สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดตั้งป่าครอบครัว กม.5 พร้อมเดินหน้าให้คณะกรรมการป่าชุมชน ประสานกับองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวน้อย ดำเนินการขอขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานประเทศไทย เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือน กระจกในประเทศโดยความสมัครใจ
( วันนี้ 23 สิงหาคม 2566) ณ ศาลาหมู่บ้าน กม. 5 ตำบลอ่าวน้อย อำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีเปิด “กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน” ภายใต้โครงการส่งเสริมการยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมย่อย ป่าครอบครัว สืบสานปณิธานพ่อ สานต่อเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมด้วยนายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผอ.ทสจ.ประจวบฯ พ.ต.อ.สถิตย์ คงเนียม ผกก.สภ.อ่าวน้อย นายวัชรินทร์ จันทร์เดชประธานเครือข่าย พลังงานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ทสม.ประจวบฯ เจ้าหน้าที่ ทสจ. เจ้าหน้าที่ ทกจ.ประจวบฯ ปลัดอำเภอเมืองประจวบฯ ปชส.ประจวบฯ อบต.อ่าวน้อย นายอาภรณ์ ศรวัฒนา ผู้ใหญ่บ้าน กม. 5 พร้อมด้วยชาวบ้าน เครือข่ายป่าครอบครัว เครือข่ายทสม. และป่าชุมชน เข้าร่วมพิธีเปิด โดยมีการปลูกต้นไม้ ส่งมอบพันธุ์กล้าไม้ 9,500 ต้น เตาทำถ่านกัมมันต์ และถังกรีนโคนให้กับชุมชน กม.5 รวมทั้งการจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากป่าครอบครัว โดยชาวบ้านให้ความสนใจเข้ารับพันธุ์กล้าไม้ไปปลูกเป็นจำนวนมาก
นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีพื้นที่ 4,008,477.58 ไร่ ในอดีตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ คิดเป็นพื้นที่ป่าร้อยละ 42.62 ของพื้นที่จังหวัด ในปี 2565 พบว่าจังหวัดมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ลดลง เหลือร้อยละ 38.76 ของพื้นที่จังหวัด ในการนี้ จังหวัดต้องการขับเคลื่อนตามนโยบายการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ร้อยละ 40 ของพื้นที่จังหวัด ด้วยแนวทางเพิ่มพื้นที่ป่านอกเขตป่าอนุรักษ์ จากการเก็บสถิติการปลูกต้นไม้ “โครงการรวมใจไทย ปลูกต้นไม้ เพื่อแผ่นดิน” (forest.go.th) ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2566 พบว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดที่มีการปลูกต้นไม้มากที่สุดลำดับที่ 41 ของประเทศ มีจำนวนผู้ลงทะเบียนปลูก จำนวน 3,474 ท่าน จำนวน 981,096
สำหรับหมู่บ้าน กม. 5 เป็น 1 ใน 16 หมู่บ้าน ในเขตพื้นที่รับผิดชอบขององค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวน้อย มีประชากรประมาณ 521 ครัวเรือน จำนวน 1,553 คน โดยมีการจัดตั้งพื้นที่ป่าชุมชน บ้านกม. 5 เนื้อที่ 313 ไร่
ดังนั้นการจัดกิจกรรมในวันนี้ จึงเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดการป่าชุมชนและการจัดการป่าในระดับครอบครัว เป็นการปลูกต้นไม้ในใจคน ด้วยแนวคิดการปลูกป่านอกป่า หรือการยกป่ามาไว้ในบ้าน หรือที่เรียกว่า “ป่าครอบครัว” ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางสังคมเพื่อชีวิตและความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นเรื่องใหม่ที่อยู่บนฐานคิดที่ว่า “ครอบครัวเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม และมีบทบาทสำคัญที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ”
ด้านนายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผอ.ทสจ.ประจวบฯ กล่าวว่า สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ร่วมกับสำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) : สทอภ. พบว่า ในพื้นที่ป่าชุมชนบ้าน กม. 5 เป็นประเภทป่าเต็งรัง และป่าเบญจพรรณ มีปริมาณการกักเก็บคาร์บอน คิดเป็น 206.51 ตันคาร์บอนไดออกไซด์หรือเทียบเท่า จึงขอให้คณะกรรมการป่าชุมชนบ้านกม. 5 ประสานกับองค์การบริหารส่วนตำบลอ่าวน้อย และสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ดำเนินการขอขึ้นทะเบียนโครงการลดก๊าซเรือนกระจกภาคสมัครใจตามมาตรฐานประเทศไทย (Thailand Voluntary Emission Reduction Program : T-VER) เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้ทุกภาคส่วน มีส่วนร่วมในการลดก๊าซเรือน กระจกในประเทศโดยความสมัครใจ เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีในการสร้างนวัตกรรมและองค์ความรู้ในการจัดการป่าในระดับครอบครัว และระดับชุมชนอย่างยั่งยืนอย่างเป็นรูปธรรมในพื้นที่จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ต่อไป จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมสร้างป่าครอบครัว และร่วมลงทะเบียนบันทึกการปลูกต้นไม้ ในโครงการรวมใจไทย ปลูกต้นไม้ให้แผ่นดิน ผ่านเวปไซต์ plant.forest.go.th เพื่อให้บรรลุเป้าหมายการปลูกต้นไม้ จำนวน 4,810,173 ต้น (สี่ล้านแปดแสนหนึ่งหมื่นหนึ่งร้อยเจ็ดสิบสามต้น) ตามนโยบายการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ร้อยละ 40 ของพื้นที่จังหวัดต่อไป ซึ่งสามารถขอรับกล้าไม้ได้จากสำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์
