X

ช้างป่าละอูพังร้านทุบตู้เย็นกินก๋วยเตี๋ยว-น้ำตาล ก่อนหนีลอยนวล

ประจวบคีรีขันธ์-ช้างป่าละอูบุกพังฝาผนังร้านอาหารริมทาง ทุบตู้เย็น กินเส้นก๋วยเตี๋ยว 10 ก.ก. พร้อมล้วงกินน้ำตาลปี๊ปในโหลจนเกลี้ยง กระทืบหม้อตำยำโป๊ะแตกเละก่อนหนีเข้าป่าลอยนวล หลังก่อนหน้านี้เคยบุกเข้ามากินมะขามเปียกถึง16 ก.ก. 

(6 ธ.ค.) เจ้าหน้าที่อุทยานหน่วยพิทักษ์เขาหุบเต่า ชุดเฝ้าและไล้ช้างป่า อุทยานแห่งชาติแก่งกระจานได้รับแจ้งจากนางนงเยาว์. แก้วสุกใส อายุ 48 เจ้าของร้านอาหารครัวกันเอง ตั้งอยู่ริมถนนตรงข้ามกับสวนป่าละอูรีสอร์ท อยู่บ้านเลขที่ 157 หมู่ 1 บ้านเฉลิมเกียรติพัฒนา ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์  เจ้าของร้านอาหารครัวกันเอง ตั้งอยู่ริมถนนทางเข้าบ้านป่าละอู โครงการสหกรณ์ห้วยสัตว์ใหญ่ป่าละอู –หนองพลับ  ตามพระราชดำริหมู่ 1 ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ว่ามีช้างป่าเข้ามาพังกำแพงร้านอาหารช่วงเช้ามืดที่ผ่านมามีข้าวของได้รับความเสียหายจึงเดินทางไปยังที่ร้านอาหารดังกล่าวพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าประเทศไทย (Wcs) พบสภาพข้าวของภายในร้านล้มตกกระจัดกระจายยู่ที่พื้นทั้งตู้เย็นขนาด 10  คิวตู้กระจกสำหรับใส่เครื่องปรุงส้มตำและอาหารต่างๆไข่ไก่ตกลงมาแตกรวมทั้งวัตถุดิบอาหารแห้งหม้อต้มยำต่างๆตกกระจายอยู่บริเวณพื้นในร้านเจ้าหน้าที่ได้ช่วยกันเก็บขึ้นรวมทั้งตู้เย็นนางนงเยาว์ แก้วสุกใส เจ้าของร้านอาหารกล่าวว่าช่วงใกล้เช้ามืดขณะนอนพักผ่อนอยู่ในบ้านพักด้านหลังร้านอาหาร ได้ยินเสียงของหล่นเสียงดังจึงได้เดินออกมาดูที่ร้านพบช้างป่าตัวขนาดใหญ่อยู่ด้านนอกกำแพงของร้านและได้พังฝาผนังข้างร้านและผนังอิฐบล็อกเป็นช่องโหว่ขนาดใหญ่ 2 จุด พร้อมหลังคากระเบื้องหน้าร้าน และใช้งวงควานหาข้าวของภายในร้านยกเอาถุงเส้นก๋วยเตี๋ยวน้ำหนักประมาณ10 กิโลกรัมที่วางไว้ข้าง  ตู้เย็นทั้ง ทั้งส้นใหญ่ เส้นเล็ก เส้นหมี่ เอาไปกินจนหมดรวมไปถึงน้ำตาลปี๊ปประมาณ 2กิโลกรัม   ซึ่งใส่ขวดโหลพลาสติกเอาไว้ก็กินจนเหลือนิดหน่อย รวมทั้งหม้อต้มยำก็เอาไปเหยียบจนบุบใช้การไม่ได้

ระหว่างที่นางนงเยาว์โทรแจ้งเจ้าหน้าที่แล้วขณะนั้นได้ใช้ไฟฉายส่องเข้าไปที่ช้างป่า ถึงแม้จะกลัวก็ตามเพียงชั่วครู่ช้างป่าก็เดินกลับออกไปส่วน ช้างที่มาทำความเสียหายครั้งนี้เจ้าของร้านอาหารยืนยันว่าไม่ใช้ บุญมีและบุญช่วย 2 ตัวที่ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานบอกว่าจะเคลื่อนย้ายออกไป ช้างตัวที่เข้ามาพังร้านตัวใหญ่ไม่เห็นงา  อย่างไรก็ตามร้านตนเองถูกช้างเข้ามาพังทรัพย์สินหลายครั้งแล้วแม้แต่มะขามเปียกก็เคยเอาไปกินถึง 16 กิโลกรัมครั้งนี้ยอมรับว้าไม่ใช้ครั้งแรก ซึ่งไม่แน่ใจเหมือนกันว่าช้างป่าที่ออกมาอาละวาดทำลายทรัพย์สิน เกิดจากเกิดความเครียดทั้งจากการไล่ของชาวบ้านที่เฝ้าสวนเฝ้าไล่ และเจ้าหน้าที่ไล่หรือไม่ พอเจ้าหน้าที่กลับก็พากันมาอาละวาด ซึ่งในวันนี้ก็เก็บข้าวของก็เปิดขายตามปกติแต่ยังรู้สึกเหนื่อยอยู่และยังตกใจเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

อย่างไรก็ตามนางน้ำเงิน สีสุกใส อายุ 50 ปี ชาวบ้านป่าละอู เมื่อทราบข่าวได้เดินทางมานั่งพูดคุยเป็นเพื่อนและสอบถามความเสียหาย พร้อมกล่าวยอมรับด้วยว่าปัญหาช้างป่าที่มาอาละวาดทั้งช้างที่เป็นโขลงย่อย 5-10 ตัว ก็ยังออกมาหากินอยู่ซึ่งในส่วนของคอกวัวของตนเองก็ได้รับความเสียหาย ก็ต้องดำเนินการใช้เงินส่วนตัวซ่อมแซมไป เพราะเจ้าหน้าที่บอกว่าให้ช่วยเหลือตัวเองด้วย ใครก็พูด”ช้างกับคนจะต้องอยู่ร่วมกัน”ไม่รู้จะอยู่กันยังไง

ส่วนช้างที่มาทำความเสียหายตามบ้านเรือนและทรัพย์สิน เป็นช้างป่าที่แยกโขลงออกมา ซึ่งครั้งนี้เจ้าของร้านหารยืนยันว่าไม่ใช้ บุญมีและบุญช่วย 2 ตัวที่ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจานบอกว่าจะเคลื่อนย้ายออกไป

หลังจากนั้น  นายมานะ เพิ่มพูล หัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน พร้อมเจ้าหน้าที่หน่วยพิทักษ์ป่าเขาหุบเต่า ชุดเฝ้าระวังและไล่ช้างป่า เจ้าหน้าที่สมาคมอนุรักษ์สัตว์ป่าประเทศไทย(WCS) จึงเดินทางมาตรวจสอบความเสียหาย ร่วมกับนางสุนันทา พิมพ์ไทย นายกองค์การบริหารส่วนตำบลห้วยสัตว์ใหญ่  โดยทางหัวหน้าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน กล่าวว่าจะช่วยเยียวยาด้วยการซ่อมแซมผังของร้านให้ในเบื้องต้น

เบื้องต้นเมื่อเดือนธันวาคมปีที่แล้ว ก็เกิดเหตุช้างป่าเข้ามาอาละวาดในโครงการสหกรณ์หมู่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ป่าละอู-หนองพลับ ตามพระราชดำริ ที่หมู่ 1 บ้านเฉลิมเกียรติพัฒนา กัดกินโค่นต้นทุเรียน  และทำลายรถยนต์เก๋งที่จอดอยู่ในโรงจอดรถหน้าบ้านพักได้รับความเสียหายมาแล้ว และครั้งนี้จุดเกิดเหตุอยู่ห่างจากจุดที่ช้างป่าทำลายรถยนต์ไม่ถึงร้อยเมตร

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน