กระบี่-คืบหน้าร่างทรงตกเขาดับ ตำรวจสภ.อ่าวลึก แจงยังไม่สรุปคดีร่างทรงตกเขา ว่าเกิดจากอุบัติเหตุ พร้อมตั้งสมมุติฐานไว้ 3 สาเหตุ อุบัติเหตุ มีคนผลัก และมีการจ้างวานให้กระทำ ยืนยันจะสืบสวนจนถึงที่สุด
จากกรณี นางสมฤดี นาคมนต์ อายุ 47 ปี อยู่บ้านเลขที่ 344/2 หมู่ 12 ต.พรหมพิราม อ.พรหมพิราม จ.พิษณุโลก ซึ่งเป็นร่างทรงปู่ฤๅษีนาคราช ประสบเหตุพลัดตกหน้าผาลงไปในเหวลึกกว่า 40 เมตร เสียชีวิตอย่างน่าสยดสยอง เหตุเกิดบริเวณสถานปฏิบัติธรรมด้านหลังถ้ำคลัง หมู่ 6 บ้านคีรีวง ต.อ่าวลึกน้อย อ.อ่าวลึก จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 7 มีนาคม ที่ผ่านมา ซึ่งก่อนหน้านี้ผู้ตายได้นิมิตเห็นปู่ฤๅษีให้มาปฏิบัติธรรมที่เขาวัดถ้ำคลังเป็นเวลา 7 วัน ก่อนพบเป็นศพตกลงไปที่หน้าผา ขณะที่ญาติผู้ตาย ยังติดใจสาเหตุการเสียชีวิต โดยระบุว่า ผู้ตายตกจากเขาในลักษณะหัวทิ่มลง แต่ทำไมกลับนอนหงาย หรือจะเป็นการฆาตกรรมอำพราง เนื่องจากผู้ตายเคยทำธุรกิจกับคนในพื้นที่ภาคใต้ เมื่อประมาณ 3 ปีที่แล้ว แต่ถูกเชิดเงินนับแสนบาท เคยถามทวงคืนแต่ก็ยังไม่ได้เงินคืน นอกจากนี้ ก็ยังมีลูกหนี้รายอื่นมาขอยืมเงินอีกจำนวนมากก็ไม่ได้คืนเช่นกัน จึงอยากให้เจ้าหน้าที่ตำรวจสอบสวนอย่างละเอียดอีกครั้ง เพื่อความสบายใจของครอบครัว
ความคืบหน้าวันที่ 10 มี.ค.63 ที่สถานีตำรวจภูธรอ่าวลึก ทางพ.ต.อ.สัญญา ทองสวัสดิ์ ผกก.สภ.อ่าวลึก ได้เรียกเจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนมาประชุมด่วน เพื่อคลี่คลายคดีดังกล่าว พร้อมทั้งเรียกทีมกู้ชีพอ่าวลึกวิลล่า มาสอบปากคำเพิ่มเติม เนื่องจากเป็นชุดแรกที่เข้าไปช่วยเคลื่อนย้ายศพออกมาจากจุดเกิดเหตุประกอบสำนวนคดี ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้ตั้งสมมุติฐานสาเหตุการตกหน้าผาไว้ 3 สาเหตุ คือ 1. เป็นอุบัติเหตุ 2. มีคนผลักให้ตกลงไป และ3. มีการจ้างวานบุคคลอื่นทำให้ตกลงไป แต่ขณะนี้ยังสรุปไม่ได้ว่า เกิดจากสาเหตุอะไร ต้องรอหลักฐาน ผลการชันสูตรอย่างเป็นทางการจากแพทย์อีกครั้ง
พ.ต.อ.สัญญา กล่าวว่า ในทางคดีนั้น ทางเจ้าหน้าที่ยังไม่ได้สรุปปิดคดีว่าเกิดจากอุบัติเหตุแต่อย่างใด ขอให้ทางญาติให้เวลาเจ้าหน้าที่ได้ทำงาน ในเบื้องต้นก็รับเป็นคดีชันสูตรพลิกศพไว้ก่อน หาพบว่ามีผู้กระทำผิดก็จะดำเนินคดีในขั้นตอนต่อไป ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐาน อีกหลายขึ้นตอน รวมทั้งพยานวัตถุ เช่นเสื้อผ้าของผู้ตายซึ่งจะต้องส่งไปพิสูจน์หาดีเอ็นเอของผู้ต้องสงสัยในกรณีที่เกิดจากผู้อื่นกระทำโดยการผลักให้ตกจากหน้าผา และจะต้องตรวจสอบการใช้โทรศัพท์ มือถือผู้ตายด้วยว่า ผู้ตายติดต่อกับใครบ้าง ก่อนที่จะเสียชีวิต รวมโทรศัพท์ของพระในสำนักปฏิบัติธรรม และแม่ชีในสำนักปฏิบัติธรรม ซึ่งอยู่ใกล้ผู้ตายก่อนเกิดเหตุด้วยว่ามีความเชื่อมโยงกันอย่างไร นอกจากนี้ยังต้องตรวจสอบกล้องวงจรปิดบริเวณใกล้เคียงว่า ผู้ตายมาที่เกิดเหตุเมื่อไหร่ กับใคร มาด้วยรถอะไร ขอฝากไปยังญาติผู้ตายว่า ทางตำรวจจะทำการสืบสวนจนถึงที่สุด ทั้งประเด็น การปล่อยเงินกู้ หรือ การทวงหนี้ หรือปัญหาขัดแย้งอื่นๆ ซึ่งจะทำการสืบสวนจนถึงที่สุด
พ.ต.อ.สัญญา กล่าวอีกว่า กรณีที่ ญาติตายตั้งข้อสังเกตว่า ผู้ตายพลัดตกจากเขาในลักษณะหัวทิ่ม แต่มาเจอภาพในลักษณะนอนหงายนั้น ต้องขอเรียนชี้แจงว่า ผู้ตายตกจากหน้าผาสูงประมาณ 30เมตร ซึ่งบริเวณหน้าผามีชะง่อนหิน หลายจุด ร่างผู้ตายอาจจะไปกระแทก ศพอาจจะอยู่ในสภาพนอนคว่ำ หรือนอนหงาย ก็เป็นไปได้ทั้งสองอย่าง ทั้งนี้ ต้องรอดูผลการชันสูตรพลิกศพของแพทย์ อย่างเป็นทางการอีกครั้ง ว่ามีบาดแผลส่วนไหนบ้างของผู้ตาย ที่เป็นมีร่องรอยการกระแทกรุนแรง จึงยังไม่สามารถบอกได้ว่าผู้ตายเสียชีวิตในลักษณะนอนคว่ำหรือนอนหงาย
ขณะที่นายอนุพงษ์ บุญมาก อายุ21 ปี อาสาสมัครหน่วยกู้ชีพอ่าวลึกวิลล่า ที่เขาไปพื้นที่ชุดแรก เปิดเผยว่า หลังจากที่เข้าไปยังที่เกิดเหตุครั้งแรก ก็มองจากด้านบนหน้าผาลงไป ก็ไม่ชัดว่า ศพอยู่ในลักษณะนอนคว่ำหรือนอนหงาย ซึ่งระหว่างนั้นตนก็ลงมาด้านล่างประมาณ 20นาที เพื่อไปตามทีมปีนหน้าผาให้มาช่วยลงไปกู้ศพ แล้วขึ้นไปอีกรอบโดยลงไปจุดที่พบศพพร้อมทีมปีนผา ก็เห็นชัดเจนว่าศพ อยู่ในท่านอนหงาย และเห็นรอยบาดแผลที่หน้าผาก และบริเวณใกล้ๆ ไม่พบเชือกใดๆ มีเพียงเถาวัลย์รอบๆ
ถูกใจข่าวนี้ไหม?
คลิกที่ดาวเพื่อโหวต
ความนิยมข่าวนี้ / 5. จำนวนโหวต: