X

ญาติร้องผู้ว่าฯ “พ่อเฒ่าวัย 100 ปีสามร้อยยอด”หายจากบ้านพักกว่าเดือนครึ่ง ยังหาไม่พบ

เจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา พร้อมญาติๆของนายนิตย์ สีหจักร์  อายุ 100 ปี มีอาการหลงลืม พลัดหลงหายไปจากบ้านพักที่บ้านหนองไทร ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบฯ เข้าพบ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และหน่วยงานเกี่ยวข้องให้ช่วยติดตามหา เนื่องจากเป็นเวลาถึง 1 เดือนครึ่งแล้วที่ออกตามหาแต่ก็ไม่พบ   ด้านเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงาเผยสถิติผู้สูงอายุหายออกจากบ้านน่ากังวล ออกแถลงการณ์แนะรัฐควรสำรวจข้อมูลผู้สูงอายุ  ป่วยอัลไซเมอร์

.

จากกรณีมูลนิธิกระจกเงา ได้รับแจ้งเหตุผู้สูงอายุ  ชื่อนายนิตย์ สีหจักร์  อายุ 100 ปี มีอาการหลงลืม พลัดหลงหายไปจากบ้านพักเลขที่ 377 บ้านหนองไทร หมู่ 6  ต.ไร่เก่า อ.สามร้อยยอด จ.ประจวบคีรีขันธ์ ตั้งแต่วันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2561 แม้ว่าทั้งเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา ญาติๆ ฝ่ายปกครอง ตำรวจ สภ.สามร้อยยอด และชาวบ้านจะระดมกันค้นหาตั้งแต่หายตัวไป จนถึงปัจจุบันนานกว่าเดือนครึ่งปัจจุบันยังไม่พบตัว

.                          ล่าสุดวันนี้ (10 เม.ย. 2561) นายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข  หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายมูลนิธิกระจกเงา พร้อมเจ้าหน้าที่ และญาติๆนายนิตย์ สีหจักร์  อายุ 100 ปี นำโดย นางสาวพนธกร สีหจักร์ บุตรสาวได้พาครอบครัวเข้าพบ นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ณ ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และนางสุพัตรา ไฑรูย์ รักษาการแทนพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ,พ.ต.อ.เฉลิมวุฒิ วงษ์เวียงจันทร์ ผกก.สภ.สามรร้อยยอด และเจ้าหน้าที่ตำรวจ พร้อมสื่อมวลชน ได้ร่วมรับฟังข้อมูลจากญาติๆเพื่อขอให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบฯ ตลอดจนหน่วยงานเกี่ยวข้อง ช่วยเหลือติดตามหาบิดาของตัวเองคือนายนิตย์ สีหจักร์  อายุ 100 ปี ซึ่งมีอาการหลงลืม พลัดหลงหายไปจากบ้านซึ่งในวันดังกล่าวได้แต่งกายอยู่ในชุดเสื้อเชิ้ตแขนยาว กางเกงขาสั้น

                                  โดยนางสาวพนธกร สีหจักร์ บุตรสาว กล่าวว่าที่ต้องเข้ามาพบผู้ว่าฯในวันนี้เพื่อขอความช่วยเหลือจากหน่วยงานราชการ  เนื่องจากบิดา ซึ่งอายุ 100 ปี หายตัวไปอย่างไร้วี่แววเป็นระยะเวลา  45วันแล้ว ก็ยังหาตัวไม่พบ  จึงมาขอให้หน่วยงานภาครัฐช่วยเหลือ  โดยในวันที่พ่อหายไป พ่อมีอาการหลงลืม ช่วงเช้าหลังกินข้าวเสร็จก็ได้เดินพลัดหลงไปแต่โชคดีที่มีชาวบ้านพบเห็นแล้วพามาส่งที่บ้าน จากนั้นประมาณ 4โมงเย็น ก็ได้หายออกไปจากบ้านอีกครั้ง ชาวบ้านได้ช่วยกันตามหาจนดึกก็ไม่พบตัวและค้นหากันตลอดหลายวันก็ไม่พบ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่มูลนิธิกระจกเงา และสุนัขกู้ภัยแห่งชาติได้เข้ามาค้นหาอีก ก็ไม่พบตัวและหลักฐานอะไรเลย

ซึ่ง“ทางครอบครัวมีความเป็นห่วง เนื่องจากบิดามีโรคประจำตัวและอายุก็มากแล้ว ไม่รู้ว่าเขาจะอยู่จะกินอย่างไร อยู่ที่ไหนหรือว่าอยู่สถานะอะไร ชีวิตคนทั้งชีวิต เกิดมาจนอายุ100ปี อยู่มา5แผ่นดินจะให้ครอบครัวนิ่งเฉย เหมือนของไม่มีชีวิตหายไปก็คงไม่ได้ หากมีแนวทางไหน ก็อยากจะทำให้ถึงที่สุด เพื่อจะได้พบตัวพ่อ”

                               นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ได้กล่าวว่าเรื่องดังกล่าวทางจังหวัดไม่ได้นิ่งนอนใจมีการสอบถามและได้ประสานทั้งนายอำเภอสามร้อยยอด กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน  และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สามร้อยยอด ตั้งแต่ช่วงแรกที่รับทราบแล้วและทราบว่ามีการลงบันทึกประจำวันไว้แล้วซึ่งวันนี้ได้รับเรื่องจากทางญาติและครอบครัวของลุงนิตย์ จึงสั่งการให้ทางพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ประจวบฯ ประสานและส่งข้อมูลภาพถ่ายลักษณะของ ลุงนิตย์ ไปยังสำนักงานพัฒนาสังคมฯศูนย์คุ้มครองคนไร้ที่พึ่ง ทั้งชุมพร เพชรบุรี นครปฐม สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัด ประสานวัดต่างๆ และสื่อมวลชนแขนงต่างๆ เครือข่ายกลุ่มไลน์ แอปพลิเคชั่น  เครือข่ายจิตอาสาเราทำความดีด้วยหัวใจ  เพื่อให้ช่วยกันประชาสัมพันธ์เพื่อติดตามหา ซึ่งหากผู้ใดพบเจอเบาะแสหรือทราบที่อยู่ของนายนิตย์ สีหจักร ขอให้แจ้งไปได้ที่สำนักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ประจวบคีรีขันธ์ หมายเลข032-611349 สภ.สามร้อยยอด 032-684216 และที่สายด่วนมูลนิธิกระจกเงา โทร 095 -6311914 ตลอด 24 ชั่วโมง

.                     ด้านนายเอกลักษณ์ หลุ่มชมแข  หัวหน้าศูนย์ข้อมูลคนหายมูลนิธิกระจกเงา    เผยสถิติผู้สูงอายุสูญหาย มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะในกลุ่มผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคสมองเสื่อมและโรคหลงลืม โดยในปี 2559มีผู้สูงอายุหายจากบ้าน จำนวน 122 ราย  ปี 2560 จำนวน 222 ราย และต้นปี 2561 ถึงปัจจุบันรับแจ้งผู้สูงอายุสูญหายแล้วกว่า 47 ราย     และเนื่องในวันผู้สูงอายุแห่งชาติ (13 เมษายน)ที่จะถึงนี้  มูลนิธิกระจกเงาออกแถลงการณ์ถึงหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มีข้อเรียกร้อง ดังนี้ 1.องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรสำรวจและจัดเก็บข้อมูลของผู้สูงอายุที่ป่วยด้วยโรคสมองเสื่อม โรคหลงลืม และโรคจิตเวช ในพื้นที่ สำหรับประเมินความเสี่ยงและจัดหากระบวนการป้องกันคนหายพลัดหลงภายในชุมชน  2.หน่วยงานที่เกี่ยวข้องควรเข้าไปให้ความรู้กับครอบครัวที่ดูแลผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม โรคหลงลืมและโรคจิตเวช ในการดูแลผู้ป่วยอย่างถูกวิธี 3.หน่วยงานที่ดูแลสถานสงเคราะห์ผู้สูงอายุและสถานสงเคราะห์คนไร้ที่พึ่ง ควรมีกระบวนการคัดกรองตรวจสอบ กลุ่มผู้เข้ารับบริการในสถานสงเคราะห์กับฐานข้อมูลคนหาย เพราะผู้รับบริการในสถานสงเคราะห์บางราย อาจเป็นคนหายที่ญาติกำลังติดตามหา 4.สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ควรทบทวนและออกหนังสือเวียนย้ำกับทุกสถานีตำรวจและประชาสัมพันธ์ต่อสังคม ว่า ปัจจุบันสามารถแจ้งความคนหายได้ทันทีโดยไม่ต้องรอให้หายครบ 24 ชม.   5.รัฐควรส่งเสริม สนับสนุนและสื่อสารความรู้ความเข้าใจในการป้องกันการเกิดโรคสมองเสื่อม และสื่อสารมาตรการทางสังคมในการดูแลผู้สูงอายุ

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน