ชาวบ้านที่มีอาชีพรับจ้างกรีดยางพารา ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบฯ ออกไปขึงลวดบริเวณสวนยางเพื่อป้องกันช้างป่า แต่เจอช้างโผล่ออกมาพยามก้าววิ่งหนีแต่ถูกช้างชนจนล้มไปติดบริเวณกอไผ่ จนต้องแกล้งตายเมื่อช้างไปแล้วจึงตะโกน ให้คนมาช่วยเบื้องต้นถูกส่งตัวไปรักษาที่โรงพยาบาลกุยบุรี และส่งต่อไปยังโรงพยาบาลประจวบฯพบเลือดออกในช่องท้อง ส่วนตับ-ไตได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก ขณะที่หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี เข้าเยี่ยมอาการบาดเจ็บและมอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้น
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันที่ 21 พฤษภาคม.2562) เวลา 20:30 น. ที่ผ่านมานายทัศเนศวร์ เพชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้ รับรายงานจากชุดปฏิบัติการเฝ้าระวังช้างป่า ที่ 2 ว่า เมื่อเวลา 18:30 น. มีชาวบ้านในพื้นที่ถูกช้างป่า ทำร้ายได้รับบาดเจ็บ ในแนวป่ากันชนระยะ จากแปลงเกษตรเข้าไปประมาณ 20 เมตร ชิดแนวเขต อุทยานแห่งชาติกุยบุรี หมู่ 7 บ้านรวมไทย ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นมีการช่วยเหลือนำผู้บาดเจ็บส่งโรงพยาบาลกุยบุรี เวลา 20:34 น. พร้อมจัดกำลังเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรีเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ ส่วนผู้บาดเจ็บคือนายวรรณชัย(ต่าย) นนทวิชา อายุ 32 ปี อยู่บ้านเลขที่ 34/1 ม.7 ต.หาดขาม อ.กุยบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ มีอาชีพรับจ้างกรีดยางพารา และช่วยดูแลแปลงเกษตรให้เจ้าของแปลงยางพารา พบว่าที่บริเวณหน้าผากเป็นแผลฉีกขาด 6-7 ซม. เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลกุยบุรีได้ทำการเย็บบาดแผล 7 เข็ม ตามร่างกายมีรอยช้ำ มีสติปกติพูดคุยได้ ซึ่งหลังจากทางแพทย์ พยาบาลโรงพยาบาลกุยบุรี ได้ทำการปฐมพยาบาลเบื้องต้น และพบว่าอาจมีเลือดออกในช่องท้อง จึงต้องนำส่งตัวส่งไปโรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ โดยทางแพทย์โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ ได้ทำการเอ็กซเรย์อย่างละเอียดพบเลือดออกในช่องท้อง ตรวจพบ กระดูกสันหลังแตก ตับ-ไตได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทก จึงได้ให้ยารักษาตามอาการ ส่วนขาไม่หักแต่อย่างใด
วันนี้ผู้สื่อข่าวได้เดินทางไปยังตึกศัญกรรมชาย โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ โดยมีญาติคอยดูแล และได้เข้าพบพูดคุยกับนายวรรณชัย(ต่าย) นนทวิชา ผู้บาดเจ็บซึ่งนอนพักรักษาตัว เล่าให้ฟังว่า ในช่วงเย็นกำลังจะเข้าไปผูกลวดสำหรับป้องกันช้างเป็นปกติที่ชายป่าเพื่อ เพื่อไม่ให้ช้างป่าออกมากัดพืชเกษตร เนื่องจากบริเวณดังกล่าวมักมีช้างป่าอยู่ 4 -6ตัว จะมีช้างงาอยู่ 1 ตัว แต่ระหว่างนั้นตนเองหันหลังอยู่และเมื่อหันกลับมาก็เห็นช้างตัวใหญ่ ตนเองกำลังจะก้าววิ่งอยู่นั้นแต่วิ่งไปได้หน่อเดียว ช้างก็มาชนจนล้มลงบริเวณกอไผ่ แต่ตอนนั้นช้างป่าได้ใช้เท้าเหยียบขาขวาเอาไว้แต่เหมือนกับว่าไม่ได้เหยียบกดลงไปเท่านั้นเหมือนกับใช้เท้าแตะเอาไว้ ส่วนเท้าช้างอีกข้างก็เหยียบที่ด้านหลังเอาไว้เช่นกันแต่เท้ามันลงไปไม่เต็มแรง วินาทีนั้นก็ไม่รู้จะทำอย่างไรคิดว่า”คงไม่รอดแล้ว” แต่ก็ต้องแกล้งตายไว้ก่อนนอนนิ่งๆเอาไว้ ช่วงนั้นเพียงไม่กี่วินาที เมื่อช้างผละออกไปแล้ว ตนเองได้ร้องเรียกตะโกนขอความช่วยเหลือ จนมีชาวบ้าน และญาติๆ เจ้าหน้าที่ ได้ช่วยกันนำตนเองส่งโรงพยาบาลกุยบุรี
ซึ่งหากรักษาตัวจนหายดีเป็นปกติแล้วก็จะกลับไปทำงานที่สวนยางต่อไป เพราะมองว่าสิ่งที่เกิดขึ้นเป็นเรื่องของอุบัติเหตุ อีกทั้งบริเวณดังกล่าวเป็นพื้นที่รอยต่อกับป่าที่มีช้างป่าอาศัยอยู่ตามปกติ
ความคืบหน้าต่อมาวันนี้ นายทัศเนศวร์ เพชรคง หัวหน้าอุทยานแห่งชาติกุยบุรี กล่าวว่าเบื้องต้นผู้บาดเจ็บมีอาการปลอดภัย สามารถพูดคุยได้ ในส่วนเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ได้เดินทางเข้าไปตรวจสอบพื้นที่จุดเกิดเหตุแล้วพบร่องรอยของช้างป่าหลายตัว แต่ไม่พบตัวช้างป่าแต่อย่างใด ซึ่งบริเวณจุดดังกล่าวนั้นเป็นจุดที่ยังไม่ได้ติดตั้งกล้องซีซีทีวี เนื่องจากจุดดังกล่าวไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ทแต่อย่างใด ในขณะที่จุดอื่นๆเรามีกล้องไว้ติดตามดูหากพบช้างป่าออกมาจะเข้าพื้นที่แปลงเกษตรของชาวบ้าน ก็จะมีชุดเจ้าหน้าที่ที่จะคอยไล่ช้างผลักดันให้กลับเข้าป่าทันที โดยหลังจากเยี่ยมอาการผู้บาดเจ็บที่โรงพยาบาลประจวบคีรีขันธ์ แล้วได้มอบเงินช่วยเหลือเยียวยาเบื้องต้นจำนวน 5,000 บาท พร้อมกันนี้ได้รายงานให้ทางผู้บริหารสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 3 สาเขาเพชรบุรี ได้รับทราบ
ภาพ…อช.กุยบุรี
