ช้างป่าละอู “ไอ้ด้วน” ได้กลิ่นทุเรียนสุกในห้องพัก เลยเดินเข้าหมู่บ้านและใช้งวงเกี่ยวประตูเหล็กม้วนจนพังลงมา ก่อนใช้งวงหยิบทุเรียนในห้องกินไป 6 ลูก โชคดีเพื่อนบ้านฝั่งตรงข้ามได้ยินเสียงออกมาช่วยกันขับไล่ช้างป่าออกไปได้ทันไม่งั้นหมด เบื้องต้นแม่ค้าทุเรียน ต้องใช้วิธีขึงลวดปล่อยกระแสไฟแรงต่ำรอบที่พักไว้ก่อนเป็นการชั่วคราว เพราะหากช้างเข้ามาโดนลวดก็จะเกิดการตกใจและไม่กล้าเข้าไปด้านใน (วิมล ทับคง เรื่อง/ภาพ)
วันที่ 29 กรกฏาคม 2562 ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจากชาวชาวบ้านป่าละอู ว่ามีช้างป่าที่อาศัยหากินอยู่ในผืนป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เข้ามาพังประตูเหล็กม้วน บ้านของป้าประเทือง นุ่มน้อย วัย 72 ปี หมู่ 1 บ้านเฉลิมเกียรติพัฒนา ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งเป็นเกษตรกร และขายทุเรียนป่าละอู รวมที่ผ่านมาในพื้นที่บางสวนก็มีช้างป่าเข้าไปกัดกินได้รับความเสียหาย ตลอดจนที่พักถูกทำลาย
ซึ่งบริเวณดังกล่าวปลูกเป็นอาคารพาณิชย์ชั้นเดียวปลูกติดกัน 6 ห้อง ด้านหน้าห้องพักอยู่ห่างจากริมถนนในหมู่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ เพียงเล็กน้อย โดยป้าประเทือง นุ่มน้อย แม่ค้าขายทุเรียน พร้อมด้วยนางสุนันทา พิมพ์ไทย นายก อบต.ห้วยสัตว์ใหญ่ และผู้สื่อข่าว ดูบริเวณอาคารพาณิชย์ ห้องแรก ซึ่งเป็นของตนเองไม่มีใครมาเช่า จึงเอามาไว้เป็นที่เก็บทุเรียนที่ซื้อมาขายบริเวณแผงริมถนน ส่วนตนเองในช่วงค่ำก็จะไปนอนในบ้านพักซึ่งอยู่ด้านหลัง
ป้าประเทือง ยังได้ชี้ให้ดูบริเวณประตูเหล็กม้วนด้านหน้า ถูกช้างป่าละอู ตัวขนาดใหญ่ เข้ามาพังประตูในช่วงกลางดึกเมื่อ 2 วันที่ผ่านมา และยังกินทุเรียนที่เก็บไว้ด้านในไป 6 ลูก ในคืนนั้นมีทุเรียนอยู่เกือบ 1 ตัน ซึ่งนับว่าโชคดีช่วงนั้นหลังจากประตูเหล็กพังลงมาแล้ว มีเพื่อนบ้านอยู่ฝั่งตรงข้ามมาช่วยกันไล่ไม่เช่นนั้นทุเรียนที่เก็บไว้ด้านในเพื่อเตรียมจะขายก็คงเสียหายมากกว่านี้อย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ระบบเซฟทีคัทที่ติดไว้ข้างผนังกำแพงด้านใน ช่วงที่ประตูพังลงมาคงไปเกี่ยวสายไฟและเกิดไฟช็อต ทำให้ระบบเซฟทีคัทตัดลงก่อน มิเช่นนั้นอาจเกิดอันตรายกับช้างป่าตัวนั้นไปแล้ว
ป้าประเทือง กล่าวว่าประตูเหล็กม้วนทีได้รับความเสียหายจากช้างป่าครั้งนี้ ตนเองและเพื่อนบ้านได้ช่วยกันรื้ออกมากองไว้ข้างบ้าน ซึ่งไม่สามารถใช้การได้แล้ว ขณะนี้ต้องรอให้ช่างไปซื้อประตูเหล็กม้วนใหม่มาติดตั้ง ราคาคงอยู่ที่ประมาณ 1 หมื่นกว่าบาท
เบื้องต้นป้าก็ไม่รู้จะทำยังไง บอกเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ที่มาซื้อของแถวนั้น เค้าก็ตอบมาว่าแล้วจะให้ทำยังไง ตอบมาแบบนี้แล้วจะให้ป้าทำไงหล่ะ ตอนนี้ทุเรียนป่าละอูที่ซื้อมาจากชาวสวนในพื้นที่ ก็ต้องนำเข้าไปเก็บไว้ในห้องด้านใน ที่แยกออกไปก็ต้องป้องกันเป็นการชั่วคราวไว้ก่อน เพราะทุเรียนที่รับซื้อมานั้นแต่ละลูกหนักไม่ด่ำกว่า 2 กิโล ตกลูกละประมาณ 300-500 บาท หากถูกช้างป่ามากินอีกก็คงขาดทุนแน่ๆ
วันนี้จึงต้องป้องกันด้วยการติดตั้งเครื่องควบคุมรั้วไฟฟ้าช๊อตล้อมวัว มาติดตั้งขึงไว้ด้านข้างบ้านจนมาถึงด้านหน้าบ้าน ซึ่งจะทำการขึงลวดและเสียบไฟแรงต่ำเพื่อปล่อยไฟเข้ากระแสลวดเอาไว้ในช่วงเย็นเป็นต้นไปจนถึงช่วงเช้ามืด หากมีช้างป่ามาอีกเมื่อเข้าไปก็จะโดนลวด ทำให้ช้างสะดุ้งและหนีไปได้ รับรองว่าไม่มีผลกระทบกับช้างแน่นอน เพราะขณะนี้ก็ไม่รู้จะเอาทุเรียนไปเก็บไว้ที่ไหนเหมือนกัน เพราะช้างป่ามันฉลาดยิ่งได้กลิ่นหอมของทุเรียนที่กำลังแก่จัดและสุก อีกทั้งตอนนี้ต้องขายทุเรียนทุกวัน
ด้าน นายวีรยุทธ บุญจริง ชาวบ้านห้วยสัตว์ใหญ่ ที่อาศัยอยู่ฝั่งตรงข้าม เห็นช้างป่าตัวขนาดใหญ่สูงประมาณ 2 เมตรเศษๆเข้ามาใช้งวงดึงกล่องประตูจาด้านบนลงมา และใช้งวงหยิบทุเรียนออกมากัดกิน ซึ่งตอนนั้นตนเองและลุงได้ช่วยกันจุดประทัดขับไล่ ซึ่งตัวนี้มาเป็นประจำน่าจะเป็น”ไอ้ด้วน” ไม่เช่นนั้นคืนนั้นทุเรียนในห้องคงเสียหายเยอะ ตอนนี้พบว่าในช่วงหลังเที่ยงคืนไปแล้วจะมีช้างป่าเดินมาตามถนนและเข้ามาตามบ้านแทบทุกคืน ซึ่งชาวบ้านก็ต้องระวังกันเอง ยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่ทุเรียนป่าละอูกำลังแก่จัดและสุกด้วย แต่ละสวนช่วงนี้ก็ต้องเฝ้าระวัง
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: