มงคลกิตติ์ หรือเต้ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ ลงพื้นที่ตรวจสอบและรับหนังสือคัดค้าน จากชาวบ้านกรณีบริษัทเอกชนทำถนนบนเขาตะเกียบ พร้อมเผยอธิบดีกรมป่าไม้ กำลังพิจารณาเรื่องการยกเลิกสัญญาจะให้คำตอบภายใน 7 วัน ย้ำหากมีการยกเลิกสัญญาจะต้องดำเนินการทางวินัยกับข้าราชการและผู้ครอบครองพื้นที่จะมีความผิดฐานบุกรุกป่า โดยการประชุม ครม.วันพุธนี้ จะสะกิด รมว.ทส. ให้เร่งดำเนินการตามกฎหมาย (วิมล ทับคง รายงาน)
ความคืบหน้ากรณี บริษัท หัวหินพัฒนาพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด โดย นายณัฐศักดิ์ หรือเสี่ยเม้ง พรหมเกียรติคุณ เจ้าของร้านอาหารลาแม บนเขาตะเกียบ ,และนายเดชากิจ พรหมเกียรติคุณ บุตรชาย ซึ่งเป็น ซึ่งเป็นผู้ขออนุญาตจากกรมป่าไม้ ให้เข้าทำประโยชน์ ในเขตพื้นที่ป่าตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 บนเนื้อที่ 32 ไร่ 2งาน บริเวณบนเขาตะเกียบ ตำบลหนองแกอำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
ซึ่งเมื่อวันที่ 21 สิงหาคม 2562ที่ผ่านมา มีชาวบ้านร้องเรียนถึงการที่ บริษัท หัวหินพัฒนาพร็อพเพอร์ตี้ จำกัด นำเครื่องจักรเข้าไปไถปรับพื้นที่ ถมดินทำถนนชายเขาตะเกียบ ด้านฝั่งทะเลด้านหลังรูปปั้นพระยืนว่า ถือเป็นการบุกรุกทำลายสิ่งแวดล้อมหรือไม่ ต่อมาวันที่ 22 สิงหาคม นายอำเภอหัวหิน พร้อมเจ้าหน้าที่จากกรมป่าไม้ และกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ได้ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง โดย นายณัฐศักดิ์ และนายเดชากิจ ได้นำเอกสารสัญญาเช่า และภาพถ่ายมายืนยัน โดยระบุว่า ได้ทำการไถปรับพื้นที่ในเขตที่ได้รับอนุญาต ตามเงื่อนไขที่ระบุไว้ในสัญญา โดยจะทำการปรับพื้นที่เพื่อทำจุดชมวิว ทางเดินเพื่อเชื่อมไปวัดเขาตะเกียบ โดยระบุว่าชาวบ้านและนักท่องเที่ยวสามารถมาใช้ประโยชน์ร่วมกัน
ล่าสุดวันนี้ (วันที่ 2 กันยายน 2562) นายมงคลกิตติ์ หรือเต้ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หัวหน้าพรรคไทยศรีวิไลย์ พร้อมคณะ ได้ลงพื้นที่ตรวจสอบข้อเท็จจริง รับฟังข้อร้องเรียนของชาวบ้านเขาตะเกียบ โดยมีนางสาวบุษบา โชคสุชาติ รองนายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน, นายพิษณุ กล้าขาย สมาชิกสภาองค์การบริหารส่วนจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เขตอำเภอหัวหิน,นายชีพ สุกสี สมาชิกสภาเทศบาลเมืองหัวหิน พร้อมด้วย ชาวบ้านและกลุ่มชาวประมง ยื่นหนังสือคัดค้าน และให้ข้อมูลเกี่ยวกับพื้นที่รวมทั้งชูป้าย และแผ่นผ้าข้อความต่อต้านการทำถนนบนเขาตะเกียบ ทวงคืนป่าไม้เขาตะเกียบให้คนหัวหิน
โดยในครั้งนี้ นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ได้เดินทางขึ้นไปตรวจสอบสภาพการไถปรับ ถมดินทำถนน จากฝั่งด้านพระยืน ไม่ได้เดินทางไปฝั่งร้านอาหารลาแม แต่อย่างใดเนื่องจากเกรงว่าจะถูกดำเนินคดีข้อหาบุกรุกจากผู้ได้รับอนุญาต แม้ว่าจะมีการมาเชิญตัวไปก็ตาม เหมือนกรณีที่ภูเก็ต
จากการตรวจสอบวันนี้ สภาพล่าสุดพบว่า มีการปรับถนนเป็นถนนดินลูกรัง และมีการปลูกต้นไม้ 2 ชนิดคือต้นปีบ ไม้พุ่มเตี้ย และต้นพญาสัตบรรณ ไม้ยืนต้น ที่ฝั่งติดทะเล แต่จากการสภาพการปรับพื้นที่ มีความชัดเจนว่ามีการเปลี่ยนแปลงสภาพป่า โยกย้ายหินบางส่วน รวมทั้งส่งผลกระทบต่อสัตว์ป่าโดยเฉพาะลิงแสม
นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ กล่าวว่า พื้นที่ตรงนี้เป็นพื้นที่ของกรมป่าไม้ ซึ่งอนุญาตให้เอกชนเช่าให้เข้าทำประโยชน์ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 จากการตรวจสอบในข้อสัญญา การดำเนินการที่เอกชนรายนี้เข้าดำเนินการไม่สามารถทำได้ ถือเป็นการผิดเงื่อนไขสัญญา จะต้องมาพิจารณาว่าจะยกเลิกสัญญาหรือไม่ ตอนนี้เอกชนรายนี้ยังมีสัญญาอยู่ ดังนั้นกรณีนี้ถือว่ากรมป่าไม้คือผู้เสียหาย
ซึ่งทราบว่าขณะนี้อธิบดีกรมไม้ คนปัจจุบันกำลังวินิจฉัยว่าจะยกเลิกสัญญาได้หรือไม่ จะทราบคำตอบภายใน 7 วัน ถ้ามีการยกเลิกสัญญาจะต้องดำเนินการใน 2 ส่วนคือ การตั้งคณะกรรมการสอบวินัยข้าราชการที่เกี่ยวข้อง ถ้าเกษียณอายุราชการไปแล้วก็ดำเนินการตามคดีอาญา ในส่วนของเอกชนที่ถือครองพื้นที่เมื่อมีการยกเลิกสัญญาจะมีความผิดฐานบุกรุกป่า ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา 54-55 ทั้งนี้มองว่ากรมป่าไม้ต้องดำเนินการตามกฎหมายเพื่อรักษาสภาพแวดล้อม ซึ่งมีประชาชาออกมาคัดค้าน ถ้าปล่อยให้เรื่องนี้ดำเนินการต่อไป ต่อไปจะเกิดกรณีเอกชนขอเช่าพื้นที่ป่าทำรีสอร์ท โรงแรม กันมากมาย
ในวันพุธ-พฤหัสบดี จะมีการประชุม ครม.ซึ่งตนเองนั่งใกล้ นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม อยู่แล้ว คงต้องมีการพูดคุยในเรื่องนี้ ซึ่งคงไม่ขออะไร เพียงแค่ขอให้ดำเนินการตามกฎหมาย เรื่องนี้คงไม่ต้องถึงนายกรัฐมนตรี เพราะตอนนี้กำลังมีปัญหาน้ำท่วม สำหรับในเรื่องนี้ถ้าไม่ยกเลิกสัญญา ก็คงต้องดำเนินการเอาผิดกับอธิบดีกรมป่าไม้คนปัจจุบันแทน ซึ่งงานนี้ก็ขึ้นอยู่กับอธิบดีกรมป่าไม้ว่าจะเลือกรักษาป่าหรือไม่
เช่นกันนายพรเทพ วิสุทธิ์วัฒนศักดิ์ ส.ส.พรรคเพื่อไทย เขต 2 อ.หัวหิน-อ.ปราณบุรี จ.ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่าตนเองก็ได้รับเรื่องร้องเรียนกรณีมีการปรับพื้นที่ของภาคเอกชน บนเขาตะเกียบ วันนี้ก็เดินทางมาตรวจสอบข้อมูลและทราบว่า นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หน.พรรคไทยศรีวิไลย์ ก็มาเหมือนกันตนเองได้ไปพบและพูดคุยกับบริษัทเอกชน ที่เป็นผู้เช่าที่ดินจุดที่มีปัญหาจากกรมป่าไม้ ซึ่งในเมื่อ หน.พรรคไทยศรีวิไลย์ มาแล้วก็อยากให้ไปพูดคุยกันถึงปัญหาที่เกิดขึ้น แต่ก็ทราบว่าไม่ยอมมาคุยด้วย ก็เลยไม่เข้าใจ การแก้ปัญหาต้องรับฟังข้อมูลของทุกฝ่ายเพื่อนำไปสู่การแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรม ซึ่งตนเองต้องการรับฟังปัญหาและมีการจดบันทึกรายละเอียดในที่ประชุม เพื่อนำข้อมูลไปให้กับกรมป่าไม้ โดยในวันนี้ไม่มีเจ้าหน้าที่กรมป่าไม้มาแต่อย่างใด และพื้นที่ที่เช่าก็ขึ้นอยู่กับกรมป่าไม้ ซึ่งมีรายละเอียดในการให้เช่าพื้นที่
ขณะเดียวกันทางพนักงานของบริษัทเอกชนที่เป็นผู้เช่าที่ดินจากรมป่าไม้ ก็ได้มาพบและพูดคุยกับ หน.พรรคไทยศรีวิไลย์ โดยขอให้อย่าฟังข้อมูลเพียงด้านเดียว อยากให้ฟังข้อมูลจากทางผู้เช่าที่ดินบ้าง เพราะมีเอกสารที่จะชี้แจ้งให้รับทราบ
อย่างไรก็ตาม นายมงคลกิตติ์ สุขสินธารานนท์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ หน.พรรคไทยศรีวิไลย์ ก็ยืนยันว่าผมมีข้อมูลรายละเอียดและเอกสารแล้ว จึงยืนยันว่าจะไม่ไปพบกับเจ้าของที่เช่าที่ดินจากรมป่าไม้ และจะไม่เข้าไปในพื้นที่เค้าเด็ดขาดเพราะเดี๋ยวจะโดนข้อหาบุกรุกได้ หลังจากนั้นจึงเดินทางกลับทันที
