(รายงาน วิมล ทับคง) ช้างป่าที่อาศัยหากินอยู่ในบริเวณป่าพื้นที่ป่าอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน ออกมาพังร้านค้ากลางดึก จนพังครืนลงมาเกือบทั้งหลังได้รับความเสียหายอย่างหนัก เจ้าของร้านบอกว่าไม่ใช่ครั้งแรกช่วงนี้เข้ามาในหมู่บ้านพังร้านค้า หาของกินสร้างความเสียหายหนักทุกค่ำคืน จึงอยากเสนอให้เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เคลื่อนย้ายช้างเกเรออกไป เนื่องจากชาวบ้านในพื้นที่ป่าละอู ต.ห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน รู้สึกหวาดกลัวแทบทุกคืน อีกทั้งความเสียหายก็ไม่มีหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง เข้ามาช่วยเหลือเยียวยาแต่อย่างใด หนำซ้ำหลังเกิดเหตุมาเพียงถ่ายรูปและกลับไปเท่านั้น โชคดีตำรวจพลร่มค่ายนเรศวร เข้ามาช่วยเร่งซ่อมแซมให้ใช้การได้ชั่วคราว หวั่นคืนนี้ช้างป่ามาพังอีก
วันที่ 18 กันยายน 2562 ที่ผ่านมา นางฐาณิตา พะยอม เจ้าของร้านค้าของชำริมถนนทางเข้าหมู่บ้านห้วยสัตว์ใหญ่ อ.หัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ นำสื่อมวลชนดูสภาพ ของห้องเก็บของขนาดใหญ่ มีความกว่างประมาณ 8 เมตร ยาว 15 เมตร ซึ่งอยู่ด้านข้างของร้านขายของชำตนเอง ซึ่งพังลงมาเกือบทั้งแถบกองอยู่ที่พื้นข้าวของกระจักกระจาย สร้างความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะหลังคาทั้งกระเบื้องและสังกะสีเกือบ 200 แผ่น ฝาผนังที่ใช้สังกะสีตีตะปูแปะเอาไว้ และไม้คานตลอดจนเสาหักลงมา
โดยนางฐานิตา เจ้าของร้านค้าซึ่งเป็นผู้เดือดร้อน เล่าให้ฟังว่าช่วงเวลาประมาณ 02.00 น.ที่ผ่านมาได้ยินเสียงดังบริเวณด้านข้างห้องเก็บของ จึงตื่นขึ้นมาเปิดประตู้ข้างไปดูพบเห็นช้างขนาดใหญ่พังผนังด้านข้างซึ่งเป็นสังกะสีเข้ามาแล้วใช้งวงดึงเสาไม้จนหักทำให้หลังคาที่มุงด้วยสังกะสีและกะเบื้องพังลงมา ด้วยความกลัวจึงส่งเสียงร้องเรียกตะโกนให้ชาวบ้านข้างเคียงช่วย กระทั่งมีชาวบ้านช่วยกันจุกลูกโป้งหรือประทัดยักษ์ขับไล่ เพื่อให้ช้างออกไปแต่ก็ไม่ยอม ช้างก็พยามคุ้ยหาข้าวของทั้งเงาะ กับ แตงโม ซึ่งซื้อไว้อยู่ในเข่งจำนวนมากเพื่อไว้ขาย ถูกช้างป่ากินจนเกือบหมด ภายในบริเวณห้องเก็บของยังเป็นที่เก็บของทั้งอาหารสัตว์ ข้าวโพด เกลือ น้ำตาล และข้าวของอีกหลายชนิด ซึ่งได้รับความเสียหาย ตอนนั้นชาวบ้านช่วยกันไล่ยังไงก็ไม่ไปไม่มีเจ้าหน้าที่มาช่วยเลยกลัวก็กลัวไม่รู้จะทำอย่างไร
กระทั่งชาวบ้านต้องช่วยกันจุดพลุอยู่พักใหญ่ นานเกือบชั่วโมงช้างป่าตัวดังกล่าวจึงยอมออกไป และเดินกลับไปตามถนนและกบลับเข้าป่า ซึ่งวันนี้ยอมรับว่าเป็นครั้งที่ 4 แล้วสำหรับความเสียหายซึ่งครั้งนี้เสียหายหนักกว่าทุกครั้งที่ผ่านมาและไมใช่ครั้งแรกสำหรับตนเอง ครั้งที่แล้วช้างป่าเข้ามาบุกรื้อลังเบียร์แตกกระจายหลายลัง
พันตำรวจโทสุวิทย์ มณีวงษ์ ผู้บังคับกองร้อยหน่วยเฉพาะกิจ กองกำกับการ 1 ตำรวจตระเวนชายแดนค่ายนเรศวร กล่าวว่าก่อนที่จะมาพังที่เก็บของร้านค้า ก็เข้าไปในป้อมจุดตรวจที่ด่านสร้างความเสียหายด้วยเช่นกัน ซึ่งตำรวจพลร่มที่ประจำด่านอยู่ก็ช่วยกันขับไล่ออกมา หลังจากนั้นในช่วงเช้าวันนี้จึงทราบว่าไปพังที่เก็บของร้านค้าริมถนน
อย่างไรก็ตามเห็นสภาพที่พังลงมากองรวมกัน ชาวบ้านได้รับความเดือดร้อน จึงนำเจ้าหน้าที่ตำรวจพลร่มที่ประจำอยู่ที่ด่านจุดตรวจ มาช่วยกันเร่งรื้อซากทั้งหลังคา ผนัง และสิ่งของต่างๆที่ใช้การได้นำออกมาได้ส่วนหนึ่ง และช่วยทำการซ่อมผนังรั้วห้องเก็บของชั่วคราวโยใช้แผ่นสังกะสีที่ยังใช้การได้ไปแปะติดป้องกันเป็นการชั่วคราวไว้ก่อน รวมทั้งไม้คานหลังคานของหลังคาก็พยามเอายกขึ้นมาตอกตะปูไว้ชั่วคราวก่อน เบื้องต้นต้องรอเจ้าของร้านซื้อกระเบื้องหรือสังกะสี ซึ่งต้องใช้กว่า 100 แผ่น ซึ่งคงต้องรออีก 2-3 วันการซ่อมแซมน่าจะแล้วเสร็จ
เบื้องต้นยอมรับว่าพฤติกรรมของช้างป่าตัวนี้เกเรจริงๆ และชอบพังบ้านเรือร้านค้าในหมู่บ้าน เห็นด้วยกับการที่ชาวบ้านอยากให้ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เคลื่อนย้ายช้างตัวที่สร่างปัญหาออกไปไว้จุดอื่นๆ ซึ่งเรื่องนี้ทางอุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน เคยพูดเอาไว้เมื่อ 2 ปีกว่าแล้วผมจำได้ ว่าจะต้องศึกษาดูพฤติกรรมก่อน แต่ตอนนี้ก็ไม่ได้ดำเนินการอะไร จนสร้างความเดือดร้อนหนักขึ้น รวมทั้งการเฝ้าระวังช้างป่าเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน และหน่วยงานที่ร่วมกันเฝ้าก็คงต้องปรับเวลามาเป็นช่วงกลางดึกด้วย เพราะในช่วงกลางดึกไปแล้วจะเป็นช่วงที่ช้างป่าจะเดินเข้ามาในหมู่บ้าน
นางฐาณิตา พะยอม อยากให้หน่วยงานภาครัฐ ที่เกี่ยวข้องหาทางแก้ปัญหาช้างที่ออกทำลายทรัพย์สินชาวบ้านในพื้นที่และหาทางช่วยเหลือเยียวยาชาวบ้านบ้างสำหรับความเสียหายครั้งนี้ตนเองก็เสียหายหลายหมื่นบาท เวลาเหตุเกิดมีแต่เจ้าหน้าที่พากันมาถ่ายรูป แล้วก็กลับไปทุกครั้งไม่มีอะไรดีขึ้นไม่มีการช่วยเหลือ ตนเองอยากให้เจ้าหน้าที่หาทางเคลื่อนย้ายช้างป่าตัวที่เกเรเออออกไปจากพื้นที่เพราะตอนนี้ชาวบ้านเริ่มทนไม่ไหว พฤติกรรมของช้างป่าละอู ซึ่งชาวบ้านเรียกกันว่า ไอ้ด้วน หรือ บุญมี เนื่องจากหางจะด้วน เข้ามาพังร้านค้าหาของกินแทบทุกคืนในระยะนี้ ซึ่งส่วนใหญ่จะเข้ามาในช่วงกลางดึกหลังเที่ยงคืนไปแล้ว อยากให้ทุกฝ่ายเห็นความสำคัญของปัญหาระหว่างคนกับช้าง
