กระบี่ – จนท.ลงพื้นที่รับตัวคนใกล้ชิด ผู้ป่วยโควิด ต.เขาคราม ตรวจหาเชื้อเพิ่มอีก 4 ราย
จากกรณีที่พบผู้ป่วยติดเชื้อโควิด อาศัยอยู่ในพื้นที่ ม.3 ต.เขาคราม อ.เมือง จ.กระบี่ เมื่อวันที่ 4 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นผู้ป่วยรายแรกที่พบในหมู่บ้าน สร้างความแตกตื่นไปทั้งตำบล ซึ่งจากการตรวจสอบประวัติ พบว่าผู้ป่วยรายนี้ ได้เดินทางไปยังพื้นที่ต่าง ๆ ในตำบลใกล้เคียง ทั้ง ต.หนองทะเล ต.อ่าวนาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวซื่อดังของจังหวัด นอกจากนี้ยังพบว่า ผู้ป่วยรายนี้ ยังมีประวัติเดินทางมาจากหาดป่าตอง จ.ภูเก็ต ซึ่งเป็นแหล่งระบาดใหญ่ ของภาคใต้ ก่อนที่แพทย์ รพ.กระบี่ จะตรวจพบเชื้อและยืนยันป่วยด้วยโรคโควิด ซึ่งขณะนี้ผู้ป่วยรายดังกล่าวได้อยู่ในความดูแลของแพทย์แล้ว
คืบหน้า เมื่อเวลา 09.30 น.ของวันที่ 5 เมษายน พ.ศ.2563 ทางนายมูหาด (ขอสงวนนามสกุล)อยู่บ้านเลขที่ 37/1 หมู่ 3 ต.เขาคราม อ.เมืองกระบี่ พ่อของนางอารีย์ (ขอสงวนนามสกุล) ผู้ป่วยโควิด 19 ได้เปิดเผยว่า เมื่อคืนนี้ลูกของ นางอารีย์ 2 คน ที่มาฝากให้ตนเองดูแล คนโต อายุ 3 ขวบกว่า คนเล็ก อายุ 2 ขวบกว่า มีอาการตัวร้อน ร้องทั้งคืน และ นางกอลีม๊ะ ภรรยา ของตน พร้อมลูกสาวของตนอีก 1 คน ซึ่งเป็นผู้ที่อยู่ใกล้ชิด นางอารีย์ มากที่สุด น่าจะมีโอกาสติดเชื่อโควิด 19 จากนางอารีย์ สูงมาก ตนเองจะอาศัยเพื่อนบ้านให้ไปส่งที่โรงพยาบาลกระบี่ก็ไม่มีใครกล้าไป จึงได้ประสานงานไปที่ นายสุชา วันศุกร์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 บ้านไหนหนัง ให้ติดต่อรถฉุกเฉินมารับ ภรรยา ลูก และหลานอีก 2 คน ทั้งหมด 4 คน ไปตรวจที่โรงพยาบาลกระบี่
ด้าน นายสุชา วันศุกร์ ผู้ใหญ่บ้าน หมู่ 3 ต.เขาคราม ได้กล่าวว่า หลังจากได้รับการประสานจากญาติของผู้โควิด ให้นำตัวผู้ใกล้ชิดส่งตรวจอาการ เนื่องจากพบบางคนเริ่มป่วยเป็นไข้ ก็ได้ประสานไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง พบว่าการติดต่อประสานงาน ก็ยากลำบาก แค่ประสานงานขอรถให้มารับกลุ่มเสี่ยง กว่าจะได้ก็ยากลำบากมากๆ จะ ขอช่วยชาวบ้านก็ไม่มีใครกล้าไปส่ง จะไปเองก็ไม่ได้ เพราะมีเด็กเล็กๆ อยู่ด้วย ตนเองมีความรู้สึกหนักใจมากๆ คนที่ทราบว่าติดเชื้อแล้ว เหมือนนางอารีย์ ได้ไปรับการรักษาแล้ว ก็หมดห่วง แต่ที่เป็นปัญหา คือ 9 คน ที่อยู่ที่บ้าน ยังไม่รู้ว่าจะทำอย่างไร ตอนนี้ไปโรงพยาบาลอีก 4 คน และยังอยู่ ที่บ้านอีก 5 คน จะทำกันอย่างไร ทั้งหมดในครอบครัวนี้ มีแนวโน้มติดเชื้อโควิด 19 สูงมาก
นายสุชา กล่าวด้วยว่า หลังจากตรวจพบ นางอารีย์ ติดเชื้อแล้ว ที่บ้านพ่อ แม่ของผู้ป่วย ไม่ได้ทำอะไรเลย แม้กระทั้งน้ำยาฆ่าเชื้อ ก็ยังไม่ได้ฉีดพ่น เนื่องจากไม่มีเครื่องมือและอุปกรณ์ และไมรู้ว่าหน่วยงานไหนรับผิดชอบ หรือว่าให้ อสม.หรือชุมชนทำกันเอง อีกประการหนึ่ง ถ้าหากว่าทุกคนถูกกักตัวไม่ให้ออกจากบ้าน หัวหน้าครอบครัวก็ขาดรายได้ 9 คน ระยะเวลา 14 จะเอาอะไรกิน ตอนนี้ตนเอง พร้อมด้วยนายอ้าหมาด มุคุระ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเขาคราม และเพื่อนบ้านต้องช่วยกันบริจาค ข้าวสาร อาหารแห้ง คนละเล็ก คนละน้อยเป็นการแก้ปัญหาเบื้องต้นไปก่อน
ทางด้าน นายอ้าหมาด มุคุระ ประธานสภาองค์การบริหารส่วนตำบลเขาคราม กล่าวเพิ่มด้วยว่า ตนเองดูข่าว เห็นกลุ่มเสี่ยงที่กลับมาจากต่างประเทศ เขาให้ที่พักสบายๆ มีอาหารดีๆ ให้รับประทาน แต่นี้ต่างจังหวัด มันยากลำบาก แตกต่างกันกับผู้ที่กลับมาจากเมืองนอกอย่างสิ้นเชิง ต้องยอมรับว่า เชื้อโควิดเป็นเรื่องที่อันตรายสำหรับชาวบ้าน หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ควรจะเข้ามาดูแลให้มากกว่านี้ ไม่ใช่ปล่อยให้ รพ.สต. อสม.ในหมู่บ้าน ที่ไม่มีงบประมาณ และอุปกรณ์ เซฟตัวเอง ไปช่วยเหลือผู้ป่วยหรือกลุ่มเสี่ยง เพราะจะทำให้ติดเชื้อกันไปหมด
