ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ลงพื้นที่ติดตามความคืบหน้า คดีคนร้ายไม่ทราบจำนวนก่อเหตุ ยิงแรงงานเมียนมาที่หลบหนีเข้าเมืองเสียชีวิต บาดเจ็บ 3 ราย เบื้องต้นทราบตัวแล้วรอรวบรวมหลักฐานเพิ่มเติมเตรียมออกหมายจับ
วันนี้ ( 7 พฤษภาคม 2565 ) เวลา 16.30 น. ที่ห้องประชุม สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 เป็นประธานในการประชุมเร่งรัดติดตามความคืบหน้าคดีอุกฉกรรจ์ สะเทือนขวัญ กรณี เหตุคนร้ายก่อเหตุยิงชาวต่างด้าวเมียนมาเสียชีวิตท้ายรถยนต์กระบะ โดยมี พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรม ผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย รอง.ผบก.ภ.จว. ผกก.สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน หัวหน้าชุดสืบสวนและชุดสอบสวนภูธรจังหวัด เนื่องจากเป็นคดีอุจฉกรรจ์ที่ได้รับความสนใจและเกิดขึ้นกับแรงงานชาวเมียนมา ซึ่งอาจส่งผลต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ให้ความสำคัญให้เร่งรัดติดตามจับกุมคนร้ายมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 กล่าวว่า สำหรับคดีนี้ พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร. พล.ต.อ.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รอง ผบ.ตร. ให้ความสนใจ และได้สั่งการให้ตำรวจภูธรภาค 7 และตำรวจภูธรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เร่งรัดติดตามสืบสวนจับกุมผู้ก่อเหตุคดีนี้ การหลบหนีเข้าเมืองเป็นความผิดตามกฎหมาย และมีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากการถูกยิง จึงต้องเร่งรัดติดตามนำความจริงให้กระจ่าง เร่งให้ฝ่ายสืบสวนสอบสวน ความคืบหน้าคดีแคบลงไปมาก ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจตัวคนร้ายแล้ว แต่ขอรวบรวมหลักฐานให้รัดกุมเพื่อให้พนักงานสอบสวนทำรายงานสอบสวนเพื่อขอศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกหมายจับต่อไป
ในเบื้องต้นการสืบสวนได้มีการขยายผลว่ากระบวนขนแรงงานเถื่อนมาจากช่องทางใด และเป็นการค้ามนุษย์หรือไม่ รวมถึงการตรวจสอบเส้นทางการเงินของกระบวนการค้าแรงงานเถื่อน พร้อมทั้งให้ร่วมการบูรณการทำงานระหว่าง ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ขณะที่ประเทศไทยเริ่มเปิดประเทศ และรัฐบาลเปิดโอกาสให้ขึ้นทะเบียนแรงงานต่างด้าว
ยืนยันว่าใช้เวลาไม่นาน เพื่อขยายผลการจับกุม แต่รายละเอียดต่างๆ ขอยังไม่เปิดเผย แต่อยู่ในสำนวนสอบสวน ซึ่งรู้ตัวผู้ก่อเหตุแล้ว และฝากเตือนผู้ก่อเหตุ อย่าพยามหลบหนี ตำรวจทำงานอย่างตรงไปตรงมา ให้สังคมปราศจากข้อสงสัย และให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่าย
ผู้สื่อข่าวสอบถาม ผบช.ภ.7 ว่า จะมีการกระทบกระทั่งของการทำงานระหว่างหน่วยงาน ตำรวจกับฝ่ายปกครองหรือไม่ ผบช.ภ.7 กล่าวว่า หากผู้กระทำผิดสังกัดหน่วยงานใด เป็นเรื่องของบุคคล ไม่ใช่หน่วยงาน ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใด หรือผู้นำท้องถิ่น มีการทำงานประสานอย่างต่อเนื่อง ไม่ใช้ปัญหาเรื่องขององค์กร แต่เป็นเรื่องบุคคล ซึ่งต้องแยกแยะ
พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 7 กล่าวว่าสำหรับการพกพาอาวุธปืนของ ชรบ. ต้องมีใบอนุญาตมีและใบอนุญาตพกพา ได้ประสานทางผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ หากมีอาวุธปืนที่ถูกต้องตามกฎหมายแต่ไปก่อเหตุผิดกฎหมาย จะขอให้นายทะเบียนเพิกถอนใบอนุญาตทุกราย ซึ่งเป็นนโยบายของตำรวจภูธรภาค 7 ในส่วนของการพกอาวุธปืนขณะปฏิบัติหน้าที่ เป็นการอนุญาตของอำเภอ ในพื้นที่ ตำบล ตามพื้นที่ที่ทำงาน ว่ามีการแต่งตั้งถูกต้องหรือไม่ ใครเป็นผู้อนุญาต ซึ่งเป็นอำนาจของฝ่ายปกครอง ตาม พ.ร.บ.ส่วนท้องถิ่น พกพาในขณะปฏิบัติหน้าที่ แต่ไม่สามารถพกออกนอกพื้นที่ได้ เช่นเดียวกับตำรวจ
โดยมีรายงานด้วยว่าขณะนี้สถานทูตเมียนมาประจำประเทศไทย รับทราบกรณีที่แรงงานเมียนมา ได้ลักลอบหลบหนีเข้าเมืองผ่านช่องทางธรรมชาติ ชายแดนไทย เมียนมา ด้านอกเอเมืองประจวบคีรีขันธ์ และมาถูกยิงเสียชีวิต 1 รายและและบาดเจ็บ 3 รายแล้ว
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: