื้นที่เขตปลอดภัยทางราชการทหาร ออกตามแผนที่แนบท้ายพระราชกฤษฎีกาปี 2512 เป็นพื้นที่หวงห้ามของทางราชการทหารตามกฎหมายว่าด้วยเขตปลอดภัยทางราชการทหาร โดยปี พ.ศ.2478 เป็นที่หวงห้ามของกระทรวงกลาโหม การที่ทหารจะนำพื้นที่แปลงดังกล่าว เพื่อจะออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง น.ส.ล. ก็เป็นการดำเนินการตามขั้นตอนราชการเป็นที่ดินราชพัสดุ โดยพื้นที่ดังกล่าวจะใช้ประโยชน์ในการฝึกยิงกระสุนจริงของหน่วยทหาร ซึ่งในการฝึกนั้นแต่ละปีอาจจะมีการฝึก 1-2 ครั้งเท่านั้น อย่างไรก็ตามการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวงนั้นประชาชนก็ยังสามารถอยู่อาศัยทำกินได้ตามปกติ
อย่างไรก็ตามนายสมพงษ์ หนองขาว ,นายเจริญ เหมือนศรีเพ็ง และชาวบ้านในตำบลบึงนครอีกหลายราย ได้ลุกขึ้นชี้แจงแสดงความคิดเห็น ส่วนใหญ่ยังคงคัดค้านการที่ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัตช์ กองทัพบก จะนำพื้นที่ของชาวบ้านไปออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง น.ส.ล. โดยให้เหตุผลว่าชาวบ้านอยู่มานานมากกว่า 50 ปีแล้ว มีการสร้างบ้านเรือน ประกอบอาชีพทางการเกษตร และในพื้นที่มีสถานที่ราชการ วัด โรงเรียน โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล ซึ่งหน่วยงานภาครัฐได้ให้การส่งเสริมสนับสนุนในด้านต่างๆมาโดยตลอด รวมทั้งสิ่งสำคัญชาวบ้านได้ไปขอยื่นคัดค้านการที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้นำพื้นที่ไปขึ้นทะเบียนราชพัสดุเมื่อปี 2552 จนกระทั่งบัดนี้เวลาผ่านมา 9 ปี กลับแจ้งว่าไม่เคยมีเอกสารคัดค้าน จนส่งผลกระทบต่อชาวบ้านในพื้นที่มาถึงปัจจุบันนี้ จนขณะนี้ศูนย์การทหารราบ ค่ายธนะรัชต์ ก็จะดำเนินการมาเอาพื้นที่แปลงดังกล่าวมาออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง เพื่อใช้ในการฝึกยิงกระสุนจริง และหากจะเปิดให้เช่าที่ดิน หากมีการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง น.ส.ล.นั้นชาวบ้านก็ไม่เห็นด้วย
โดยชาวบ้านส่วนใหญ่ทั้ง 12 หมู่บ้านยืนยันว่าจะคัดค้านจนถึงที่สุด และขอให้ตัวแทนของทหารที่เข้าร่วมเวทีประชุมชี้แจงในครั้งนี้ รายงานต่อผู้บังคับบัญชาระดับสูง ให้ได้รับทราบข้อมูลที่ถูกต้องด้วยว่าตำบลบึงนครมี 12 หมู่บ้านประชากรอาศัยอยู่ถึง 4,926 คน 2,295 ครัวเรือน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าเวทีประชุมชี้แจงในครั้งนี้ใช้เวลาเกือบ 4 ชั่วโมง โดยที่ฝ่ายตัวแทนเจ้าหน้าที่สำนักงานธนารักษ์พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และทหารยืนยันว่าต้องดำเนินการเป็นไปตามระเบียบข้อกฎหมายเท่านั้น โดยขั้นตอนการออกหนังสือสำคัญที่หลวง น.ส.ล.นั้นเมื่ออกแล้ว ตัวแทนทหารยืนยันว่าชาวบ้านยังคงอยู่ในพื้นที่ได้ตามปกติ
นายมนตรี มานิชพงษ์ ปลัดอำเภอหัวหิน กล่าวว่า ชาวบ้านขอให้ทหารชะลอการสำรวจที่ดินเพื่อออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง น.ส.ล. ส่วนทางศูนย์การทหารราบค่ายธนะรัชต์ ผู้ใช้ประโยชน์ยืนยันว่าต้องดำเนินการตามระเบียบข้อกฎหมาย เนื่องจากได้รับงบประมาณมาแล้ว และทหารยังเปิดโอกาสให้ชาวบ้านทำการเช่าได้ หากมีการออกหนังสือสำคัญสำหรับที่หลวง น.ส.ล.แล้วตามระเบียบของกรมธนารักษ์ และในส่วนของธนารักษ์พื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หากมีข้อระเบียบของข้อกฎหมายทั้ง 2 ฝั่งคือทั้งชาวบ้านและทหาร ก็ขอให้แจ้งให้ทราบในการประชุมครั้งต่อไปเพื่อเป็นทางออก และในส่วนของการคัดค้านทั้งแปลงนั้นไม่เกิดประโยชน์ ซึ่งทางที่ดินได้ให้คำแนะนำว่าการคัดค้านขอให้เป็นรายแปลง เพื่อให้ทราบว่าชาวบ้านแต่ละคนคัดค้านอย่างไร และหลักฐานการคัดค้านไม่จำเป็นต้องเป็นเอกสารสิทธิเพียงอย่างเดียว เป็นทะเบียนบ้าน สูติบัตร ใบมรณบัตร หรือพยานบุคคลก็ได้สามารถนำมาใช้ยื่นคัดค้านได้ ในกรณีที่หากมีการรังวัดและชาวบ้านใช้สิทธิ์คัดค้าน วันนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป สิ่งที่กล่าวมานั้นสืบเนื่องจากการประชุมครั้งที่ผ่านมาที่ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอหัวหิน สำหรับปัญหาเรื่องนี้ยังคงต้องมีการพูดคุยประชุมอีกหลายครั้ง และครั้งต่อไปก็ยังไม่มีการกำหนดว่าเมื่อไร แต่ชาวบ้านเสนอว่าหากมีการประชุมชี้แจงอีกก็อยากให้เป็นที่ องค์การบริหารส่วนตำบลบึงนคร
