สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับกลุ่มอนุรักษ์ป่าพรุแม่รำพึง และเครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน จัดงานวันพื้นที่ชุมน้ำโลก “ป่าพรุแม่รำพึง” กระตุ้นให้ประชาชนตระหนักรู้ การอนุรักษ์ และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ชุ่มน้ำอย่างยั่งยืน เสริมสร้างพัฒนาองค์ความรู้ชุมชนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบูรณาการแผนการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแบบมีส่วนร่วมอีกทั้งเป็นการอนุรักษ์ระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำที่ยังเหลืออยู่และสามารถใช้เป็นแหล่งน้ำ แหล่งอาหารและสมุนไพรสำหรับบ้านเรือน อุตสาหกรรม และการเกษตร
(วันที่ 2 กุมภาพันธ์ 2566) ที่ศาลาป่าพรุแม่รำพึง ตำบลแม่รำพึง อำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับ กลุ่มอนุรักษ์ป่าพรุแม่รำพึง,เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน ,กลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อการพัฒนาป่าพรุแม่รำพึงบางสะพานอย่างยั่งยืน ตลอดจนหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน สถานการณ์ศึกษา ร่วมกันจัดงานวันพื้นที่ชุ่มน้ำโลก ประจำปี 2566 ซึ่งตรงกับวันที่ 2 ของทุกปี มีนายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานเปิดงาน วันพื้นที่ชุ่มน้ำโลกในปีนี้ที่ ป่าพรุแม่รำพึง เพื่อกระตุ้นให้ประชาชนเยาวชน ได้ตระหนักรู้ การอนุรักษ์ และการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติในพื้นที่ชุ่มน้ำอย่างยั่งยืน เสริมสร้างพัฒนาองค์ความรู้ชุมชนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการบูรณาการแผนการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแบบมีส่วนร่วมอีกทั้งเป็นการอนุรักษ์ระบบนิเวศพื้นที่ชุ่มน้ำที่ยังเหลืออยู่และสามารถใช้เป็นแหล่งน้ำ แหล่งอาหารและสมุนไพรสำหรับบ้านเรือน อุตสาหกรรม และการเกษตร
ข่าวน่าสนใจ:
นายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า ป่าพรุแม่รำพึง เป็นพื้นที่ชุ่มน้ำเพียงแห่งเดียวในอำเภอบางสะพาน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้รับการประกาศเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำ ทีมีความสำคัญระดับชาติ ด้วยความเป็นตัวแทนหรือมีเอกลักษณ์เฉพาะเป็นพื้นที่พรุชายฝั่งที่ระบบน้ำได้รับอิทธิพลจากทะเล จึงมีระบบน้ำกร่อยและน้ำจืดที่มีบทบาทสูงการเก็บกักน้ำฝนและน้ำท่ารวมทั้งการป้องกันน้ำเค็มรุกเข้าแผ่นดิน สังคมพืชป่าพรุที่วนอุทยานแม่รำพึง เกิดในพื้นที่ใกล้ชายฝั่งในบริเวณที่ลึกเข้ามาจากป่าชายเลน สภาพพื้นที่เป็นที่ลุ่มต่ำใกล้เคียงกับระดับน้ำทะเลปานกลาง สภาพดินเป็นดินเลนและเค็มสังคมพืชตามธรรมชาติที่ปรากฏให้เห็นมีความสำคัญคล้ายคลึงกับป่าพรุแถบจังหวัดนครศรีธรรมราช โดยโครงสร้างป่าส่วนใหญ่ประกอบด้วยเสม็ดขาว เป็นไม้เด่น
ในปีนี้มีการจัดเวทีเสวนา”เรื่องการมีส่วนร่วมในการดูแลรักษาป่าพรุแม่รำพึงเพื่อสร้างความมั่นคงทางแหล่งอาหาร” โดยมีนายวิฑรูย์ บัวโรย ประธานกลุ่มอนุรักษ์ป่าพรุแม่รำพึง ,นายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผู้อำนวยการสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,สำนักงานทรัพยากรน้ำภาค 7 ,เครือข่ายอาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้านกลุ่มวิสาหกิจชุมชนเพื่อการพัฒนาป่าพรุแม่รำพึงบางสะพานอย่างยั่งยืน ,ศูนย์ส่งเสริมเทคโนโลยีการเกษตรด้านแมลง ,อุตสาหกรรมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องฯลฯ ได้ร่วมพูดคุยถึงการอนุรักษ์ป่าพรุแม่รำพึง ที่ผ่านมาถึง 14 ปีเต็ม ซึ่งมีความหลากหลายทางระบบนิเวศ มีทั้งพันธุ์ไม้ ทั้งต้นเสม็ดขาวเป็นพืชเด่นซึ่งอยู่ชั้นนอก ส่วนตรงกางเป็นป่าโกงกาง และอีกส่วนเป็นต้นกระจูด ต้นจาก และพันธุ์ไม้อีกจำนวนมาก โดยมีหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต. และสถานการศึกษาร่วมกิจกรรม
ในอนาคตจะมีการวางแผนบูรณาการร่วมกันจัดทำให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงอนุรักษ์ มีเส้นทางเดินศึกษาธรรมชาติ มีหอดูนกและจุดชมวิว ซึ่งจะเป็นแหล่งเรียนรู้ของสถานการณ์ศึกษาต่อไป ตลอดจนจะทำให้ชาวบ้านในชุมชนและกลุ่มวิสาหกิจชุมชนป่าพรุแม่รำพึง มีรายได้จากการเลี้ยงผึ้งสร้างรายได้สู่ครัวเรือน ทำผลิตภัณฑ์ซึ่งใช้วัตถุดิบจากป่าพรุแม่รำพึง ทั้งการสกัดน้ำมันหอมระเหยจากใบของต้นเสม็ดขาว การนำใบจากมาทำขนม รวมทั้งผลผลิตลูกจาก แต่ทั้งหมดต้องมีการเขียนแผนและนำไปสู่การตัดสินใจของคณะกรรมการพื้นที่ชุ่มน้ำของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งมีหลายภาคส่วน
โดยในปัจจุบันพื้นที่ชุ่มน้ำต่างๆเดิมมีสำนักงานนโยบายและแผนสิ่งแวดล้อมรับผิดชอบ ปัจจุบันได้มีการถ่ายโอนให้กรมทรัพยากรน้ำรับผิดชอบแล้วในปัจจุบัน ซึ่งป่าพรุแม่รำพึง คณะรัฐมนตรีเห็นชอบตามมติคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติประกาศขึ้นทะเบียนป่าพรุแม่รำพึงเป็นพื้นที่ชุ่มน้ำที่มีความสำคัญระดับประเทศเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน พ.ศ.2553 มีเนื้อที่ประมาณ 1,870 ไร่มีพรรณไม้ทั้งหมด 194 ชนิด พบสัตว์ป่า 65 ชนิด ปลา 29 ชนิด
อย่างไรก็ตามนายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผู้อำนวยการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าขณะนี้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดทำแผนส่วนหนึ่งให้พื้นที่ชุ่มน้ำป่าพรุแม่รำพึงเป็นป่าครอบครัวเป็นศูนย์อนุรักษ์และเรียนรู้ต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างดำเนินการคาดจะเสร็จมิถุนายน นี้
นอกจากการเสวนาแล้วยังจัดกิจกรรมให้เยาวชนจากสถานศึกษา 3 แห่งในพื้นที่ใกล้ป้าพรุแม่รำพึง มาร่วมกิจกรรมและร่วมกันระบายสีลงทั้งในแผ่นกระดาษ ตลอดจนบริเวณโอ่งใส่น้ำในป่าพรุแม่รำพึง โดยเยาชนที่เข้าร่วมวาภาพระบายสีได้แสดงความคิดผ่านปลายพู่กันให้เห็นถึงความหลายหลายของ พื้นที่ป่าพรุแม่รำพึงทั้งต้นไม้ พืชและสัตว์น้ำต่างๆ โดยเยาชนสถานการณ์ศึกษาต่างๆ อยากเห็นการพัฒนา การดูแลและอนุรักษ์พื้นที่ป่าพรุแม่รำพึง เพื่อให้ป่าพรุแม่รำพึงเป็นผืนป่าที่มีความสำคัญทางระบบนิเวศที่สำคัญอีกแห่งของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ต่อไป
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: