ผู้ต้องหาร่วมกันล่าหมีควายในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี ดอดเข้ามอบตัวกลางดึก หลังจากตำรวจขอศาลอนุมัติออกหมายจับนายบุญเหลือ เย็นนะสา ชาวบ้านอ่าวน้อย เจ้าหน้าที่คัดค้านการประกันตัวในชั้นพนักงานสอบสวน นำฝากขังศาลประจวบฯซึ่งผู้ต้องหาปฏิเสธว่าไม่ได้ลงมือยิงหมีควาย
จากกรณีที่นายสุวรรณ วงค์นะรัตน์ พนักงานพิทักษ์ป่า หัวหน้าหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติกุยบุรี ที่ 3 (ด่านสิงขร) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ได้ทำการจับกุมตัว นายสมจิตร บุญกอง อายุ 52 ปี อยู่บ้านเลขที่ 12 หมู่ที่ 12 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วยอาวุธปืนลูกซองยาวขนาดเบอร์ 12 ลูกกระสุนปืน จำนวน 9 ลูก ซากมีควายจำนวน 1 ตัว ซากชะมดเช็ด จำนวน 1 ตัว ในพื้นที่บริเวณหุบตาเสริฐ หมู่บ้านน้ำโจน หมู่ที่ 12 ต.อ่าวน้อย อ.เมือง จ.ประจวบคีรีขันธ์ นำส่งพนักงานสอบสวน สภ. อ่าวน้อย เมื่อวันที่ 16 มีนาคม ที่ผ่านมา และผู้ที่ร่วมก่อเหตุได้หลบหนีไป
ต่อมาเมื่อวันที่ 22 มีนาคม 2561 พนักงานสอบสวนได้ขอให้ศาลอนุมัติออกหมายจับนายบุญเหลือ เย็นนะสา หมายเลขที่ จ.45/2561 คดีอาญาที่ 38/2561 ผู้ต้องหาที่ร่วมกระทำความผิดอีกหนึ่งราย ในข้อหาร่วมกันมีอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะ โดยไม่ได้รับอนุญาตให้มีอาวุธปืนติดตัว โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วน สมควรแก่พฤติการณ์ นำเครื่องมือสำหรับล่าสัตว์ป่าหรือจับสัตว์ หรืออาวุธใดๆเข้าไป และยิงปืนในอุทยานแห่งชาติ โดยไม่ได้รับอนุญาตและล่าสัตว์ป่าคุ้มครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และมีไว้ในครอบครองซึ่งซากของสัตว์ป่า โดยไม่ได้รับอนุญาต และนำสัตว์ออกไปหรือกระทำด้วยประการใดๆ ให้เป็นอันตรายแก่สัตว์
ล่าสุดเมื่อกลางดึกของเมื่อคืนที่ผ่านมา พ่อแม่ได้นำตัวนายบุญเหลือ เย็นนะสา อายุ 48 ปี เดินทางเข้ามามอบตัวกับ ร.ต.อ.โกวิทย์ สุขบุญทอง รองสารวัตรสอบสวน สภ.อ่าวน้อย จึงได้รายงานให้ พ.ต.อ.สมชาญ พิณคันเงิน ผกก.สภ.อ่าวน้อย ทราบและร่วมกับพนักงานสอบสวนได้สอบปากคำผู้ต้องหาทั้งคืน โดยเบื้องต้นนายบุญเหลือ ให้การรับสารภาพว่าตนและนายสมจิตรผู้ต้องหาที่โดนจับไปก่อนหน้านี้ ได้ชวนกันเข้าไปหาของป่าในอุทยานแห่งชาติกุยบุรี
ด้านนายบุญเหลือ ผู้ต้องหา เล่าว่านายสมจิตร ผู้ต้องหา คนแรกที่โดนจับไปก่อนหน้านี้ ได้ขี่รถจักรยานยนต์ ผ่านมาที่หน้าบ้านของตน จึงได้ถามว่าจะไปไหน นายสมจิตรตอบว่าจะไปเก็บฝักกะเหรี่ยงในป่า ตนจึงได้ขอติดตามไปด้วย โดยขับขี่รถไปคนละคัน เมื่อไปถึงชายป่าก็แยกกันนำรถไปจอด กันคนละที่ โดยนำรถไปจอดซ่อนไว้เพื่อให้พ้นจากช้างป่า ต่อจากนั้นก็แยกย้ายกันไปเก็บฝักกะเหรี่ยง ซึ่งตนเอง เก็บฝักกะเหรี่ยงมาในช่วงกลางวัน มากองรวมกันไว้ยังแค้มป์พัก และในช่วงกลางคืน ได้มาตีฝักกะเหรี่ยงให้เมล็ดออกมาจากฝัก เพื่อจะเอา แต่เมล็ด และเมื่อเห็นว่าดึกแล้วนายสมจิตรยังไม่กลับมาที่แค้มป์ จึงได้ออกตามหา ด้วยการใช้ไฟส่อง และก็เจอนายสมจิตร โบกไฟรับ เมื่อเข้าไปใกล้ก็พบว่านายสมจิตรได้ยิงหมีไว้ แล้ว โดยนายสมจิตบอกกับตนว่าคิดว่าเป็นหมูป่าจึงได้ยิงเอาไป ตนเองก็เลยบอกว่าในไหนก็ยิงมาแล้ว ก็ เอาเนื้อลงมาแบ่งกันกิน ตนเองก็พอรู้บ้างว่าเป็นความผิด แต่เมื่อไหนๆหมีก็ตายแล้วจึงเอาเนื้อมากินกัน หลังจากนั้นจึงพากันเดินออกจากป่าในอุทยานฯกุยบุรี เพื่อกลับบ้านพักก็มาเจอเจ้าหน้าที่อุทยานฯกุยบุรี จึงตกใจและวิ่งหนี ซึ่งพนักงานสอบสวน สภ.อ่าวน้อย ได้นำตัวไปฝากขังต่อศาลจังหวัดประจวบคีรีขันธ์เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ข่าว/ภาพ…สมบัติ ลิมปจีระวงษ์
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: