ประจวบคีรีขันธ์ – ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน ยอมรับชายในคลิปเป็นตำรวจในสังกัด ล่าสุดได้เรียกตัวมาสอบถามข้อเท็จจริง และสั่งย้ายให้ปฏิบัติหน้าที่อื่นทันที พร้อมให้เขียนรายงานชี้แจง ตั้งคณะกรรมการพิจารณาข้อเท็จจริง หากพบว่ามีความผิดจะลงโทษทางวินัยอย่างเด็ดขาด
จากกรณีการแชร์ภาพในโลกโซเชี่ยล ระบุข้อความ หนุ่มใหญ่แต่งตัวคล้ายตำรวจ เมา มึน มืออยู่ไม่สุข จับนม แตะเอวสาว โดยผู้ใช้เฟซบุ๊กรายหนึ่งได้โพสต์คลิปวิดีโอความยาวประมาณ 3 นาที ผ่านแฟจเพจเฟซบุ๊ก โดยเขาระบุว่า ก่อนหน้านี้ พี่ตำรวจคนนี้ใส่ชุดธรรมดา และเมา ด่าทอนักดนตรี รวมถึงคนในงาน จนมีคนไม่พอใจและท้าทายเขา จนเขากลับเปลี่ยนชุดกลับมาในมาดตำรวจผู้น่าเกรงขาม เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือ อยากรู้ว่าแบบนี้ผิดไหม สภ.หัวหิน
ล่าสุดวันนี้ 9 มกราคม 61 ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปพบ พันตำรวจเอกสิทธิชัย ศรีโสภาเจริญรัตน์ ผู้กำกับการ สถานีตำรวจภูธรหัวหิน ที่ห้องทำงานชั้น 2 สถานีตำรวจภูธรหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เพื่อสอบถามถึงกรณีดังกล่าว โดยผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรหัวหิน กล่าวยอมรับว่า ชายในคลิปเป็นตำรวจในสังกัดสถานีตำรวจภูธรหัวหินจริง โดยเป็นตำรวจสายตรวจงานป้องกันปราบปราม โดยภายหลังจากทราบว่ามีการแชร์คลิปลงในโลกโซเชี่ยล ได้มีการเรียกประชุม รองผู้กำกับการป้องกันปราบปราม สารวัตรป้องกันปราบปราม พร้อมทั้งเรียกตัวตำรวจในคลิปมาสอบถามข้อเท็จจริง โดยดาบตำรวจรายนี้ ยอมรับว่าชายในคลิปเป็นตนเอง
โดยเหตุการณ์เกิดขึ้นเมื่อคืนวันที่ 8 มกราคม 61 ดาบตำรวจรายนี้ได้ไปรับประทานอาหารที่บ้านนางสาวกุ้ง (นามสมมติ) ซึ่งตั้งอยู่ในโครงการบ้านจัดสรรแห่งหนึ่งในหมู่บ้านเขาเต่า ตำบลหนองแก อำเภอหัวหิน โดยดาบตำรวจรายนี้รู้จักสนิทสนมกับครอบครัวของนางสาวกุ้ง เป็นเหมือนพี่ชายคนหนึ่ง จนกระทั่งเวลาประมาณ 4-5 ทุ่ม ตนได้กลับมาเปลี่ยนชุดใส่เครื่องแบบเพื่อไปปฏิบัติหน้าที่เข้าเวร ทีสถานีตำรวจภูธรหัวหินในช่วงเที่ยงคืน แต่ในระหว่างทางได้รับแจ้งเหตุทะเลาะวิวาทที่บ้านของนางสาวกุ้งกับกลุ่มนักดนตรี มีลำโพงได้รับความเสียหาย ตนจึงได้โทรศัพท์ขอนุญาติร้อยเวรป้องกันปราบปราม ขอเข้าไปดูระงับเหตุนี้ก่อน เมื่อไปถึงได้มีการเจรจาไกล่เกลี่ยค่าเสียหายกัน จากนั้นเจ้าของบ้านได้ชักชวนให้นั่งรับประทานอาหารต่อตามภาพในคลิป โดยหญิงสาวที่ปรากฏในคลิปก็คือ นางสาวกุ้ง เจ้าของบ้าน ซึ่งมีความสนิทสนมกับดาบตำรวจรายนี้
ทั้งนี้แม้จะมีความสนิทสนมกัน แต่ก็ถือว่าเป็นเรื่องไม่เหมาะสม จึงได้สั่งการอย่างแรกคือย้ายไปปฏิบัติหน้าที่อื่นก่อน คือ ให้ไปปฏิบัติหน้าที่สิบเวร โดยให้มีผลในวันนี้ทันที อย่างที่สองคือ ให้ดาบตำรวจรายนี้เขียนรายงานชี้แจงขึ้นมา จากนั้นคณะกรรมการจะพิจารณาข้อเท็จจริงและลงโทษ ถ้ามีความผิดชัดเจนจะดำเนินการทางวินัยอย่างเด็ดขาด ก็ขอยืนยันว่าไม่ได้นิ่งเฉยในเรื่องนี้ และต้องขออภัยแทนเจ้าหน้าที่ตำรวจรายนี้ จากนี้จะมีการเคร่งครัดในเรื่องระเบียบวินัยให้มากขึ้น
