เจ้าของนากุ้ง ได้ยินเสียงคนร้องขอความช่วยเหลือ บนวนอุทยานเขาตาม่องล่าย อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ จึงแจ้งให้เจ้าหน้าที่ฯทราบเบื้องต้นทราบว่าขึ้นไปตั้งแต่ช่วงสาย เป็นชายชาวเมียนมา และกลับลงจากเขามาได้แล้วในช่วงค่ำแต่ยังให้การไม่รู้เรื่อง ทางฝ่ายปกครองจึงนำตัวไปตรวจปัสสาวะพบสีม่วง จึงส่งดำเนินคดีตามกฎหมาย
วันที่ 14 มิถุนายน2562 (เวลา 18.30 น.) เจ้าหน้าที่ศูนย์วิทยุมูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน ได้รับแจ้งจากนายสมชาย เขียวประดับ เจ้าของนากุ้ง อยู่บ้านเลขที่ 27/5 ซอยธนาคารปูม้า ชุมชนม่องล่าย เขตเทศบาลเมืองประจวบคีรีขันธ์ว่า ได้ยินเสียงร้องขอความช่วยเหลือจากบริเวณหน้าผาสูง บนเขาตามองล่าย ภายในเขตวนอุทยานเขาตาม่องล่าย จึงนำกำลังพร้อมด้วยรถกู้ภัยและรถติดตั้งอุปกรณ์ไฟส่องสว่างไปให้การช่วยเหลือแต่มีอุปสรรคจากทางเข้าภายในซอยคับแคบ ประกอบกับเป็นเวลาค่ำมืด จึงต้องจอดรถห่างจากเชิงเขาเดินเข้าไปประมาณ 300 เมตร จากนั้นพร้อมด้วยเจ้าหน้าที่วนอุทยานเขาตาม่องล่าย และชาวบ้านที่ชำนาญเส้นทางบนเขา พร้อมเจ้าหน้าที่มูลนิธิสว่างประจวบธรรมสถาน เกือบ 20 นาย ได้ออกติดตามพร้อมตะโกนสอบถามและมีเสียงโต้ตอบ แต่เจ้าหน้าที่ฯ ยังไม่ทราบจุดพิกัดที่ชัดเจน สำหรับการช่วยเหลือเป็นไปด้วยความยากลำบาก เนื่องจากมีต้นไม้ปกคลุมหนาทึบและมีหน้าผาเป็นทางลาดชัน แต่เจ้าหน้าที่ใช้ความพยายามสื่อสารด้วยการตะโกนเพื่อให้ทราบพิกัดที่แน่นอน และ วางแผนส่งทีมกู้ภัยที่มีความชำนาญเส้นทางเดินเท้าขึ้นไปนำอาหารและน้ำเพื่อให้การช่วยเหลือ ระหว่างนั้นพบว่ามีชายชาวเมียนมา เดินลงมาจากเขา แต่พูดจาไม่รู้เรื่องต่อมาทางฝ่ายปกครองอำเภอเมืองประจวบฯ ได้รับตัวไปสอบถาม และหาล่ามมาแปลภาษา จึงทราบว่าเป็นลูกเรือของเรือประมงจากมหาชัยที่มาทำการประมงที่ประจวบฯ เมื่อ 2 วันที่ผ่านมา ทราบชื่อคือนายญา อู อายุ 37 ปี ซึ่งสอบถามให้การไม่รู้เรื่องมีอาการคล้ายเมา เจ้าหน้าที่จึงนำตรวจปัสสาวะพบมีฉี่สีม่วง จึงส่งดำเนินคดีตามกฎหมายที่ สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์
นายพงศธร พร้อมขุนทด หน.วนอุทยานเขาตาม่องล่าย กล่าวว่าเบื้องต้นคาดว่าชาวเมียนมาน่าจะแอบเดินขึ้นไปบนเขาทางด้านทิศเหนือของชุมชน ไม่ได้ขึ้นจากทางด้านหน้าเนื่องจากทางวนอุทยานฯไม่ได้อนุญาตให้มีนักท่องเที่ยวขึ้นไปแต่อย่างใด เบื้องต้นตรวจสอบแล้วไม่ใช่นักท่องเที่ยว เป็นชาวเมียนมาที่เป็นลูกเรือประมงเพียงคนเดียวเท่านั้นและทราบว่ามีชาวบ้านเห็นเดินผ่านบ้านเรือนในชุมชนเข้าไปทางเขาตั้งแต่ช่วงเวลา 09.00 น.ที่ผ่านมา
ทั้งนี้ยังมีรายงานว่า เมื่อวันที่ 7 มกราคม 2558 มีนักท่องเที่ยวพลัดหลงบนเขาตาม่องล่าย 18 ชั่วโมง ทำให้เจ้าหน้าที่วนอุทยานเขาตาม่องล่าย ต้องปิดป้ายประกาศห้ามเดินเท้าขึ้นไปบนภูเขาโดยไมได้รับอนุญาต บริเวณที่ทำการวนอุทยานด้านทิศใต้ของเขาตาม่องล่าย และ ต่อมาวันที่ 15 กุมภาพันธ์ ปีเดียวกันพบว่ายังมีนักท่องเที่ยวชาวเยอรมันพลัดหลงบนภูเขาดังกล่าวนานกว่า 15 ชั่วโมง แต่ทั้ง 2 ราย ได้รับการช่วยเหลืออย่างปลอดภัย สำหรับเขาตาม่องล่ายเป็นเทือกเขาหินปูน ปัจจุบันได้รับการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว ห่างจากศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ประมาณ 4 กิโลเมตร
