สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดตั้งป่าครอบครัว บ้านหนองไม้แก่น อำเภอเมืองประจวบฯชูลานกางเต้นท์ ชมดาวเหนือเมืองสามอ่าว
( วันนี้ 24 สิงหาคม 2566) ณ ลานชมดาว บ้านหนองไม้แก่น หมู่ 7 ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นประธานในพิธีเปิด “กิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวเชิงนิเวศ เพิ่มพื้นที่สีเขียวในชุมชน” ภายใต้โครงการส่งเสริมการยกระดับการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กิจกรรมย่อย ป่าครอบครัว สืบสานปณิธานพ่อ สานต่อเศรษฐกิจพอเพียง พร้อมด้วยนายนิทัศน์ จันทร์ทอง ผอ.ทสจ.ประจวบฯ เจ้าหน้าที่ ทสจ. นายมานพ ครุฑเผือก กำนันตำบลเกาะหลัก ปลัดอบต.เกาะหลัก จนท.อบต.เกาะหลัก พร้อมด้วยชาวบ้าน เครือข่ายป่าครอบครัว เครือข่ายทสม. และป่าชุมชน เข้าร่วมพิธีเปิด โดยมีการปลูกต้นไม้ ส่งมอบพันธุ์กล้าไม้ 9,500 ต้น และการจัดแสดงจำหน่ายผลิตภัณฑ์จากป่าครอบครัว
นายองครักษ์ ทองนิรมล รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีพื้นที่ 4,008,477.58 ไร่ ในอดีตจังหวัดประจวบคีรีขันธ์มีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ คิดเป็นพื้นที่ป่าร้อยละ 42.62 ของพื้นที่จังหวัด ในปี 2565 พบว่าจังหวัดมีพื้นที่ป่าอนุรักษ์ลดลง เหลือร้อยละ 38.76 ของพื้นที่จังหวัด ในการนี้ จังหวัดต้องการขับเคลื่อนตามนโยบายการเพิ่มพื้นที่ป่าให้ได้ร้อยละ 40 ของพื้นที่จังหวัด ด้วยแนวทางเพิ่มพื้นที่ป่านอกเขตป่าอนุรักษ์ จากการเก็บสถิติการปลูกต้นไม้ “โครงการรวมใจไทย ปลูกต้นไม้ เพื่อแผ่นดิน” (forest.go.th) ณ วันที่ 20 สิงหาคม 2566 พบว่าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นจังหวัดที่มีการปลูกต้นไม้มากที่สุดลำดับที่ 41 ของประเทศ มีจำนวนผู้ลงทะเบียนปลูก จำนวน 3,474 ท่าน จำนวน 981,096 ต้น
การจัดกิจกรรมในวันนี้ จึงเป็นการสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนให้เห็นถึงความสำคัญของการจัดการป่าชุมชนและการจัดการป่าในระดับครอบครัว เป็นการปลูกต้นไม้ในใจคน ด้วยแนวคิดการปลูกป่านอกป่า หรือการยกป่ามาไว้ในบ้าน หรือที่เรียกว่า “ป่าครอบครัว” ซึ่งเป็นนวัตกรรมทางสังคมเพื่อชีวิตและความหลากหลายทางชีวภาพ เป็นเรื่องใหม่ที่อยู่บนฐานคิดที่ว่า “ครอบครัวเป็นหน่วยที่เล็กที่สุดของสังคม และมีบทบาทสำคัญที่สุดต่อการเปลี่ยนแปลงต่อเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ”โดยป่าครอบครัวในพื้นที่อำเภอเมืองประจวบฯ มีป่าชุมชน8แห่งเนื้อที่ประมาณ1,318ไร่
โดยลานชมดาวเป็นลานกางเต้นท์ และเป็นจุดที่สามารถมองเห็นวิวทะเลประจวบฯ ชมพระอาทิตย์ขึ้นและตกที่สวยงาม ยิ่งยามค่ำคืนจะมองเห็นดาวระยิบระยับเต็มท้องฟ้า และแสงไฟในตัวเมืองประจวบฯ ลมพัดเย็นสบาย จึงน่าจะพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งต่อไปได้
