แรงงานเมียนมาลักลอบเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติกว่า 300 คน
(วันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2565) พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องหลากสิน รองผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ สั่งการให้ ร.ท.บรรชา ช้างเขียว ผบ.ควบคุม ส่วนลาดตระเวน ฉก.จงอางศึก/ ร.29 สนธิกำลังร่วมกับ นายชัยวุฒิ คุณาธิมาพันธ์ รักษาการป้องกันจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายดฤษกร สายศิวานนท์ ปลัดอําเภอฝ่ายความมั่นคงอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ ตชด.146 ตำรวจ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ อส.จังหวัด ผู้ใหญ่บ้านหมู่ 9 ชรบ ชุดการข่าว กอ.รมน.จ.ประจวบคีรีขันธ์ ภายหลังสืบทราบว่าจะมีการลักลอบข้ามแดนของแรงงานชาวเมียนมาร์ เจ้าหน้าที่จึงจัดชุดลาดตระเวนกระจายไปยังจุดต่าง ๆทั่วบริเวณแนวเทือกเขาตะนาวศรี รอยต่อชายแดนไทย-เมียนมาร์ ที่หมู่ 9 บ้านมะขามโพรง ต.เกาะหลัก อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จ.ประจวบคีรีขันธ์
ข่าวน่าสนใจ:
โดยเจ้าหน้าที่ใช้เวลากว่าชั่วโมงตรวจสอบจุดต้องสงสัยต่างๆ ยังไม่พบ กระทั่งได้ยินเสียงคนกระแอมอยู่ในพุ่มไม้รกครึ้ม จึงนำกำลังเข้าค้น ปรากฏว่ามีชาวเมียนมาร์หลบซ่อนอยู่จำนวนมาก จึงได้นำตัวออกมาในที่โล่ง นับได้จำนวนทั้งสิ้น 344 คน เป็นชาย 196 คน หญิง 148 คน บางรายพูดภาษาไทยได้เพราะเคยทำงานในโรงงานมาก่อน สอบถามผ่านล่ามชาวพม่า ทราบว่า แรงงานชาวเมียนมาร์เดินทางมาจาก จังหวัดมะกุย จ.มันดาเลย์ และ จ.เมาะลำไย พักคอยที่บ้านมูด่อง ฝั่งเมียนมาร์ ห่างจากชายแดนไทยช่องสิงขรประมาณ 3 กิโลเมต
จากนั้นพากันเดินข้ามแดนตามช่องทางธรรมชาติ มารวมตัวแอบตามพุ่มไม้เพื่อหลบตาเจ้าหน้าที่ ก่อนรอให้นายหน้านำรถมารับยังจุดนัดหมาย ก่อนพาไปส่งที่มหาชัย จ.สมุทรสาคร โดยเสียค่าใช้จ่ายคนละ 20,000 – 25,000 บาท เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงให้ล่ามแปลเป็นภาษาพม่า ชี้แจงให้เข้าใจว่าการลักลอบข้ามแดนมายังประเทศไทยนั้นผิดกฏหมาย พร้อมทั้งประชาสัมพันธ์ให้เข้ามายังช่องทางที่ถูกต้องตามกฎหมาย จากนั้นจึงดำเนินการส่งกลับผู้หลบหนีเข้าเมืองกลับประเทศผ่านช่องทางธรรมชาติต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: