ผู้ว่าฯประจวบคีรีขันธ์ พร้อมหน่วยงานเกี่ยวข้องลงพื้นที่สำรวจความพร้อมจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร หวังฟื้นฟูเศรษฐกิจการค้า-การท่องเที่ยว ไทย-เมียนมา หวังสร้างมูลค่านำเข้า-ส่งออกไม่ต่ำกว่า 1 พันล้าน หลังเจอโควิด-19 ซบเซาไปนานกว่า 2 ปี ส่วนสมาคมส่งเสริมการค้าการลงทุนประจวบ-มะริด ขานรับพร้อมอยากให้รัฐบาลพิจารณายกเป็น”ด่านถาวร” เพื่อส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว
(วันนี้ 29 เมษายน 2565 ) นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำรวจความพร้อมในการเปิดจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร หมู่ 6 ต.คลองวาฬ อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.อ.พงศ์พัฒน์ ห้องสินหลาก รอง ผบ.ฉก.จงอางศึก กองกำลังสุรสีห์ นายสินาทร โอ่เอี่ยม ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายธนนท์ พรรพีภาส นายอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตำรวจตรวจคนเข้าเมือง ศุลกากร ประมง สาธารณสุข ตชด.146 อบต.คลองวาฬฯลฯ
ตามที่คณะกรรมการศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับการร้องขอจากผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก และบริษัทนำเที่ยว ในการผ่อนปรนมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อโควิด ประกอบกับศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด – 19 (ศบค.) ส่วนกลาง มีแนวโน้มในการอนุญาตให้ด่านถาวรทั่วประเทศกลับมาเปิดด่านตามปกติภายใน 1 – 2 เดือนข้างหน้านี้
จากข้อมูลสถิติที่ผ่านมาในปี 2563 มูลค่าการนำเข้า-ส่งออก 1,600 ล้านบาท ขณะที่ปี 2564 มีการระบาดเชื้อโควิด มูลค่าการส่งออก 340 ล้านบาท ส่วนปี 2565 ตั้งแต่เดือนมกราคมถึงเดือนมีนาคมมูลค่ากว่า 300 บาท เฉลี่ยการส่งออกเดือนละ 100 ล้านบาท ซึ่งหากผ่อนคลายมาตรการเดินทางระหว่างประเทศ จะส่งผลนักท่องเที่ยวทั้งสองประเทศเดินทางไปมากันมากขึ้น สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจสูงไม่แพ้การส่งออกสินค้า
นายเสถียร เจริญเหรียญ ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า การลงพื้นที่ จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขรในครั้งนี้เพื่อเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดด่านหากมีการประกาศให้โรคโควิด 19 เป็นโรคประจำถิ่น หลังจากที่ผ่านมาศูนย์สั่งการชายแดนไทยกับประเทศเพื่อนบ้านด้านเมียนมา ได้มีคำสั่งระงับการเดินทางเข้า-ออกด่านสิงขรชั่วคราวทั้งบุคคลและยานพาหนะเนื่องมาจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 แต่มีการผ่อนผันเฉพาะการขนถ่ายสินค้านำเข้าส่งออกเท่านั้น ซึ่งจากการลงพื้นที่มารับทราบรายงานการก่อสร้างอาคารด่านพรมแดนสิงขร พบว่าได้มีการส่งมอบงานงวดสุดท้ายจากผู้รับจ้างแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างขั้นตอนที่กรมโยธาธิการและผังเมือง ดำเนินการส่งมอบอาคารให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับผิดชอบดูแล ซึ่งอาคารแห่งนี้จะรองรับการตรวจสอบบุคคลและสินค้านำเข้าส่งออกผ่านจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร โดยคาดว่าเมื่อเปิดด่านแล้วจะทำให้เศรษฐกิจการค้าชายแดนกลับมาเติบโตมากขึ้น หลังจากก่อนหน้าที่จะมีสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด 19 เคยมีมูลค่าการนำเข้าส่งออกสินค้าผ่านด่านสิงขรนับพันล้านบาท
อย่างไรก็ตามด้านสมาคมส่งเสริมพัฒนากรค้าการลงทุนประจวบ-มะริด ได้มีการประชุม โดยมีคณะกรรมการฝ่ายต่างๆเข้าร่วมประชุม โดยมีนายวีระ ศรีวัฒนตระกูล นายกสมาคมส่งเสริมการค้าการลงทุน ประจวบ-มะริด เข้าร่วมประชุม โดยทางสมาคมฯมีการติดตามสถานการณ์ของทั้งฝั่งไทยและฝั่งเมียนมา เป็นระยะเรื่อยมา หลังทราบว่ารัฐบาลจะมีการอนุญาตให้ด่านถาวรทั่วประเทศ กลับมาเปิดอีกครั้งในช่วงเดือนกรกฏาคม หากไม่มีปัญหาอุปสรรคในเรื่องของสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งต้องยอมรับว่าผู้ประกอบการค้าทั้งในเรื่องการขนส่งสินค้า และการท่องเที่ยวของทั้งประจวบฯ และมะริด ต่างก็อยากให้จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร แห่งนี้กลับมาเปิดอีกครั้ง เพราะจะส่งผลดีต่อการค้าชายแดน และการท่องเที่ยว อีกทั้งก็จะทำให้ตลาดการค้าสิงขร ที่วันนี้ผู้ประกอบการหยุดไปกว่า 2 ปี ได้มีโอกาสกลับมาเปิดขายสินค้ากันอีกครั้ง อย่างไรก็ตามทุกอย่างจะกลับมาเหมือนเดิม ก็ต้องอาศัยระยะเวลา สิ่งสำคัญอยากให้รัฐบาลพิจารณายกระดับด่านการค้าแห่งนี้แห่งนี้เป็น “ด่านถาวร” ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: