(รายงานพิเศษ …วิมล ทับคง) สำนักงานการท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ จัดโครงการส่งเสริมและพัฒนาความเชื่อมโยงระหว่างแหล่งท่องเที่ยวระเบียงเศรษฐกิจประจวบคีรีขันธ์-มะริด กิจกรรม Familiarization Trip เมืองตะนาวศรี-เมืองมะริด และการเจรจาธุรกิจระว่างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และเมืองมะริด เมืองเก่าแก่แห่งทะเลอันดามัน โดยภาคเอกชนฝั่งประจวบตีรีขันธ์ ยอมรับว่าจังหวัดมะริด มีการพัฒนาด้านต่างๆ ตลอดจนการลงทุนอย่างต่อเนื่อง ทั้งที่พัก โรงแรม ร้านอาหาร บริษัทนำเที่ยว และธุรกิจดำน้ำหมู่เกาะมะริด
ข่าวน่าสนใจ:
- กกต.ตรัง พร้อมเปิดสนาม จัดเลือกตั้งอบจ. เปิดยิม 4,000 ที่นั่งรับสมัคร พื้นที่กว้างขวางรองรับกองเชียร์ผอ.กกต.ตรัง เผยการข่าวพบ 3…
- ตรัง ชาวบ้านสืบสานอนุรักษ์การปลูกข้าวไร่ไว้กินเองครอบครัวเหลือขาย
- ขอเชิญมาร่วมสัมผัส “ลมหนาว ริมฝั่งโขง ชมอุโมงไฟ ยาวที่สุด” ที่นครพนม
- พร้อมรับสมัครเลือกตั้งนายกและสมาชิกสภา อบจ.พังงา เชิญชวนคนดีมีความสามารถมาสมัคร 23-27 ธันวาคมนี้
( วันที่ 27 สิงหาคม 2562 ) นายธนศร ดอกเดื่อ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าระหว่างวันที่ 23-25 สิงหาคม 2562 ที่ผ่านมาสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้จัดโครงการส่งเสริมและสนับสนุนการท่องเที่ยวในเขตพื้นที่เมืองชายแดน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ส่งเสริมการท่องเที่ยว ร่วมเดินทางแบบ Familarization Trip และ Table Top Sale การเจรจาธุรกิจเครือข่ายด้านการท่องเที่ยว เพื่อเตรียมความพร้อมในการรองรับการท่องเที่ยวเชื่อมโยงในเขตพื้นที่ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์และจังหวัดมะริด สาธารณรัฐแห่งสภาพเมียนมา เพื่อส่งเสริมศักยภาพของพื้นที่และเส้นทางการท่องเที่ยวชายแดนให้เกิดเป็นรูปธรรม และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศ โดยการจัดโครงการครั้งนี้ใช้เส้นทางจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร –หมู่บ้านไทยสิงขร-ตะนาวศรี-มะริด
การเดินทางในครั้งนี้มี นายนรินทร์ ทรงนิพิฐกุล ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นหัวหน้าคณะ พร้อมด้วยหน่วยงานภาครัฐ เจ้าหน้าที่ศุลกากรประจวบฯ,ตร.ตรวจคนเข้าเมือง,ทหารกองบิน 5 ,ฝ่ายปกครอง,ปลัด อบจ.ประจวบฯปลัดเทศบาลเมืองประจวบฯ ,ปลัด อบต.อ่าวน้อย,ภาคเอกชน ประกอบไปด้วย นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบฯ ,บริษัทประชารัฐรักสามัคคีประจวบคีรีขันธ์,สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ,สมาคมธุรกิจการท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ผู้ประกอบการโรงแรม ฯ และ สื่อมวลชน
โดยในการเดินทางครั้งนี้ยังได้นำอุปกรณ์กีฬา ไปมอบให้กับโรงเรียนหมู่บ้านไทยสิงขร ที่วัดสิงขรวราราม พร้อมกันนี้ยังได้นำชุดการแสดงจากโรงเรียนในเขตพื้นที่ประจวบคีรีขันธ์ ไปจัดแสดงโชว์ศิลปวัฒนธรรมไทย ซึ่งฝ่ายเมียนมาได้จัดนักเรียนร่วมแสดงศิลปวัฒนธรรมประเพณี เป็นการแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และส่งเสริมอนุรักษ์ขนบธรรมเนียมประเพณีของไทยและเมียนมา และยังเป็นการสร้างความสัมพันธ์อันดีในฐานะบ้านพี่เมืองน้องระหว่างประจวบคีรีขันธ์ กับ เมืองมะริด เมียนมา
นายนรินทร์ ทรงนิพิฐกุล ปลัดจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าคณะยังได้เดินทางศึกษาแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์ ศิลปวัฒนธรรม ทั้งที่ อำเภอตะนาวศรี เมืองค้าขายที่สำคัญในอดีต ไม่ว่าจะเป็นศาลหลักเมืองตะนาวศรี, ย่านการค้าตลาดตะนาวศรี และสะพานข้ามแม่น้ำตะนาวศรี ซึ่งรัฐบาลเมียนมาได้ลงทุนก่อสร้างสะพานคู่ขนานกับสะพานเดิมคาดจะแล้วเสร็จในต้นปีหน้า เพื่อรองรับการขนถ่ายสินค้าและการเดินทางจากมะริด-ด่านสิงขร และจากด่านสิงขร-มะริด
หลังจากนั้นเดินทางต่อไปยังจังหวัดมะริด เมียนมา ซึ่งถือเป็นเมืองท่าที่สำคัญของฝั่งทะเลอันดามัน เยี่ยมชมท่าเทียบเรือ ,ตลาดเซจีใจกลางเมืองมะริด ซึ่งถือเป็นตลาดเก่าแก่มีสินค้าขายหลากหลาย แวะซื้อของฝากทั้งอาหารทะเลแห้งและเม็ดมะม่วงหิมพานต์ โดยคณะทั้งหมดได้เข้าสักการะเจดีย์เต็งดอจี้ เจดีย์เก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองมะริด , ไหว้พระนอนอตูละชเวทัสเยือง, ชมบ่อเลี้ยงกุ้งมังกร ตลอดจนห้างสรรพสินค้า ในการจัดโครงการฯเดินทางมาในครั้งนี้ ถือว่าเป็นการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างบ้านพี่เมืองน้องจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กับ จังหวัดมะริด เมียนมา เพื่อเป็นการต่อยอดนำไปสู่การพัฒนาการค้า การท่องเที่ยวเชื่อมโยงระหว่างกันต่อไป
ด้านนายธนศร ดอกเดื่อ ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวอีกว่าในวันสุดท้ายก่อนเดินทางกลับ จัดให้มีการเจรจาธุรกิจ( Table Top Sale) ระว่างเครือข่ายด้านการท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และผู้ประกอบการด้านธุรกิจการท่องเที่ยว ทั้งโรงแรม รีสอร์ท ผู้ประกอบการธุรกิจด้านให้บริการทัวร์ดำน้ำตามหมู่เกาะมะริด ร้านอาหารจังหวัดมะริด ที่ห้องประชุมโรงแรมรีเจ้นท์ จังหวัดมะริด
โดยทางสำนักงานท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้นำแผ่นพับ และ แผ่นซีดี สถานที่ท่องเที่ยวทั้ง 8 อำเภอขังจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ไปมอบให้กับผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวจังหวัดมะริด เพื่อเป็นการเผยแพร่ประชาสัมพันธ์ นอกจากนั้นผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ ผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดมะริด ยังได้พบปะพูดคุยหารือถึงแนวทางความร่วมมือทางด้านการท่องเที่ยวอีกด้วย เนื่องจากในปัจจุบันเส้นทางจากบ้านมูด่อง-ตะนาวศรี-มะริด ระยะทาง 180 กม.การเดินทางสะดวกสบาย รวดเร็วมากยิ่งขึ้น ทำให้การท่องเที่ยวของทั้งประจวบคีรีขันธ์และมะริด เริ่มได้รับความสนใจมากขึ้น
เช่นกัน Dr.Thein Swe Myint ประธานการท่องเที่ยวจังหวัดมะริด กล่าวว่าการพบปะกันในครั้งนี้ระหว่างผู้ประกอบการท่องเที่ยวจังหวัดมะริด และ จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ตลอดจนหัวหน้าส่วนราชการครั้งนี้ ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีเนื่องจากจังหวัดมะริด มีเส้นทางท่องเที่ยวทั้งส่วนที่เป็นเจดีย์ วัด ที่สำคัญหลายแห่งด้วยแล้ว ยังมีเส้นทางท่องเที่ยวทางทะเล จังหวัดมะริดมีหมู่เกาะประมาณ 800 เกาะ ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมาเริ่มมีนักท่องเที่ยวจากต่างประเทศ ให้ความสนใจมาท่องเที่ยวดำน้ำ ชมความสวยงามของโลกใต้ท้องทะเลมากเพิ่มขึ้น รวมทั้งยังมีวิถีชีวิตของชาวเลที่อาศัยอยู่ตามหมู่เกาะต่างๆให้นักท่องเที่ยวที่ไปเยือนได้สัมผัส ส่งผลให้ธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลกำลังได้รับความนิยม ปัจจุบันมีบริษัททัวร์นำเที่ยวให้บริการพาไปท่องเที่ยวทางทะเล เพิ่มมากขึ้น
ในส่วนของสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เองชาวเมียนมาที่เดินทางมาจากเมืองต่างๆก็เดินทางมาที่มะริด และเดินทางต่อผ่านจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร เข้าไปท่องเที่ยวในเขตอำเภอเมืองประจวบคีรีขันธ์ เป็นจำนวนมากโดยเฉพาะช่วงเทศกาลต่างๆเพียงแต่สิ่งสำคัญขณะนี้อยากให้ทางฝั่งประจวบคีรีขันธ์ ช่วยเร่งผลักดันให้มีการเปิดเป็นด่านถาวร และเปิดให้นักท่องเที่ยวของเมียนมาเข้าไปท่องเที่ยวในพื้นที่อำเภอหัวหิน ด้วย
นายศุรอัฐ ณรงค์ฤทธิ์ ประธานหอการค้าจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวการเปลี่ยนแปลงภายในเมืองมะริด เริ่มดีขึ้นทั้งในภาคอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว จะเห็นได้ว่าโรงแรมในเมืองมะริดจากเดิม มีเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นแต่ในขณะนี้พบว่ามีโรงแรมที่เปิดใหม่อย่างน้อย 2-3 แห่งแล้วไม่ว่าจะเป็น Green Eyes Hotel ,Regent Hotel ซึ่งทั้ง 2 แห่งถือเป็นโรงแรมน้องใหม่ รวมไปถึงการพัฒนาของร้านอาหารต่างๆในเมืองมะริด และยังรวมไปถึงบริษัททัวร์ที่ให้บริการด้านการท่องเที่ยว ตลอดจนการลงทุนด้านอื่นๆโดยเฉพาะอุตสาหกรรมประมง และการแปรรูปสัตว์น้ำ
ในปัจจุบันต้องยอมรับว่าเส้นทางการคมนาคมของเมืองมะริด มีการพัฒนาทั้งในตัวเมืองและเส้นทางที่มุ่งหน้าไปยังด่านสิงขรฝั่งไทย ทำให้การเดินทางท่องเที่ยว และขนส่งสินค้าจากมะริดไปไทย จากไทยมามะริด เริ่มดีขึ้นกว่าเมื่อก่อนมาก โดยมั่นใจว่าหากในอนาคตระบบสาธารณูปโภคทั้งไฟฟ้า น้ำประปา ในจังหวัดมะริด ตลอดจนจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร ได้รับการยกระดับขึ้นเป็นด่านถาวรเชื่อว่าจะส่งผลดีต่อการค้า การลงทุน การท่องเที่ยว และด้านอื่นๆ ของทั้งจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ จังหวัดมะริด เมียนมา
……… วันนี้จึงนับได้ว่าระยะเวลาหลายปีที่ผ่านมา “มะริด” อาจเป็นเมืองที่ยังไม่ค่อยมีใครรู้จักมากนัก รวมทั้งหากจะเดินทางไปเที่ยวมะริด หรือจะไปดูลู่ทางการลงทุนเชื่อว่าที่ผ่านมาผู้ที่คิดจะไป มะริด คงต้องตอบตัวเองว่าขอคิดดูก่อน …แต่เมื่อวันเวลาที่ผ่านไปโดยเฉพาะจากเส้นทาง 180 กม.เดิมเป็นเพียงเส้นทางเล็กๆ ถนนดินลูกรังใช้เวลาเดินทางอย่างน้อย 8 ชั่วโมงยิ่งหน้าฝนไม่ต้องพูดถึงแต่เมื่อ รัฐบาลเมียนมา และภาคเอกชนหอการค้าสภาอุตสาหกรรมจังหวัดมะริด ได้มีการพัฒนาปรับปรุงเส้นทางอย่างต่อเนื่องตลอด4-5 ปีที่ผ่านมาจนแล้วเสร็จทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงในหลายๆด้าน ซึ่งการเดินทางที่สะดวกสบายรวดเร็ว ทำให้วันนี้”ด่านสิงขร” จึงกลายเป็นประตูการค้าฝั่งตะวันตก ที่น่าจับตามมองของนักลงทุนเป็นอย่างมาก โดยพบว่าข้อมูลตัวเลขมูลค่าการค้าชายแดนด่านสิงขรขณะที่ถึง 1,000 ล้านบาทแล้ว เพียงแต่รอคอยจังหวะเวลาเหมาะสมที่จุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร จะถูกยกระดับเป็น ด่านถาวรในอนาคต เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และ จังหวัดมะริด เมียนมา อย่างแน่นอน
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: