เปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ป่าครอบครัวบ้านทุ่งพุฒิ พร้อมทำพิธีบวชป่า​ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ

เปิดเส้นทางศึกษาธรรมชาติ ป่าครอบครัวบ้านทุ่งพุฒิ พร้อมทำพิธีบวชป่า​ ส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม

(วันที่ 19 กรกฏาคม 2566 เวลา ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีเปิด “กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ” ภายใต้โครงการส่งเสริมการยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมย่อย ป่าครอบครัว สืบสานปณิธานพ่อ สานต่อเศรษฐกิจพอเพียง ณ ป่าครอบครัวบ้านทุ่งพุฒิ​ ณ​วัดทุ่งพุฒิ​ต.อ่างทอว อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ โดยมีนายสมเจตน์​ เจริญทรง​นายอำเภอทับสะแก นายนิทัศน์​ จันทร์ทองผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ปลัดอำเภอทับสะแก พลัฃานจังหวัดประจวบฯ​ กำนันตำบลอ่างทอง​ ผู้ใหญ่บ้านทุ่งพุฒิ​ ผู้ใหญ่บ้านโคกตาหอม​ นายก อบต.อ่างทอง นายอมรเทพ​ อ่วมมีเพียร​ ผจก.ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ​หัวหิน​ นายกิตติพงษ์​ สิริเพชรเกษม​ประธานกลุ่มเราเพื่อนกัน​ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการ อบต.อ่างทอง เจ้าหน้าที่อช.น้ำตกห้วยยาง​ ตชด. ครู​ นักเรียนโรงเรียนบ้านวังยางคณะสงฆ์วัดทุ่งพุฒิ​ วัดวังยาง​และวัดอ่างทอง​ ตลอดจนหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน เครือข่ายป่าครอบครัว และป่าชุมชน เครือข่ายทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และชาวบ้านทุ่งพุฒิ ร่วมกิจกรรมในวันนี้ โดยรองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯนำส่วนราชการ ร่วมปลูกต้นยางนา ต้นพะยูง​ มะฮฮกกานี ลงในพื้นที่ป่าครอบครัว และร่วมกันบวชป่า​ เดินชมเส้นทางศึกษาธรรมชาติ​ ชมพันธุ์ไม้​พืชสมุนไพร​และชมดอกพุดป่า​ เสร็จแล้วร่วมเยี่ยมชมบูธและเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ป่าครอบครัว และของดีต่างๆ ที่นำมาวางจำหน่ายภายในงาน

ด้วยจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีพื้นที่ 4,008,477.58 ไร่ ในอดีตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ คิดเป็นพื้นที่ป่าร้อยละ 42.62 ของพื้นที่จังหวัด ในปี 2565 พบว่าจังหวัดมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ลดลง เหลือร้อยละ 38.76 ของพื้นที่จังหวัด ในการนี้ จังหวัดต้องการขับเคลื่อนตามนโยบายการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ร้อยละ 40 ของพื้นที่จังหวัด ด้วยแนวทางเพิ่มพื้นที่ป่านอกเขตป่าอนุรักษ์ คิดเป็นร้อยละ 1.24 ของพื้นที่จังหวัด คิดเป็นเนื้อที่ป่านอกเขตป่าอนุรักษ์ จำนวน 48,101.73 ไร่ โดยคำนวณอัตราการปลูกต้นไม้ 100 ต้นต่อไร่ จะต้องมีการปลูกต้นไม้เพิ่ม จำนวน 4,810,173 ต้น จากการเก็บสถิติการปลูกต้นไม้ โครงการรวมใจไทย ปลูกต้นไม้ เพื่อแผ่นดิน (forest.go.th) ณ วันที่ 19 กรกฎาคม 2566 พบว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดที่มีการปลูกต้นไม้มากที่สุดลำดับที่ 41 ของประเทศ มีจำนวนผู้ลงทะเบียนปลูก จำนวน 3,457 ท่าน จำนวน 979,895 ต้น

ว่าที่พันตรี อดิศักดิ์ น้อยสุวรรณ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวอีกว่าการจัดกิจกรรมในวันนี้ เป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนให้เห็นถึงความสำคัญของการอนุรักษ์และฟื้นฟูทรัพยากรป่าไม้ของชาติ เป็นการปลูกต้นไม้ในใจคน ด้วยแนวคิดการปลูกป่านอกป่า หรือการยกป่ามาไว้ในบ้าน หรือที่เรียกว่า “ป่าครอบครัว” ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางสังคมเพื่อชีวิตและความหลากหลายทางชีวภาพเป็นเรื่องใหม่ที่อยู่บนฐานคิดที่ว่า ครอบครัวเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม และมีบทบาทสำคัญที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม

ด้านนายนิทัศน์​ จันทร์ทอง ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติ สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าเพื่อประชาสัมพันธ์ศูนย์เรียนรู้ป่าครอบครัวในการใช้ประโยชน์และอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ตลอดจนเป็นการส่งเสริมสนับสนุนการท่องเที่ยวเชิงระบบนิเวศ จัดให้มีการร่วมปลูกต้นยางยา เพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน บริเวณป่าครอบครัวบ้านทุ่งพุฒิ ตลอดจนการเรียนรู้อยู่ร่วมกับป่าชุมชนอย่างยั่งยืน​ เยี่ยมชมพื้นที่แสดงและจำหน่ายสินค้าและบริการจากเครือข่ายป่าชุมชน เครือข่ายป่าครอบครัว เครือข่าย ทสม. หรือเครือข่ายที่เกี่ยวข้อง ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม

พร้อมขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างป่าครอบครัว และร่วมลงทะเบียนบันทึกการปลูกต้นไม้ ในโครงการรวมใจไทย ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน ผ่านเวปไซต์ plant.forest.go.th เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปลูกต้นไม้ จำนวน 4,810,173 ต้น ตามนโยบายการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ร้อยละ 40 ของพื้นที่จังหวัดต่อไป ซึ่งสามารถขอรับกล้าไม้ได้จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์