นักการฯ อบต. ศิลาลอย เก็บเงินได้ตามหาเจ้าของจนเจอ ไม่คิดเก็บไว้ใช้เองนึกถึงอกเขา อกเรา ถ้าเป็นของเราก็คงอยากได้คืน เมื่อพบเจ้าของรีบนำส่งคืนทันที
วันที่ 11 ก.พ. 2562 ที่ห้องทะเบียนชั้นหนึ่งที่ว่าการอำเภอสามร้อยยอด ตำบลศิลาลอย อำเภอสามร้อยยอด จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นายชิน ศิริวรรณดี ปลัดอาวุโสอำเภอสามร้อยยอด เป็นสักขีพยานในการมอบเงินคืนให้กับ นายณัฐวุฒิ นิพัทธกมลสุข อายุ 40 ปี อาสาสมัครรักษาดินแดนอำเภอสามร้อยยอด โดยนายสมควร ศิริโรจน์ อายุ 48 ปี เป็นนักการอยู่ที่องค์การบริหารส่วนตำบลศิลาลอย ได้นำเงินที่เก็บได้มามอบคืนให้
ข่าวน่าสนใจ:
- มท.1 เยือนจังหวัดนครพนม เปิดงานมหกรรมเทศกาลปลาลุ่มน้ำสงคราม ประจำปี 2567 ครั้งที่ 21 ผลักดัน Soft Power อำเภอศรีสงคราม
- “ปลายฝน ต้นหนาว เคาท์ดาวน์ มิวสิคเฟส สุราษฎร์ธานี” ไฮไลท์ประกวดควายไทยมูลค่ากว่า 10 ล้าน
- ตรัง แม่ค้าร้านดังถูกหลอก อ้างเป็นเลขานายกฯสั่งข้าวกล่องช่วยน้ำท่วมสูญเงิน 3 พัน
- บ้านใหญ่พรรคเพื่อไทยเชียงราย เปิดตัวผู้สมัครนายก อบจ.พร้อมกับนำทีมผู้สมัคร สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงราย ทั้ง 36 เขต ในนามพรรคเพื่อไทย
นายณัฐวุฒิ เล่าให้ฟังว่า ตนเองจอดรถไว้ที่ด้านหน้าหอประชุมใหญ่ที่ว่าการอำเภอสามร้อยยอด เมื่อลงจากรถมาก็ล้วงโทรศัพท์ในกระเป๋า และคิดว่าเงินคงจะหล่นมาด้วยโดยที่ไม่รู้ตัว มารู้ตัวว่าเงินหายก็ตอนพักกลางวันได้ไปซื้อข้าวใส่กล่อง แต่เมื่อจะจ่ายเงินกลับไม่มีเงิน จึงต้องบอกแม่ค้าว่าเดี๋ยวค่อยมาเอาข้าวเพราะไม่มีเงินเลย ตอนนั้นก็รู้สึกใจหาย และเสียดายเงิน ซึ่งถึงแม้จะเป็นเพียงเงินเล็กน้อยแต่มันมีความหมายกับตนเองเป็นอย่างมาก ว่าตนเองได้ทำเงินหายไป 3,000 บาท คิดว่าคงไม่ได้คืนแล้ว แต่กลับมีเพื่อนบอกว่ามีคนพบเงิน และตามหาเจ้าของอยู่ จึงได้ติดต่อไปยังผู้ที่พบเงิน และบอกว่าจะนำมาคืนให้ที่อำเภอ
ด้านนายสมควร ศิริโรจน์ นักการอยู่ที่องค์การบริหารส่วนตำบลศิลาลอย กล่าวว่า ตนเองมาส่งหนังสือที่อำเภอ และได้เดินไปส่งที่ท้องถิ่นอำเภอซึ่งอยู่ที่ชั้นสองของหอประชุมอำเภอสามร้อยยอด พอลงมาก็เห็นว่ามีกระดาษอะไรตกอยู่จึงเดินไปดูใกล้ๆ ก็พบว่าเป็นธนบัตรใบละ 1,000 จำนวน 3 ใบ จึงได้ไปเดินถามพวก อส. ที่อยู่บริเวณนั้นก็ไม่มีใครเป็นเจ้าของ เดินถามอยู่พักหนึ่งไม่มีใครเป็นเจ้าของ ตนต้องรีบกลับที่ทำงานจึงได้ฝากบอก อส. ไว้ว่าถ้าเงินใครหายให้ติดต่อไปที่ตนโดยได้ให้เบอร์โทรเอาไว้ ต่อมานายณัฐวุฒิได้โทรหาและบอกว่าเป็นเงินของตัวเอง จึงบอกว่าเดี๋ยวจะนำมาคืนให้ที่อำเภอ
นายสมควร ยังกล่าวอีกด้วยว่าตอนที่พบเงินก็ไม่คิดจะเก็บไว้เป็นของตนเอง เพราะคิดว่าคนที่ทำเงินหล่นหายก็คงจะทุกข์ใจ และอยากได้เงินคืน ถึงแม้เงินจะไม่มากก็ตาม แต่สำหรับลูกจ้างอย่างตน หรือชาวบ้านธรรมดาเงินทุกบาททุกสตางค์มีค่า จึงได้รีบตามหาเจ้าของทันที แต่ก็ไม่พบจนนายณัฐวุฒิโทรไปหาจึงได้นำเงินจำนวนมาคืนดังกล่าว
ข่าว/ภาพ ฐิติชญา แสงสว่าง/
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: