ผู้สูงวัยในโครงการโรงเรียนผู้สูงอายุ วิลัยวัยหวานเทศบาลเมืองหัวหิน รุ่นที่ 3 สวมใส่เสื้อครุยรับใบประกาศนียบัตรจบหลักสูตรด้วยความภาคภูมิใจ บรรยากาศเต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุข ขณะที่อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ระบุว่าขณะนี้ประเทศไทยมีผู้สูงอายุกว่า 11 ล้านคน และในปี 2564 จะเพิ่มถึง 14 ล้านคน (เรื่อง/ภาพ วิมล ทับคง)
วันที่ 22 พ.ค. 2562ที่ห้องประชุมโรงแรม เซ็นทารา แกรนด์ รีสอร์ท แอนด์ วิลล่า หัวหิน นางไพรวรรณ พลวัน อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ เป็นประธานในพิธีมอบประกาศนียบัตรให้แก่ผู้สูงอายุที่สำเร็จหลักสูตรพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ โรงเรียนผู้สูงอายุวิลัยวัยหวาน รุ่นที่ 3 โดยมีนายธนนท์ พรรพีภาสนายอำเภอหัวหิน ,นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน นางสาวไพลิน กองพันธ์ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน,นายจีรวัฒน์ พราหมณี ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน พร้อมคณะผู้บริหาร นางรัมภา จำลองราช ผอ.กองสวัสดิการสังคม และเจ้าหน้าที่ นายอมรเทพ อ่วมมีเพียร ผจก.ศูนย์การค้ามาร์เก็ตวิลเลจ หัวหิน ตลอดจนผู้แทนจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ตลอดบุตรหลานของผู้สูงอายุเข้าร่วมพิธี
นางไพรวรรณ พลวัน อธิบดีกรมกิจการผู้สูงอายุ ตัวเลขผู้สูงอายุในภาพรวมของทั่วประเทศเพิ่มสูงขึ้นทุกปี และในปัจจุบันมีกว่า 11 ล้านคน และในอนาคตในปี 2564 ผู้สูงอายุจะเพิ่มถึง 14 ล้านคน ซึ่งประเทศไทยเรามีผู้สูงอายุรองเป็นอันดับสองของประเทศในอาเซียน รองจากประเทศสิงคโปร์ ซึ่งทางรัฐบาลมีความเป็นห่วงในเรื่องของผู้สูงอายุ ว่าจะต้องทำอย่างไรที่จะให้เป็นผู้สูงอายุที่มีคุณภาพชีวิตที่ดี สุขภาพดี การมีงานทำมีรายได้ที่มั่นคง ที่สำคัญให้ผู้สูงอายุมีส่วนในการเข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาสังคม
ด้านนายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่าโดยในรุ่นที่ 3 นี้มีผู้สูงอายุในเขตเทศบาลเมืองหัวหิน เข้าร่วมโครงการ และจบหลักสูตรทั้งสิ้น 250 คน ซึ่งเทศบาลเมืองหัวหิน ได้จัดพิธีมอบประกาศนียบัตรเพื่อเป็นขวัญกำลังใจ สร้างความภาคภูมิใจให้กับผู้สูงวัย ซึ่งผู้สำเร็จหลักสูตรในครั้งนี้ได้สวมชุดครุยสีฟ้าซึ่งจัดทำให้เป็นพิเศษเพื่อให้นักเรียนผู้สูงอายุได้สวมใส่เพื่อเป็นความภาคภูมิใจ และสร้างสีสันให้แก่ผู้สูงอายุได้ย้อนวัยอีกครั้ง โดยในวันนี้เป็นวันจบหลักสูตร และวันรับประกาศนียบัตรนักเรียนผู้สูงอายุต่างก็เตรียมตัวกันมาอย่างดี สวมใส่ชุดนักเรียน และสวมทับชุดครุยอย่างสวยงาม โดยบางท่านก็มีบุตรหลานมาดูแลให้กำลังใจอยู่ไม่ห่าง
เทศบาลเมืองหัวหินได้จัดโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ ในชื่อโรงเรียนผู้สูงอายุวิลัยวัยหวานขึ้น เพื่อให้ผู้สูงอายุได้มีความรู้ด้านการส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุให้เหมาะสมต่อวัย ทั้งด้านร่างกาย อารมณ์ และจิตใจ ทำให้เกิดความรู้สึกมองเห็นคุณค่าในตนเอง และเพื่อนร่วมวันที่ได้มาพบปะกันในแต่ละอาทิตย์ ส่งผลให้ผู้สูงอายุได้ดึงศักยภาพของตนเองออกมาใช้ประโยชน์แก่ชุมชน และลูกหลาน
ตลอดระยะเวลา 4 เดือน หรือ 16 สัปดาห์ของหลักสูตร ผู้สูงอายุต่างก็ให้ความสนใจออกมาร่วมทำกิจกรรมต่างๆ ในทุกวันพุธด้วยความสนใจเป็นอย่างดี ผู้สูงอายุแต่ละคนได้ทำกิจกรรมทั้งใน และนอกห้องเรียน มีสภาพจิตใจที่สดใส สดชื่น ซึ่งเป็นผลดีทั้งต่อตนเอง ครอบครัว และคนรอบข้าง ถือว่าในโครงการโรงเรียนผู้สูงอายุวิลัยวัยหวานประสบผลสำเร็จเป็นอย่างยิ่ง
นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่าทางเทศบาลเมืองหัวหิน กำลังดำเนินการทำศูนย์สร้างสุข ทีสวนหลวงราชินี 19 ไร่ หัวหิน เพื่อที่จะให้มีการดูแลผู้สูงอายุที่ดีขึ้น ซึ่งจะมีการทำ MOU ร่วมกับกรมกิจการผู้สูงอายุ และภาคเอกชน ซึ่งจะมีทั้งฝ่ายวิชาการ ฝ่ายราชการ ฝ่ายภาคเอกชน ซึ่งในปัจจุบันนี้เรามีข้อมูลผู้สูงอายุ ที่เพิ่มขึ้นล่าสุดพบว่ามีตัวเลขกว่า 8,000 คนแล้วในปัจจุบัน ดังนั้นทางเทศบาลเมืองหัวหิน จึงต้องมีการเตรียมพร้อมรอบรับในเรื่องของสังคมผู้สูงอายุ ตามนโยบายของรัฐบาล
สำหรับบรรยากาศในวันนี้ก็เต็มไปด้วยรอยยิ้มแห่งความสุขของหนุ่มสาววัยดึก มีการถ่ายรูปร่วมกันทั้งก่อนเริ่มพิธี และหลังพิธี ทุกคนต่างก็ตั้งใจร่วมพิธี เมื่อรับประกาศนียบัตรต่างก็เปิดออกดูด้วยความภูมิใจ บางรายก็ใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายใบประกาศนียบัตรส่งให้ครอบครัว และบุตรหลานดูทันที เมื่อเสร็จพิธีก็ออกมาถ่ายรูปร่วมกันเป็นที่ระลึก มีการมอบช่อดอกไม้ ของขวัญจากบุตรหลาน และแม้จะเป็นผู้สูงวัยแต่ก็มีความทันสมัย ถ่ายรูปเซลฟี่เก่งไม่แพ้วัยรุ่น มีการหามุม จัดมุมถ่ายรูปไม่แพ้วัยรุ่น แถมยังทำท่ามินิฮาร์ท และ ยกนิ้วกดไลค์กันอย่างสนุกสนาน รวมทั้งมีการถ่ายรูปโยนหมวกเหมือนการจบการศึกษาในละครหรือภาพยนตร์ ด้วย
นางสมรศรี คล้ายทอง นักเรียนโรงเรียนวิลัยวัยหวาน กล่าวว่าการมาเข้าโรงเรียนผู้สูงอายุ ของเทศบาลเมืองหัวหิน รู้สึกได้ความรู้ ได้ประสบการณ์ในหลายด้านที่มีวิทยากรมาสอนให้ความรู้ ได้มีโอกาสทำกิจกรรมร่วมกับเพื่อนนักเรียนผู้สูงอายุร่วมกัน เหมือนเรามีสังคมใหม่แต่เป็นสังคมเพื่อนสูงอายุ และได้ใช้เวลาให้เป็นประโยชน์ อย่างน้อยที่สุดเราไม่ต้องนั่งอยู่บ้านไปวันๆเท่านั้น ที่ผ่านมาทราบว่ารุ่นนี้เป็นรุ่นที่ 3 แล้วดังนั้นหากในรุ่นต่อๆ ไปอยากให้ผู้สูงอายุ ทั้งหญิงชายมาสมัครเรียนกัน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: