ไฟไหม้บ่อขยะเก่าหัวหิน ยังลุกไหม้ปะทุต่อเนื่องเป็นวันที่ 6 ล่าสุดผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ สั่งระดมเครื่องจักรและกำลังคนเข้าช่วย พร้อมประกาศให้ตำบลหัวหิน และตำบลทับใต้ เป็นพื้นที่ เขตพื้นที่ประสบสาธารณภัย ขณะที่ที่การดับไฟคืบหน้าไปร้อยละ 60 ของพื้นที่ พร้อมเร่งเยียวยาชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบ
จากเหตุการณ์ เกิดเพลิงไหม้บ่อขยะเก่า โซนเอ และโซนบี กินพื้นที่เป็นวงกว้างกว่า 27 ไร่ ในพื้นที่ตำบลทับใต้ อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเทศบาลเมืองหัวหิน และ องค์การบริหารส่วนตำบลทับใต้ ได้ระดมเจ้าหน้าที่ และรถดับเพลิง เข้าดับเพลิง แต่เนื่องจากมีซากขยะเก่าอายุมากกว่า 10 ปี ทับถมกันสูงกว่า 5 เมตร มีความร้อนสะสมอยู่ด้านในเป็นจำนวนมาก ทำให้การฉีดน้ำดับเพลิงเป็นไปได้ยาก เกิดการปะทุขึ้นอย่างเนื่อง และมีกลุ่มควันจากการเผาไหม้ขยะลอยขึ้นด้านบนกระจายไปตามทิศทางลม สร้างผลกระทบต่อประชาชน รอบบ่อขยะ และพื้นที่ใกล้เคียง ประชาชนสามารถได้กลิ่นควันทั้งในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน ตำบลทับใต้ และตำบลหินเหล็กไฟบางส่วน จนขณะนี้เข้าสู่วันที่ 6 แล้ว แต่เพลิงก็ยังไม่สงบลง
ล่าสุดวันนี้ (วันที่ 10 พฤษภาคม 2567 ) นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ไฟไหม้ พร้อมด้วย นายชัยธวัช ศิวบวร ผอ.ศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยปลัดจังหวัด นายอำเภอหัวหิน , นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นายก องค์การบริหารส่วนตำบลทับใต้ ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง พร้อมประชุมร่วมเพื่อปรับแนวทางการดับไฟ และวางมาตรการดูแลเยียวยาประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากควันไฟโดยเฉพาะชาวบ้านรอบบ่อขะยะ ได้แก่ หมู่บ้านวังกะทะ หนองพรานพุก และบ้านทับใต้
นายสมคิด จันทมฤก ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า จากการลงพื้นที่และรับฟังสรุปสถานการณ์พบว่าวันนี้ยังมีเปลวไฟปะทุขึ้นมาในหลายจุด เพราะยังมีความร้อนสะสม วันนี้ปรับแผนด้วยการระดมรถบรรทุกน้ำ 15 คัน จาก อปท. โรงเรียนนนายสิบทหารบก และรถแบคโฮ รถแทรกเตอร์ 5 คัน จากภาคเอกชน เข้ามาช่วยเปิดทางเข้าบ่อขยะให้สะดวกมากขึ้น จากนั้นจะรถแบคโฮคุ้ยกองขยะแต่ละจุด และรถดับเพลิงฉีดน้ำอัดเข้าไปดับความร้อนสะสม พร้อมกันนี้ทางศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 4 ยังได้นำเครื่องพ่นน้ำละอองละเอียดระยะไกล เข้ามาสนับสนุนและดำเนินการพ่นละอองน้ำบนพื้นที่สูงบนบ่อขยะอย่างต่อเนื่อง เพื่อชาวยลดปริมาณควันไฟ
จากการระดมเครื่องจักรและเจ้าหน้าที่เข้ามา ทำให้สถานการณ์คลลี่คลายได้อย่างรวดเร็ว ขณะนี้การดับเพลิงน่าจะคืบหน้าไปประมาณ 60% ของพื้นที่ทั้งหมด
จากการตรวจวัดคุณภาพอากาศ พบว่าพื้นที่รอบบ่อขยะประสบปัญหาควันไฟโดยตรงและมีความเป็นห่วงสุขภาพประชาชนเนื่องจากการเผาไหม้ที่เกิดขึ้นนี้ เป็นการเผาไหม้ที่ไม่สมบูรณ์ ทำให้เกิดก๊าซคาร์บอนมอนอกไซด์ (Carbon monoxide) และสารอินทรีย์ระเหยง่าย ซึ่งจะผลกระทบต่อระบบทางเดินหายใจ ซึ่งขณะนี้มีประชาชนรอบบ่อขยะจำนวน 3 หมู่บ้าน คือหมู่ 1,10 และ 13 ของตำบลทับใต้ได้รับผลกระทบจากควันไฟจัดทีมแพทย์ เข้าไปดูแล ทั้งนี้จะต้องมีการประเมินสถานการณ์วันต่อวัน
ขณะนี้ได้ประกาศให้พื้นที่ ตำบลทับใต้ และ ตำบลหัวหิน เป็นพื้นที่ประสบสาธารณภัย ไฟไหม้บ่อขยะ แล้วเพื่อให้องค์การปกครองส่วนท้องถิ่น สามารถใช้งบประมาณในการดำเนินการแก้ปัญหาได้ถูกต้องตามระเบียบ
ต่อมาผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้เดินทางไปยัง บ้านวังกระทะ หมู่ 10 ซึ่งอยู่ใต้บ่อขยะจุดที่ได้รับผลกระทบ ซึ่งมีประชาชนอยู่ 30 ครัวเรือน ประชากรทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ ประมาณ 70 คน พร้อมทั้งนำน้ำดื่มและหน้ากากอนามัยที่ป้องกันฝุ่นไปมอบให้ชาวบ้าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ โดยชาวบ้านหลายรายบอกเหมือนกันว่า มีอาการเจ็บคอ แสบคอ ไอ หายใจติดขัด แสบตา บางรายมีผื่นขึ้นตามตัว ซึ่งได้พบแพทย์และได้รับยามาแล้ว โดยเฉพาะช่วงกลางวัน จะมีควันไฟมาปกคลุมหมู่บ้าน ขึ้นอยู่กับกระแสลม หากเปลี่ยนทิศก็จะเบาหน่อย ซึ่งกลางวันก็ต้องออกมานั่งนอกบ้านเพราะนั่งในบ้านไม่ไหว ภายในบ้านก็มีกลิ่นควัน ซึ่งควันที่ลอยมาเป็นมาอย่างนี้ทุกวันหนักบ้างเบาบ้าง ก็เข้าใจว่าเจ้าหน้าที่กำลังดับไฟและแก้ปัญหากันอย่างเต็มที่ เบื้องต้นผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ได้กล่าวกับชาวบ้านในพื้นที่ว่าพยายามเร่งแก้ไขปัญหาไฟไหม้บ่อขยะเก่าให้เสร็จสิ้นโดยเร็ว
