X

ผู้ว่าประจวบฯ “ออกโรงสยบข่าวลือ นทท.เกาหลี ถูกฉลามกัด” ที่หาดทรายน้อย

ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ออกโรงยืนยันกับสื่อมวลชน ว่าไม่มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีถูกฉลามหัวบาตรกัดเพิ่มที่หาดทรายน้อย หลังมีสื่อออนไลน์บางสำนัก นำเสนอข่าวโดยอ้างคำให้สัมภาษณ์ รองผู้ว่าฯ พร้อมเตรียมจัดระเบียบผู้บริหารระดับจังหวัดในการให้ข้อมูลข่าวสารสื่อมวลชนเพราะหากไม่มีข้อเท็จจริงจะส่งผลกระทบ   ด้านเจ้าหน้าที่อนามัยเขาเต่าเผยนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีถูกของมีคมบาดเท้าขวาเย็บแค่ 1 เข็มลักษณะบาดแผลไม่เหมือนกับบาดแผลของนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ที่ถูกฉลามกัดก่อนหน้านี้

วันที่ 1 พฤษภาคม 2561 ผู้สื่อข่าวรายงานว่าที่บริเวณหาดทรายน้อย บ้านเขาเต่า อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์  นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ พร้อมด้วย นายโชตินรินทร์  เกิดสม รองผู้ว่าราชการจังหวัด , นายรุจน์ประทีป ธรรมรพีภัทร์ นายอำเภอหัวหิน , นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน , นายวรรณ ชาตรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 จ.ประจวบคีรีขันธ์ , นายสวง สุดประเสริฐ ผอ.สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ประจวบคีรีขันธ์ พร้อม พ.ต.อ.ธนากร วงศ์สิริลักษณ์ ผกก.สภ.หัวหิน, พ.ต.ท.พิชญา พิพัฒน์บรรณกิจ สารวัตรตำรวจท่องเที่ยวหัวหิน/ชะอำ ,พ.ต.ท.ขจรยศ ทรงประดิษฐ์ สารวัตรตำรวจน้ำปากน้ำปราณ ,เจ้าหน้าที่ ปภ.เขต 4 ,ทหารชุดรักษาความสงบ พื้นที่หัวหิน , นายเจนวิทย์ ผลิศักดิ์ นักวิชาการสาธารณสุข หัวหน้าโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลเขาเต่า(รพ.สต.บ้านเขาเต่า) นางสาวศศิธร เกตุเตี้ย นักวิชาการสาธารณสุขปฎิบัติการ รพ.บ้านเขาเต่า ลงพื้นที่หาดทรายน้อย บ้านเขาเต่า ต.หนองแก อ.หัวหิน จ.ประจวบคีรีขันธ์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง กรณีมีข่าวปรากฏในสื่อออนไลน์บางสำนัก ว่านายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ให้ข่าวกับสื่อออนไลน์ว่าพบมีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ถูกฉลามกัดเท้าเป็นรายที่ 2 ที่บริเวณหาดทรายน้อย หลังจากนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ถูกฉลามหัวบาตรกัดเท้าเมื่อวันที่ 15เมษายน ที่ผ่านมาซึ่งจากข่าวดังกล่าวที่ออกไปไม่มีข้อเท็จจริงแต่ประการใด

                         นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า หลังปรากฏข่าวทางสื่อออนไลน์ตั้งแต่เย็นวานนี้บางสำนัก ทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงดังกล่าวแล้ว ขอยืนยันว่า ขณะนี้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีและรายอื่นๆถูกฉลามหัวบาตรกัดเท้าเพิ่มเป็นรายที่2 ในพื้นที่หาดทรายน้อยแต่อย่างใด  ซึ่งตนเองยืนยันว่ามีเพียงแค่รายเดียวเท่านั้นคือ นักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ซึ่งข่าวที่เกิดขึ้นจากสื่อออนไลน์ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น   เนื่องจาก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เป็นเมืองท่องเที่ยว ที่ผ่านมาหลังเกิดเหตุซึ่งถือเป็นครั้งแรกที่พบว่ามีนักท่องเที่ยวได้รับบาดเจ็บจากฉลามหัวบาตรกัด โดยทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้เพิ่มมาตรการที่รัดกุมในการดูแลนักท่องเที่ยวไม่ให้เกิดเหตุเพิ่มเติม ทั้งการติดตั้งป้ายห้ามเล่นน้ำในพื้นที่หาดทรายน้อย มีเจ้าหน้าทีเฝ้าระวัง และการเตรียมติดตั้งทุ่นตาข่ายกั้นฉลาม ซึ่งจะถือเป็นแห่งแรกของประเทศไทย ที่จะมีการติดตั้งทุ่นป้องกันเพื่อความปลอดภัย เพียงแต่ในช่วงที่รอเวลานี้ให้งดเล่นน้ำไปก่อนสักระยะเท่านั้น

                         นายพัลลภ สิงหเสนี ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า  ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีนั้น ตรวจสอบจากเจ้าหน้าที่โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านเขาเต่า แล้วพบว่า ได้รับบาดเจ็บจากบริเวณหาดบ่อแก้ว ด้านหน้าโรงแรมแห่งหนึ่ง ในอำเภอปราณบุรี โดยได้รับบาดเจ็บจากของมีคมเพียงเล็กน้อย แล้วมาทำแผลที่โรงพยาบาลส่งเสริมส่งภาพประจำตำบลบ้านเขาเต่า เย็บไปเพียง 1 เข็ม และกลับมารักษานอนพักที่โรงแรม เนื่องจากไม่ใช่บาดแผลฉกรรจ์ หรือมีความพิเศษ จึงไม่มีการถ่ายภาพไว้ เพียงแต่ให้ชาวเกาหลีรายนี้มาทำแผลทุกวัน

                        ส่วนกรณีนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ที่ถูกฉลามกัดเท้านั้น ล่าสุดทราบว่า ประสบปัญหาประกันภัยของประเทศนอร์เวย์ ไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหินนั้น  ในวันนี้ที่ศาลากลางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้มอบหมายให้นายธีรพันธ์ นันทกิจ รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ประชุมหารือกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬาฯลฯ เพื่อหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือ แม้ว่าในทางระเบียบจะไม่มีในส่วนนี้แต่เพื่อมนุษยธรรม คงต้องหาทางช่วยไม่มากก็น้อย  โดยล่าสุดนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ได้ย้ายไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทยแล้ว

                         อย่างไรก็ตามในส่วนของการที่นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ออกมาให้ข่าวกับสำนักสื่อออนไลน์บางสำนักนั้น และตรวจสอบไม่พบข้อเท็จจริง ซึ่งต่อไปจะมีมาตรการในการดำเนินการบางครั้งในการให้ข่าวที่เกิดขึ้น อาจจะจ้องมีการกรองก่อนที่จะให้ข่าวกับสื่อมวลชน โดยจะกำชับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และมีการเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่งข่าวที่สำคัญและสงผลกระทบ ทั้งเรื่องของการท่องเที่ยว ,การประกอบอาชีพต่างๆเป็นต้น ซึ่งผมจะเข้มงวดมากเพิ่มขึ้น ขณะนี้เมื่อมีการตรวจสอบของหลายฝ่ายได้ลงพื้นที่หาดทรายน้อย และบริเวณหาดบ่อแก้ว และโรงแรมที่นักท่องเที่ยวชาวเกาหลีที่ได้รับบาดเจ็บจากของมีคมบาด  ก็ไม่พบว่ามีนักท่องเที่ยวถูกฉลามกัดเพิ่มเติมแต่อย่างใด แล้วขั้นตอนต่อไปคงต้องทำหนังสือถึงสำนักข่าวต่างๆเพื่อชี้แจงข้อมูลที่ถูกต้องให้ได้รับทราบต่อไป

ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า  ส่วนนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ที่ถูกฉลามกัดเท้านั้น ล่าสุดทราบว่า ประสบปัญหาประกันภัยของประเทศนอร์เวย์ ไม่จ่ายค่ารักษาพยาบาลที่โรงพยาบาลกรุงเทพหัวหินนั้น ช่วงบ่ายจะมีการประชุมเพื่อหาแนวทางในการให้ความช่วยเหลือ แม้ว่าในทางระเบียบจะไม่มีในส่วนนี้แต่เพื่อมนุษยธรรม คงต้องหาทางช่วยไม่มากก็น้อย  โดยล่าสุดนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ได้ย้ายไปรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลศรีนครินทร์ จ.ขอนแก่น ซึ่งเป็นบ้านของภรรยาชาวไทยแล้ว

ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง นายพงษ์พันธ์ วิเชียรสมุทร รองผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ต่อการให้ข่าวกลับสื่อออนไลน์บางสำนักว่า  ข้อเท็จจริงตนเองยืนยันว่าไม่ได้ให้ข่าวตามที่มีการนำไปลงข่าวว่ามีนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีโดยฉลามหัวบาตรกัดที่หาดทรายน้อยแต่อย่างใด มีนักข่าวออนไลน์โทรศัพท์มาสอบถามว่ามีข่าวว่านักท่องเที่ยวชาวเกาหลีถูกฉลามหัวบาตรกัด ซึ่งตนเองได้ตอบไปว่าต้องตรวจสอบให้ดีก่อน เดี๋ยวจะกระทบต่อการท่องเที่ยว ซึ่งตนเองยังได้โทรศัพท์สอบถามข้อมูลไปที่ปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน ด้วยว่ามีเรื่องแบบนี้เกิดขึ้นหรือไม่ทางปลัดเทศบาลเมืองหัวหิน ก็ตอบว่ามีเพียงเขาพูดกันไม่ได้ยืนยัน

                  ด้านนายวรรณ ชาตรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ประจวบคีรีขันธ์ กล่าวว่า เมื่อวิเคราะห์จากลักษณะบาดแผล ซึ่งเป็นบาดแผลที่เท้า ขณะเดินลงไปในทะเล เท้าจมอยู่ในทราย  ซึ่งพฤติกรรมของฉลามจะกัดเหยื่อที่ว่ายไปมา ในน้ำ จึงสันนิษฐานได้ว่าไม่ใช่ลามกัด   ทั้งนี้ในส่วนของทุ่นตาข่ายกั้นฉลาม ทางทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.)ได้ประสานบริษัทที่มีความชำนาญในการผลิตทุ่นและตาข่ายแล้ว รอเพียงการอนุมัติงบประมาณ และจัดซื้อจัดจ้างของทางเทศบาลเมืองหัวหินเท่านั้น ซึ่งทราบว่าทางเทศบาลจะได้ดำเนินการอย่างเร็วที่สุดเพื่อความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว

นอกจากนี้นายวรรณ ชาตรี ผู้อำนวยการส่วนอนุรักษ์ทรัพยากรทางทะเล สำนักงานบริหารจัดการทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่งที่ 4 ประจวบคีรีขันธ์  ได้กล่าวกับทางผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ว่าทางกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง(ทช.) หลังทราบข่าวเมื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมาแล้วว่ามีพบนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีถูกฉลามหัวบาตรกัดแต่อย่างใด ได้ดำเนินการแก้ไขข่าวผ่านทางเว็ปไซด์ของ กรมทช.ไปให้แล้วในเบื้องต้น

                   ดังนั้นในส่วนของการให้ข่าวขอให้มีการระมัดระวังหากนำเรื่องอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทางทะเล มาเชื่อมโยงกับเรื่องของฉลามหัวบาตรที่กัดนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ก็จะต้องมาตามแก้ไขชี้แจงข้อเท็จจริงกัน อีก   และในส่วนของสำนักข่าวที่มีการกล่าวอ้างทางจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ก็ต้องรบกวนให้ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์  ดำเนินการชี้แจงข้อเท็จจริง เพราะมันกระทบต่อภาพลักษณ์การท่องเที่ยว

นายนพพร วุฒิกุล นายกเทศมนตรีเมืองหัวหิน กล่าวว่า ขณะนี้ทางเทศบาลเมืองหัวหิน มีการเตรียมงบประมาณไว้แล้ว  รอแบบแปลนของทุ่นตาข่ายหากผ่านความเห็นชอบแล้ว  ก็จะดำเนินการให้เป็นไปตามระเบียบของทางฝ่ายพัสดุ อย่างไรก็ตามจะรีบดำเนินการโดยเร็วเพราะเล็งเห็นถึงความปลอดภัยของนักท่องเที่ยว และวันนี้ถือเป็นสิ่งที่น่ายินดีว่า ผู้ว่าราชการจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ ได้ลงพื้นที่มาตรวจสอบข้อเท็จจริงและชี้แจงกับสื่อมวลชน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และสังคมให้ทราบข้อเท็จจริงว่าไม่พบมีฉลามหัวบาตรมากัดนักท่องเที่ยวชาวเกาหลีแต่ย่างใด ซึ่งจากการชี้แจงไปแล้วจะเกิดความเข้าใจและไม่กระทบการท่องเที่ยว

ขณะเดียวกันนางสาวศศิธร เกตุเตี้ย นักวิชาการสาธารณสุขปฎิบัติการ โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล บ้านเขาเต่า กล่าวว่า  เมื่อวันที่ 19 เมษายน 2561 มีเจ้าหน้าที่โรงแรม พานักท่องเที่ยวหญิง ชาวเกาหลี วัย60ปี มารักษาแผลที่เท้าขวาด้วย ลักษณะบาดแผลถูกของมีคมบาดเป็นแผลที่ข้อเท้าบริเวณเอ็นร้อยหวาย แผลด้านในยาวประมาณ 1เซนติเมตร ด้านนอกยาว 2เซนติเมตร จึงทำการเย็บบาดแผลให้ 1เข็ม สอบถามนักท่องเที่ยวได้รับแจ้งว่าลงไปเล่นน้ำไม่ลึกมาก และรู้สึกเจ็บเท้า โดยไม่เห็นว่าถูกสิ่งใด จึงเดินขึ้นจากหาด มายังโรงแรงที่พัก เพื่อให้เจ้าหน้าที่พามาทำแผล โดยเมื่อดูแผลของนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์เทียบกับนักท่องเที่ยวชาวเกาหลี ลักษณะบาดแผลไม่เหมือนกัน โดยบาดแผลของชาวเกาหลี ไม่ใช่ลักษระของรอยแนวฟันฉลาม เป็นบาดแผลของมีคม จึงน่าจะไม่ใช่แผลจากฉลามกัดเท้า

                ด้านนายเพรียวพันธ์ คชพลายุกต์  ผู้จัดการฝ่ายบุคคล เสน่ห์ บีช คลับ หาดทรายน้อย กล่าวเพิ่มเติมว่า ตั้งแต่เกิดเหตุนักท่องเที่ยวชาวนอร์เวย์ ทางโรงแรมได้ช่วยประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนนักท่องเที่ยว รวมถึงทำป้ายประกาศเตือนติดบนชายหาด และจนถึงขณะนี้ยังไม่มีนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวหาดทรายน้อย ได้รับบาดเจ็บเพิ่มเติม แม้แต่เพรียงบาดยังไม่มี รู้สึกแปลกใจมากที่เกิดข่าวดังกล่าวขึ้นมาไม่อยากให้เหมารวมว่านักท่องเที่ยวที่รับบาดเจ็บจะโดนฉลามกัดทั้งหมด อยากให้มีการตรวจสอบข้อเท็จจริงก่อนให้ข้อมูลข่าวสารสื่อมวลชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขณะเดียวกันที่วัดถ้ำเขาเต่า ยังคงมีประชาชนนักท่องเที่ยวเดินทางไปชมฉลามหัวบาตรในช่วงเย็นของทุกวันๆซึ่งก็ยังคงพบเห็นฉลามหัวบาตรออกมาว่ายหากินตั้งแต่ 1-5 ตัวในทุกๆวัน

ถูกใจข่าวนี้ไหม?

คลิกที่ดาวเพื่อโหวต

ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต:

ติดตามข่าวสารผ่าน Line 77 ข่าวเด็ด กดปุ่มเพิ่มเพื่อนเลย

เพิ่มเพื่อน