ประจวบคีรีขันธ์ – ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน นำเสื้อหนาวและอุปกรณ์การศึกษา พร้อมข้าวสารอาหารแห้ง ตามโครงการ “ไออุ่นคลายหนาว” ประจำปี 2561 ไปมอบให้กับโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านป่าหมาก ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งอยู่ห่างไกลในถิ่นทุรกันดารแนวชายแดนไทย – เมียนมา สร้างความดีใจให้กับเด็กๆและคณะครูเป็นอย่างมาก
22 มกราคม 2561 ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านป่าหมาก หมู่ 8 ต.ศาลาลัย อ.สามร้อยยอด นายอมรเทพ อ่วมมีเพียร ผู้จัดการศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน พร้อมพนักงาน และมูลนิธิสว่างหัวหินธรรมสถาน ได้นำเสื้อกันหนาวจำนวน 163 ตัว ไปมอบให้กับเด็กนักเรียนกลุ่มชาติพันธุ์ ที่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนป่าหมาก
เนื่องจากในช่วงนี้ในพื้นที่บ้านป่าหมาก ซึ่งอยู่กลางหุบเขาใกล้ชายแดนไทย เมียนมา มีอากาศหนาวเย็นในช่วงกลางคืนถึงช่วงเช้าอุณหภูมิประมาณ 15-20พร้อมด้วยอุปกรณ์การเรียน อุปกรณ์กีฬา ข้าวสารอาหารแห้ง น้ำดื่ม ฯลฯและจัดเลี้ยงอาหารกลางวันเป็นเมนูก๋วยเตี๋ยวไก่ ขนมหวาน ไอครีม ขนมปัง ฯลฯ
โดยมี พันตำรวจโท จักรกริช รังศิโยภาส รองผู้กำกับการตำรวจตระเวนชายแดนที่ 14 ค่ายพระมงกุฎเกล้า,ร้อยตำรวจเอก พัฒนศักดิ์ พัฒน์พงศ์ศา ครูใหญ่โรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านป่าหมาก และนายประเสริฐ ไทยอุดมทรัพย์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลศาลาลัย ตลอดจนตำรวจตระเวนชายแดนค่ายนเรศวร ชะอำ ให้การต้อนรับคณะ
นายอมรเทพ กล่าวว่าทางศูนย์การค้าฯ ได้จัดทำโครงการ”ไออุ่นคลายหนาว”ให้กับเด็กนักเรียนโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านป่าหมากในปี 2561 และช่วงนี้เป็นช่วงที่อากาศหนาวเย็น และเล็งเห็นว่าโรงเรียนดังกล่าวอยู่ห่างไกลความเจริญอยู่ในพื้นที่ป่า ดังนั้นจึงได้จัดโครงการขึ้นมา และเปิดรับบริจาคเสื้อกันหนาวภายในศูนย์การค้า ฯและได้นำไปส่งมอบให้กับเด็กๆจนครบทุกคนพร้อมจัดกิจกรรมให้กับเด็กๆ
วันนี้เด็กๆนักเรียนและครูโรงเรียนตำรวจตระเสนชายแดนบ้านป่าหมาก และพนักงานของศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน พร้อมคณะที่ร่วมเดินทางทางไปได้ร่วมรับประทานอาหารและมอบความสุขให้กับเด็กๆสร้างรอยยิ้มและเสียงหัวเราะให้กับเด็กๆกลุ่มชาติพันธุ์ที่อาศัยอยู่ท่างกลางหุบเขา เป็นอย่างมาก
ด้านพันตำรวจโท จักรกริช กล่าวว่าโรงเรียนตำรวจตระเวนชายแดนบ้านป่าหมาก เป็นโรงเรียนที่อยู่ในพื้นที่ถิ่นทุรกันดาร การเดินทางยากลำบากต้องใช้รถขับเคลื่อนสี่ล้อเท่านั้น เปิดสอนตั้งแต่ชั้นอนุบาลที่ 2 ถึงชั้นประถมการศึกษาปีที่ 6 มีเด็กนักเรียนชายหญิงรวม 163 คน ทั้งหมดเป็นเด็กกลุ่มชาติพันธุ์ ฐานะทางครอบครัวยากจน มีอาชีพทำการเกษตร ปัจจุบันทางโรงเรียนมีความต้องการเกี่ยวกับข้าวสารอาหารแห้ง เนื่องจากต้องเก็บไว้เป็นอาหารกลางวัน และมอบให้กับครอบครัวของเด็กนักเรียนด้วย
