#77ข่าวเด็ดประจวบคีรีขันธ์ การเปลี่ยนถุงบิ้กแบ็คจากถุงสีดำปนเปื้อนผงคาร์บอน เป็นถุงบิ้กแบ็คสีขาว ประสบปัญหาล่าช้ากว่าแผนเดิม เนื่องจากคลื่นลมแรง และกำลังคนไม่เพียงพอ ล่าสุดนายอำเภอทับสะแกสั่งปรับแผนใหม่ และระดมเจ้าหน้าที่ อส. อบต.ทับสะแก และภาคเอกชนมาเพิ่ม คาดว่าจะเร่งดำเนินให้เสร็จสิ้นประมาณวันเสาร์นี้ (ข่าว/ภาพ วิมล ทับคง)
ความคืบหน้ากรณีการเปลี่ยนถุงบิ้กแบ็คสีดำที่มีการปนเปื้อนผงคาร์บอน ซึ่งอาจจะส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และสุขภาพประชาชน ที่ชายหาดทุ่งประดู่ ตำบลทับสะแก อำเภอทับสะแก จังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เป็นถุงสีขาวขนาดความจุ 1 ตันแทน ตามแนวชายหาดเดิมระยะ 300 เมตร เพื่อป้องกันการกัดเซาะชายหาดในช่วงมรสุมซึ่งเป็นการแก้ไขปัญหาในระยะสั้น โดยเริ่มดำเนินการเปลี่ยนถุงสีดำตั้งแต่ช่วงเย็นวานนี้ (วันที่ 16 ตุลาคม 2562) ใช้รถแบ็คโฮของศูนย์ป้องกันแบะบรรเทาสาธารณภัย เขต 4 ประจวบคีรีขันธ์ ,สำนักงานชลประทานจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ และภาคเอกชน
ข่าวน่าสนใจ:
- รวบสาวใหญ่ซิ่งมอไซค์ขนยาบ้า 516,000 เม็ด
- หมดวาระอบจ.ตรัง รุ่งขึ้น “บุ่นเล้ง” เปิดตัวทันควัน ใช้ชื่อ “ทีมนายกบุ่นเล้ง” แทน “ทีมกิจปวงชน” ชูนโยบาย “รวมพลังที่ยิ่งใหญ่ ขับเคลื่อนตรังให้เป็น 1”
- มทบ.32 เสริมกำลังเตรียมป้องกันและแก้ไขปัญหาไฟป่า หมอกควัน และฝุ่น PM 2.5
- ตรัง แม่ค้าร้านดังถูกหลอก อ้างเป็นเลขานายกฯสั่งข้าวกล่องช่วยน้ำท่วมสูญเงิน 3 พัน
โดยแบ่งพื้นที่ทำการเปลี่ยนถุงสีดำเดิมออก และเปลี่ยนถุงสีขาวตามไปพร้อมกัน ซึ่งวันแรกทำการเปลี่ยนได้เพียงประมาณ 30 ถุง หรือประมาณ 10 เมตร เท่านั้น เนื่องจากขาดกำลังคน และมีคลื่นลม ฝนตกหนัก ขณะเดียวกันชาวบ้านก็เป็นห่วงถึงผลกระทบระหว่างที่มีการรื้อถุงสีดำออก แต่ยังไม่มีการเปลี่ยนถุงใหม่สีขาวเข้าไปแทนที่ทันที กลัวจะล่าช้าเหมือนที่ผ่านมา เนื่องจากขณะนี้เข้าสู่มรสุม และลมเปลี่ยนทิศ
ล่าสุดวันนี้ วันที่ 17 ตุลาคม 2562 นายปรีดา สุขใจ นายอำเภอทับสะแก ได้ลงพื้นที่พบปะ ทำความเข้าใจกับชาวบ้าน ชายหาดทุ่งประดู่ เนื่องจากต้องการปรับแผนการทำงานแข่งกับเวลา เนื่องจากช่วงนี้มีฝนตก และอาจจะมีลมมรสุมเข้ามา ทำให้ตลอดช่วงเช้าไม่สามารถทำงานเปลี่ยนถุงบิ้กแบ็คได้ แผนงานที่วางไว้อาจจะล่าช้าออกไป นายอำเภอทับสะแก ชี้แจงกับชาวบ้านว่า ถุงบิ้กแบ็คสีขาวที่นำมาเปลี่ยนใหม่ มีขนาดใหญ่กว่าเดิม ทำให้สามารถทำแนวกันคลื่นได้แข็งแรง และสูงขึ้นกว่าเดิม แต่ก็มีปัญหาสำคัญคือ การทำงานจะใช้เวลามากกว่าถุงเดิม ทำให้ต้องมีการปรับแผนใหม่ จากเดิมที่รถแบ็คโฮ 1 คัน จะทำทั้งรื้อถุงเก่าและเปลี่ยนถุงใหม่ เป็นแยกส่วนกันโดยแบ็คโฮคันแรกทำการรื้อถุงดำออก และแบ็คโฮอีกคันจะทำการเปลี่ยนถุงสีขาวไปตามหลัง รวมทั้งมีการเพิ่มกำลังคนเข้ามาช่วยในการบรรจุถุงทรายใหม่ เก็บถุงทรายเดิม และเคลียร์พื้นที่ อำนวยความสะดวก จากกองร้อย อส.ทับสะแก ,อบต.ทับสะแก และภาคเอกชนในพื้นที่ อีกกว่า 20 คน โดยจะผลัดเปลี่ยนกันทำงานทั้งกลางวันและกลางคืน คาดว่าจะใช้เวลาในการเปลี่ยนถุงบิ้กแบ็คสีดำเป็นถุงสีขาวจำนวน 1,000 ถุง หรือระยะทาง 300 เมตรในจุดเสี่ยงให้เสร็จในระยะ 2 วัน หรือให้เสร็จภายในวันเสาร์ สำหรับการวางถุงบิ๊กแบ็คจะวางตามแนวเดิม คือวางเป็นฐาน 2 ถุง และวางด้านบน 1 ถุง จากนั้นจะมีการตั้งแนวรั้วไม้ยึดถุงอีกครั้งเพื่อไม่ให้ถุงล้มลงไปทะเล
โดยวันนี้ชาวบ้านทุ่งประดู่ ได้มีการเสนอให้วางถุงสีขาวซ้อนด้านหน้าแนวถุงสีดำให้เสร็จทั้งหมดก่อน จากนั้นจึงค่อยรื้อถุงสีดำออก แต่ไม่สามารถทำได้ เนื่องจากแนวชายหาดบางจุดไม่มีพื้นที่ให้รถแบ็คโฮเข้าทำงาน ซึ่งนายอำเภอทับสะแก ได้ยืนยันกับชาวบ้านทุ่งประดู่ว่าจะเร่งดำเนินการวางแนวถุงบิ้กแบ็คสีขาวเพื่อป้องกันการกัดเซาะชายหาดให้เสร็จโดยเร็วที่สุด
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: