กระบี่-แม่เชื่อปัญหาเดียวหนุ่มสวนปาล์มถูกยิงที่กระบี่ เผยพูดเป็นลางจะซื้อของเซอร์ไพรส์วันเกิดพ่อ ครอบครัวหวาดผวาวอนตำรวจเร่งจับ
จากคดีมือปืนซุ่มในสวนปาล์ม ยิงนายวิรัตน์ ศรีขนุน อายุ 21 ปี เสียชีวิตที่หน้าบ้านพักคนงานสวนปาล์ม หมู่ 3 ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เมื่อคืนวันที่ 3 ธ.ค.ที่ผ่านมา
ล่าสุดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมาตำรวจกองพิสูจน์หลักฐาน ภ.จ.กระบี่ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอีกครั้ง เพื่อหาพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ แต่ตำรวจไม่พบหลักฐานเพิ่มเติม แต่จำลองจุดที่คนร้ายน่าจะซุ่มยิง คาดว่าเป็นพื้นที่ภายในสวนปาล์ม ห่างจากบ้านประมาณ 50-60 เมตร โดยคาดว่าคนร้ายน่าจะใช้อาวุธปืนยาวขนาด .22 แบบติดกล้อง ซึ่งเป็นปืนที่ชาวบ้านนิยมใช้ในการล่าสัตว์ จากนั้น จนท.ตำรวจ สภ.อ่าวลึก ส่งศพของนายวิรัตน์ ไปผ่านำหัวกระสุนออกมาจากศพ พบเป็นหัวกระสุนขนาด .22 จึงเก็บไว้เป็นหลักฐาน ในส่วนของคดี ตำรวจให้น้ำหนักไปที่ 2 ประเด็น คือเรื่องยาเสพติด กับปัญหาลักเล็กขโมยน้อย ส่วนความขัดแย้งกับคนในครอบครัวนั้น ตอนนี้ตัดทิ้งได้แล้ว
ต่อมาผู้สื่อข่าวเดินทางไปยังวัดบ้านกลาง ต.บ้านกลาง อ.อ่าวลึก เพื่อพบกับ นางปรีดา สามารถ อายุ 40 ปี แม่ของนายวิรัตน์ ผู้ตาย โดยบรรยากาศภายในวัดเป็นไปอย่างโศกเศร้า ทันทีที่เจ้าหน้าที่นำศพมาส่งให้ญาติประกอบพิธีทางศาสนา นางปรีดา ถึงกับร่ำให้ปริ่มขาดใจเมื่อเห็นศพลูกชาย จากนั้นจึงพาผู้สื่อข่าวเดินทางเข้าไปยังบ้านที่เกิดเหตุ อีกครั้ง เพื่อเล่าเหตุการณ์ให้ฟัง
น.ส.เอ (นามสมมุติ) อายุ 18 ปี น้องสาวของผู้ตาย ซึ่งเป็นผู้ที่เห็นเหตุการณ์ เล่าให้ฟังว่า เมื่อคืนช่วงเกิดเหตุ พี่ชายของตนคือนายวิรัตน์ กำลังตักข้าวใส่จานเดินออกมากินที่หน้าบ้าน ระหว่างนั้นตนยืนอยู่ใกล้กับพี่ชาย ก็ได้ยินพี่ชายบอกให้ตนเข้าบ้าน เพราะเห็นเงาคนอยู่ในสวนปาล์ม ตัวพี่ชายจึงเดินถือจานข้าวออกไปดูที่หน้าบ้าน แต่พอเดินพ้นปากประตูบ้านเท่านั้น ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้น 1 นัด พี่ชายวิ่งกลับเข้ามาในบ้าน ทิ้งจานข้าว แล้วล้มลงใกล้ประตู ตนจึงตะโกนบอกพ่อ กับแม่ และแฟนที่อยู่ด้วยกันในบ้าน ให้มาช่วยกันเพราะเห็นว่าพี่ชายถูกยิง แต่ตัวพี่ชายเองก็พูดอะไรไม่ออกแล้ว ก่อนจะหมดสติไป และญาติๆ ช่วยกันนำตัวส่ง รพ.
น.ส.เอ เล่าอีกว่า ก่อนนี้พี่ชายเคยบอกว่ามีคนคิดจะปองร้าย เพราะก่อนจะเกิดเหตุ 2-3 วัน จะเห็นเงาคนมาเดินวนเวียนอยู่แถวบ้านทุกคืน ช่วงดึกๆ ส่วนสาเหตุการสังหารจะเป็นเรื่องอะไร ตนเองก็ไม่ทราบ เพราะพี่ชายไม่ค่อยจะเล่าปัญหาอะไรให้ฟัง ในคืนเกิดเหตุ แปลกใจที่สุนัขที่เลี้ยงไว้ 2 ตัว ไม่ส่งเสียงเห่าเลย ทั้งๆ ที่ปกติหากมีคนแปลกหน้า สุนัขจะเห่าตลอด ตอนนี้ทุกคนในบ้านพากันหวาดผวา เพราะกลัวคนร้ายจะหวนกลับมาทำร้านคนในครอบครัวอีก เมื่อคืนที่ผ่านมา ตนฝันเห็นพี่ชายมาบอก ว่าฝากให้แฟนของตนช่วยดูและ พ่อกับแม่ และตนให้ดี ขอให้พี่ชายเป็นคนเดียวที่รับเคราะห์ ไม่อยากให้คนในบ้านต้องมารับเคราะห์ด้วย
ด้านนางปรีดา บอกกับผู้สื่อข่าวด้วยว่า เรื่องปมสังหารนั้น ตนเชื่อว่ามีเพียงเรื่องเดียว คือก่อนนี้ลูกชายถูกกล่าวหาว่าไปขโมยรถ จยย. ซึ่งลูกชายตนทำแต่งาน ไม่เคยไปลักเล็กขโมยน้อยอะไรของใคร และทราบว่ามีคนมาเตือนให้ระวังตัว ส่วนเรื่องอื่นนั้น เชื่อว่าไม่น่าจะเป็นชนวนสังหาร โดยเฉพาะเรื่องยาเสพติด ซึ่งยอมรับว่าลูกชายมีเสพยาบ้าง แต่ไม่ถึงกับไปค้า เพราะหากค้ายาจริง ที่บ้านก็คงไม่มีฐานะยากจนแบบนี้ ตอนนี้แม้แต่เงินจะทำศพลูกชายตนยังไม่มี ต้องไปหยิบยืมเงินจากคนอื่นมาใช้ก่อน ส่วนปัญหาขัดแย้งกันในครอบครัว ก็ไม่ได้รุนแรงถึงขนาดต้องเอาชีวิตกัน เป็นเพียงเรื่องทะเลาะเบาะแว้งกันปกติทั่วๆ ไป ตอนนี้ตนและครอบครัวกลัวมาก กลัวคนร้ายจะกลับมาทำร้ายพวกตนอีก
นางปรีดา บอกอีกว่า เมื่อคืนก่อนจะเกิดเหตุ ตนยังได้ยินลูกชายพูดว่า วันที่ 6 ธ.ค.นี้ จะทำเซอร์ไพรส์ให้พ่อ เพราะเป็นวันเกิดพ่อ บอกว่าปีนี้จะซื้อของขวัญมาเซอร์ไพรส์ เพราะที่ผ่านมา ไม่เคยมีของขวัญอะไรให้พ่อเลย ไม่คิดว่าจะเป็นลางบอกเหตุร้ายเลย ก่อนเกิดเหตุ ลูกชายก็กำลังจะกินข้าว ยังไม่ทันได้ตักข้าวเข้าปากสักคำ ก็มาถูกยิงซะก่อน ตนพอทราบเหตุก็รู้สึกช๊อกมาก จึงอยากฝากให้ตำรวจช่วยเร่งรัดทำคดี และติดตามตัวคนร้ายมาดำเนินคดีให้ได้โดยเร็ว เพราะพวกตนกลัวกันมากตอนนี้
